รถล่าสุด
The New Audi A8 L พรีเมียมลักชัวรีคาร์ สำหรับผู้บริหารไฮคลาสส์
The New Audi A8 L เป็นรถลักชัวรีซีดาน ที่มีบุคลิกโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน เป็นรถธงรุ่นแรกของ Audi ที่สะท้อนถึง “การออกแบบยุคใหม่ที่ก้าวล้ำนำสมัยทุกมิติ” มีทั้งความหรูหรา ทันสมัย ความสะดวกสบาย เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์สปอร์ท สมรรถนะที่พร้อมตอบสนองทุกการขับขี่ การออกแบบที่ล้ำสมัยและระบบปฏิบัติการภายในรถ ที่ถูกปฏิวัติใหม่หมดอย่างสิ้นเชิง มีการผสมผสานเทคโนโลยียุคดิจิทอลกับการออกแบบให้มีความทันสมัยในทุกมิติ จึงทำให้ The new Audi A8 L เป็นรถลักชัวรีซีดาน ที่โฉบเฉี่ยว และทันสมัยมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างชัดเจน
The New Audi A8 L ยังสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้า และทิศทางการออกแบบของ Audi รุ่นต่างๆ ในอนาคต โดยยังคงจุดเด่นเรื่องอารมณ์สปอร์ท โครงสร้างรถน้ำหนักเบา และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ใน The New Audi A8 L ใหม่นี้ได้รับการออกแบบได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักเบา เพิ่มความคล่องตัว ประหยัด ปลอดภัย และสนุกสนานในการขับขี่
ภายในผสานอารมณ์สปอร์ท และหรูหรา
The New Audi A8 L ได้รับการออกแบบให้มีความงดงามโดดเด่น สะกดทุกสายตา การออกแบบตัวถังภายนอก สะท้อนความสำเร็จของแนวคิดการออกแบบใหม่ของ Audi ที่สามารถผสมผสานอารมณ์สปอร์ท ความหรูหราภูมิฐานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตัวถังมีมิติช่วยให้รถดูมีพลัง เส้นสายแนวนอนทำให้รถดูมีความเคลื่อนไหว พร้อมตอบสนองการขับขี่ทุกเวลา และให้ความรู้สึกหรูหราเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ด้านหน้าถูกออกแบบให้เป็นแนวกว้าง กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวยกสูงขึ้น ตัวถังเน้นเส้นสายแนวนอน ทำให้รถดูมีไดนามิค การเคลื่อนไหว พื้นผิวตัวถังออกแบบให้มีมัดกล้ามเพิ่มอารมณ์สปอร์ท โดยตัวถังมีความยาว 5,302 มม. มากกว่ารุ่นพื้นฐาน 13 ซม. ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี ซึ่งเป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีไฟส่องสว่าง โดยชุดไฟหน้าประกอบไปด้วย ไฟแอลอีดี ข้างละ 84 ดวง ควบคุมการทำงานอิสระ ทำให้ได้ลำแสงที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานทุกเส้นทางและไม่รบกวนผู้อื่น โดยการปรับการทำงานของหลอดแอลอีดีต่างๆ จะสั่งการผ่านชุดควบคุมการทำงานที่ได้ข้อมูลมาจากกล้องหน้ารถ ทำให้มีความแม่นยำสูง
ระบบควบคุมการทำงาน ล้ำสมัย และสะดวกสบายสุดๆ
ภายใต้ความมุ่งมั่นของทีมวิศวกร ที่ต้องการสร้างยนตรกรรมที่มีความล้ำสมัยมากขึ้น แต่ก็ง่ายต่อการใช้งาน ด้วยแนวคิด Audi Touch Response ทำให้ The New Audi A8 L ถูกออกแบบให้มีระบบควบคุมการทำงานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน โดยใช้ระบบดิจิทอลเข้ามาทดแทน ปุ่มต่างๆ ทั้งหมด (Fully Digital) ไม่ว่าจะเป็นปุ่มควบคุมระบบความบันเทิง ระบบปรับอากาศ รวมถึงมาตรวัดต่างๆ ทั้งความเร็ว