เรื่องน่ารู้
ปิดท้ายโครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง" ริมฝั่งทะเลจังหวัดระนอง กับผู้ประกอบการกาแฟ "ก้อง วัลเลย์"
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พาผู้ร่วมกิจกรรมเดินทางมาสำรวจความงดงามที่จังหวัดระนอง พร้อมพบกับ สุพจน์ กรประสิทธ์วัฒน์ ผู้ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้น้อมนำมาใช้กับธุรกิจกาแฟของตัวเอง
โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 และเป็นทริพปิดท้ายโครงการฯ คณะผู้บริหารของ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมใจร่วมเดินทางไปกับสื่อมวลชน นำโดย พีเตอร์ แกลลี รองประธานสายงานสื่อสารองค์กร นัยสิทธิ์ รัตนชมภู รองประธานสายงานบริหารซัพพลายเชน รวมทั้ง ดร. ลาวานยา วัดกอนเกอร์ รองประธานสายงานสื่อสารองค์กร บริษัท นิสสัน เอเชีย และโอเชียเนีย จำกัด
สุพจน์ ผู้ถูกขนานนามว่า “เกษตรกรอินดี้” ได้ประยุกต์ใช้ และปรับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเรื่องการพึ่งพาตนเองมาสู่ธุรกิจและชีวิตประจำวัน โดยได้ก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนภายใต้กิจการ “ก้อง วัลเลย์” ที่จังหวัดระนอง โดยใช้ความรู้ในเรื่องกาแฟ ความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ และแรงจูงใจในการทำสิ่งที่แตกต่าง ด้วยแนวคิดดังกล่าว ธุรกิจจึงเติบโตขึ้นมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างแท้จริง ซึ่งสร้างความสนใจให้ผู้เข้าชมมากมายทั่วโลก
สุพจน์ ได้นำทรัพยากรที่มีอยู่มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการปลูกและผลิตกาแฟบนพื้นที่ที่มีอยู่แล้วของ ก้อง วัลเลย์ เพื่อต่อยอดรวมถึงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ตัวเองและชุมชนในท้องถิ่น พร้อมถ่ายทอดความรู้และความคิดของตนเองให้แก่ผู้คนมากมายในเรื่องของการเป็นตัวของตัวเองและการพึ่งพาตนเอง กระบวนการการคั่วและบดกาแฟกินเอง รวมถึงการประเมินและกำหนดราคาที่เหมาะสมให้กับผลิตภัณฑ์
“แนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแรงบันดาลใจและชี้นำให้ผมริเริ่ม ก้อง วัลเลย์ ซึ่งผมได้นำมาประยุกต์และปรับใช้คำสอนในเรื่องของการพึ่งพาตนเองของพระองค์ให้กับวิสาหกิจของผม ผมปลูกและผลิตกาแฟโรบัสตาเอง เพื่อสร้างผลกำไรมากที่สุดโดยการบริหารกำลังคนที่มีอยู่ให้เหมาะสม เรามุ่งเน้นไปในสิ่งที่เรามีความถนัด และแบ่งหน้าที่ให้เหมาะสมตามความชอบและความสามารถของแต่ละคน” สุพจน์ กล่าว “เราทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสำเร็จและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้ปลูกฝังวิถีของการพึ่งพาตนเองให้แก่ผู้คนและเฝ้าติดตามพวกเขาเพื่อเปิดร้านกาแฟของตนเองและกลายเป็นผู้ประกอบการเอง” สุพจน์ กล่าวเสริม
การเดินทางตลอดสองวันนี้ที่ภาคใต้ของประเทศไทย เริ่มที่จังหวัดชุมพรก่อนที่จะมุ่งหน้าไปสู่จังหวัดระนอง โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามระหว่างการขับรถยนต์ นิสสัน นาวารา ใหม่ และนิสสัน เอกซ์-ทเรล ที่เต็มไปด้วยสมรรถนะในด้านต่างๆ
นิสสัน นาวารา ใหม่ เป็นรถกระบะที่ขึ้นชื่อเรื่องของสมรรถนะที่โดดเด่นจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.5 ลิตร และให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมระบบส่งกำลังจากเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ที่ให้การประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยมลพิษอย่างดีเยี่ยม ประกอบกับแชสซีส์ที่แข็งแกร่ง และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่รองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังสามารถบุกตะลุยเพื่อใช้งานได้ในทุกสภาพ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิที (Nissan Intelligent Mobility) อย่างกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง หรือ Around View Monitor (AVM) และถุงลมนิรภัย 7 จุดที่สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่อย่างสูงสุด
