ธุรกิจ
เอาดี ประเทศไทย ทุ่ม 50 ล้านบาท ยกระดับงานบริการ
เอาดี ประเทศไทย โดยบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด เปิดแผนรุกยกระดับศักยภาพการบริการหลังการขายปี 2018 ต่อเนื่อง ว่าจะมีการลงทุนเพิ่มอีกกว่า 50 ล้านบาท รองรับแผนการเปิดสำนักงานใหญ่ และขยายโชว์รูมศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกภาค รวม 10 แห่งภายในปี 2019 และรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปีนี้อีกกว่าเท่าตัว เผยเตรียมเปิดศูนย์กระจายอะไหล่และศูนย์ตรวจรถใหม่ กลางปีนี้ เล็งพัฒนาศักยภาพบุคลากรทุกระดับ ทั้งรับเพิ่มและติวเข้มส่งไปเพิ่มประสบการณ์ในต่างประเทศ
วัลลภ เฉลิมวงศาเวช รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการบริการหลังการขาย เอาดี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ เอาดี ประเทศไทย ในการสร้างบแรนด์ด้วยการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าในคุณภาพการบริการหลังการขาย ควบคู่ไปกับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงเดินหน้ารุกพัฒนางานบริการหลังการขายอย่างเต็มที่ มีการลงทุนนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อให้ศูนย์บริการมีความครบวงจร ได้มาตรฐานของ เอาดี อาเก และมีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี อะไหล่แท้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความประทับใจทุกครั้งเมื่อเข้ามาใช้บริการหลังการขาย ซึ่งจากการดำเนินงานตลอด 9 เดือน นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปีที่ผ่านมา มีลูกค้า เอาดี ประเทศไทย และลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้จำหน่ายรายเดิม และลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้ารถอิสระ นำรถมาเข้ารับบริการอย่างคับคั่ง โดยต่างประทับใจในคุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐานสูง งานซ่อมที่มีคุณภาพภายในระยะเวลาที่เหมาะสม และราคาที่สมเหตุสมผล
สำหรับปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เนื่องจากมีการเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ มีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการในกรุงเทพฯ และภูมิภาค รวม 6 แห่ง และมีแผนขยายเพิ่มเป็น 10 แห่ง ในปี 2562
บริษัทฯ ได้มีการลงทุนเพิ่มอีกกว่า 50 ล้านบาท เพื่อยกระดับและขยายงานบริการหลังการขาย และการจัดการอะไหล่ ให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยการลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ จะเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การนำเทคโนโลยีทันสมัยใหม่ๆ มาใช้ การสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ และการสร้างศูนย์ตรวจรถใหม่ก่อนส่งมอบให้ผู้จำหน่าย
ในด้านการลงทุนนำเทคโนโลยีทันสมัยใหม่ๆ มาใช้ในศูนย์บริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพการบริการหลังการขายของ เอาดี และมีความครบวงจร สามารถตรวจเชค ประเมิน วิเคราะห์ เพื่อทำการตีราคาและซ่อม ได้อย่างถูกต้อง เพื่อรองรับปริมาณงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว บริษัทฯได้เตรียมการนำเข้าเครื่องมือ วิเคราะห์ปัญหา เพิ่มเข้ามาใช้ในโชว์รูมและศูนย์บริการทุกแห่ง อีกกว่า 4 เท่าตัว รวมทั้งเครื่องตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ และเปลี่ยนยาง ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสูงสุด สำหรับสำนักงานใหญ่
ในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อให้มีทีมบริการที่เชี่ยวชาญพร้อม และเพียงพอ รองรับการขยายและการเติบโต บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจาก เอาดี อาเก ส่งช่างเทคนิคชำนาญการสูงของบริษัทแม่ มาฝึกอบรมทีมวิศวกร และช่างเทคนิคในทุกระดับ เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน เพื่อพัฒนาเพิ่มเติมความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และเสริมสร้างแรงบันดาลใจ เพิ่มพูนทักษะในการใช้ภาษาให้ยอดเยี่ยมมากขึ้น นอกจากนี้ ในปีนี้มีแผนที่จะส่งทีมงานไปอบรมในต่างประเทศมากขึ้นไปอีก ทั้งที่สิงคโปร์ มาเลเซีย และเยอรมนี และสนับสนุนให้มีทีมช่างไปเข้าทดสอบฝีมือและความเชี่ยวชาญในระดับ Master Technician ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของช่าง เอาดี ให้เพิ่มขึ้นด้วย ในด้านกำลังคนในปี 2561 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดรับบุคลากรมาเสริมทีมเพิ่มอีกกว่า 30-40 ตำแหน่ง ในทุกระดับ รวมถึงเฟ้นหาวิศวกร และหัวหน้าทีมช่างที่มีประสบการณ์มีความสามารถ มาประจำสำนักงานใหญ่เพื่อสนับสนุนดีเลอร์เพิ่มเติมจากที่มี Kevin Duffy ดูแลในส่วนผู้จัดการฝ่ายบริการของ เอาดี เพชรบุรีตัดใหม่ ในปัจจุบัน
วัลลภ กล่าวว่า ตามแผนการยกระดับคุณภาพการบริการหลังการขาย ในปี 2561 บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนเพิ่มส่วนใหญ่ในปีนี้ ไปกับการสร้างและพัฒนาศูนย์กระจายอะไหล่ เพื่อให้การบริหารสตอค การส่งอะไหล่ไปยังโชว์รูมต่างๆ มีประสิทธิภาพความรวดเร็ว ทันกับความต้องการของลูกค้า โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้เต็มรูปแบบประมาณกลางปีนี้ นอกจากนี้ยังจะได้มีการสร้างศูนย์ตรวจรถใหม่ก่อนส่งมอบให้ผู้จำหน่ายที่มีประสิทธิภาพและมีศักยภาพมีการติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อให้การเตรียมรถส่งมอบรถใหม่มีความสะดวก รวดเร็ว สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้ามากที่สุด
“จากการลงทุนเพิ่มเพื่อยกระดับคุณภาพและขยายการงานบริการหลังการขาย เชื่อมั่นว่าปีนี้จะเป็นปีที่ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความคึกคักและความมุ่งมั่นในการบริการหลังการขายของเรา เพื่อทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและมีความมั่นใจในบแรนด์ เอาดี มากขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้โดยเรายังคงยึดนโยบาย ห้บริการลูกค้า เอาดี อย่างทั่วถึง ทั้งลูกค้าใหม่ ลูกค้าจากผู้จำหน่ายรายเดิม และลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระอย่างดีที่สุด จึงขอให้ลูกค้าทุกคนที่ขับ เอาดี ทุกคันมีความมั่นใจในคุณภาพ และความทุ่มเทในการพัฒนามาตรฐานการบริการหลังการขายของเรา”
สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระ เพื่อรับประโยชน์ในการรับการบริการหลังการขายในครั้งต่อๆ ไป จะมีการคิดค่าลงทะเบียนแรกเข้าเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น เพื่อตรวจเชคสภาพรถ 40 รายการ และอัพเดทซอฟท์แวร์ของกล่องสมองควบคุมต่างๆ ให้รถมีการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจากเดิมลูกค้าต้องเสียเงินหลายหมื่นบาทในการอัพเดท ซอฟท์แวร์จากต่างประเทศ
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/208946