รอบการทำงานของเครื่องยนต์ ก็ควบคุมด้วยปุ่มดิจิทอล ซึ่งจะแสดงขึ้นมาบนหน้าจอ เมื่อเปิดรถ แต่หากดับเครื่องหน้าจอก็จะกลับสภาพเป็นจอดำ กลมกลืนไปกับชุดคอนโซลหน้า ทั้งนี้การควบคุมสามารถสั่งงานผ่านจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว หรือสั่งงานผ่านระบบ MMI Navigation plus with MMI touch response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว หรือผ่านทางพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันก็ได้เช่นกัน โดยจอทัชสกรีนยังใช้แสดงผลการทำงานของระบบนำทาง MMI Navigation Plus ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนำทางที่ล้ำสมัย แสดงผลแบบ 3 มิติ ที่ให้คุณภาพระดับไฮ-เรส ช่วยให้ภาพคมชัด มองเห็นได้ง่ายและชัดเจน
ขณะที่ตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลัง ได้รับการออกแบบให้เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ด้วยการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆในรถด้วยชุดรีโมทคอนทโรล ที่ติดตั้งมาให้ พร้อมจอทัชสกรีน สำหรับการสั่งการทำงานแบบไฮ-เรส ขนาด 5.7 นิ้ว ใกล้เคียงกับขนาดของโทรศัพท์มือถือทั่วไป โดยผู้โดยสารด้านหลังสามารถควบคุมได้ทั้งการเปิดระบบอุ่นเบาะนั่ง การปรับตำแหน่งเบาะนั่ง ระบบปรับอากาศที่เป็นแบบอัตโนมัติแยก 4 โซน หรือว่าเปิดระบบนวด หรือม่านบังแดด เป็นต้น
การออกแบบภายใน เน้นใช้วัสดุที่มีคุณภาพและผลิตในรูปแบบแฮนด์เมด ทำให้มีความประณีต ซึ่งทันทีที่ก้าวเข้าไปในรถ ผู้โดยสารจะรับรู้ได้ถึงมาตรฐานที่พิเศษที่สุดของรถคันนี้ จากขนาดตัวถังและระยะฐานล้อที่ยาว ช่วยให้วิศวกรมีอิสระในการออกแบบภายใน มากขึ้น ผลที่ได้ตามมาก็คือ ความกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกตำแหน่งที่นั่ง พื้นที่ช่วงขาเพิ่มขึ้น เพิ่มความสบายด้วยที่พักเท้าซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
หลังคาถูกออกแบบให้เป็นแบบพาโนรามิคกลาสส์ 2 ชั้น ทำให้มีความแข็งแรง และลดเสียงรบกวนจากภายนอก มีขนาดใหญ่ตั้งแต่บริเวณเบาะนั่งด้านหน้าไปถึงด้านหลัง ช่วยให้รถโปร่งโล่ง หรูหรา และมีแผ่นบังแดดที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า รวมไปถึงระบบความบันเทิงสำหรับที่นั่งตอนหลัง ประกอบด้วยจอมอนิเตอร์ ขนาด 10.1 นิ้ว ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพ และคมชัด หน่วยความจำขนาด 32 GB พร้อมทางเลือกด้วยแทบเลท ที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหลัง สามารถถอดออกมาใช้งานได้ และที่ล้ำขึ้นไปอีก คือ ชุดรีโมทคอนทโรล นอกจากนี้ สามารถใช้งานโทรศัพท์ผ่านเสาอากาศด้านนอก ให้คุณภาพการสื่อสารที่ดีกว่าเดิม
The New Audi A8 L มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน Mild Hybrid แบบ วี 6 สูบ มีสีสันให้เลือก 6 สี และมีให้เลือก 2 รุ่นในราคาสุดพิเศษ ได้แก่
- A8 L 55 TFSI Quattro Premium เครื่องยนต์เบนซิน 340 แรงม้า ราคา 6,799,000 บาท
- A8 L 55 TFSI Quattro Prestige เครื่องยนต์เบนซิน 340 แรงม้า ราคา 7,999,000 บาท
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/214859