ผู้ร่วมกิจกรรมยังสามารถสัมผัส นิสสัน เอกซ์-ทเรล ที่มีความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสารที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ทั้งนี้ เอกซ์-ทเรล เป็นรถรุ่นแรกที่มาพร้อมกับที่นั่งในรูปแบบเธียเตอร์สไตล์ มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รูปแบบหลักๆ คือ เครื่องยนต์เบนซินที่มีรุ่นย่อยให้เลือก กับขนาดความจุ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร มีที่นั่งแบบ 3 แถว ลักษณะแบบ 5+2 ที่นั่ง และ เครื่องยนต์ไฮบริดที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2.0 ลิตร โดยมีที่นั่งเป็นแบบ 2 แถว สำหรับรุ่น 2.5 ลิตร มาพร้อมพาโนรามิค ซันรูฟ (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ขับขี่กับผู้ร่วมการเดินทางเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามตลอดทาง
ทั้งนี้ เอกซ์-ทเรล ยังมาพร้อมกับเกียร์อัจฉริยะประสิทธิภาพสูง X-Tronic CVT ใหม่ พร้อมระบบ Manual Mode 7 จังหวะ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพอัตราเร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น
นอกจากนี้ นิสสัน เอกซ์-ทเรล ไฮบริด ยังประกอบไปด้วยนวัตกรรมด้านต่างๆ ที่หลากหลาย เช่น ระบบเพียวดไรฟ ไฮบริด (Pure Drive Hybrid) ที่มาพร้อมระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligent Dual Clutch Control) ทำให้มีพละกำลังและอัตราเร่งเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร แต่ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบเดียวกันกว่า 20 %
พีเตอร์ แกลลี รองประธานสายงานสื่อสารองค์กร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการเดินทางครั้งนี้พิเศษมากเนื่องจากเป็นครั้งที่ 10 และเป็นครั้งสุดท้ายของโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง”
“ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา เราได้ร่วมงานกับบุคคลต้นแบบที่น่าชื่นชม ซึ่งล้วนแล้วแต่น้อมนำคำสอนและแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน นับเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมการเดินทางเหล่านี้ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความรู้ในคำสอนของพระองค์ และสานต่อสิ่งที่เราได้รับมาไปสู่อนาคตอันใกล้ นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการที่ให้แรงบันดาลใจนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อคำสอนและภูมิปัญญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปสู่รุ่นต่อไป” พีเตอร์ กล่าวเสริม
เมื่อผู้ร่วมกิจกรรมได้เดินทางมาถึงวิสาหกิจชุมชน ก้อง วัลเลย์ สุพจน์ ได้เล่าถึงเหตุผลที่เขาคิดว่าการพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือตนเองเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้มีโอกาสคั่วและบดกาแฟเอง พร้อมกับลิ้มลองฝีมือของตัวเอง จากการร่วมทำกิจกรรมนี้และรับรู้เรื่องราวของ สุพจน์ โดยบุคคลต้นแบบท่านนี้หวังว่าผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับแรงบันดาลใจในการคิดว่าตัวเองก็สามารถเพิ่มศักยภาพและทักษะเพื่อเริ่มทำธุรกิจของตัวเองได้เช่นกัน
ด้าน นัยสิทธิ์ รัตนชมพู รองประธานสายงานบริหารซัพพลายเชน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นิสสัน ใส่ใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับชุมชนเหล่านี้ที่อยู่ทั่วราชอาณาจักรไทย
“เป้าหมายของเรา คือ การทำให้ลูกค้าในประเทศไทยของเราเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การขับขี่ของพวกเขาอย่างสะดวกสบาย ดีขึ้น รวมถึงมีความเพลิดเพลินมากขึ้น เราได้แสดงให้ทุกคนเห็นผ่านรถยนต์ นิสสัน ทุกรุ่นที่ได้นำมาใช้ในโครงการฯ นี้ ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย และได้พาผู้เข้าร่วมกิจกรรมไปพบเจอกับบุคคลต้นแบบ ทั้งชายและหญิง ผู้ซึ่งน้อมนำคำสอนและแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ ทุกคนที่ นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดสิ่งดีๆ เหล่านี้”
โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อสานต่อคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปทั่วประเทศ โครงการฯ ได้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 และดำเนินไปจนถึงเดือนมีนาคม 2561 และนิสสัน หวังว่าจะดำเนินโครงการฯ ต่อไปเพื่อคืนกลับสู่คนไทยและสังคม และเพื่อเคารพยกย่อง และสานต่อคำสอนและปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อไป
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : เรื่องน่ารู้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/216533