เจาะลึกฟังค์ชันการทำงานแต่ละโหมดที่มีในเพาเวอร์แอมพ์รถยนต์

    ปัจจุบันเพาเวอร์แอมพ์ทุกยี่ห้อที่มีจำหน่ายในบ้านเรา และที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งทางผู้ผลิตได้อำนวยความสะดวกในการใช้งานของเพาเวอร์แอมพ์ให้สามารถประยุกต์ทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ การบรรจุฟังค์ชันการทำงานหลายๆ อย่างเข้าไว้ในตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น ครอสส์โอเวอร์ อีควอไลเซอร์ ซับโซนิคฟิลเตอร์ บูสท์เบสส์ ฯลฯ และฟังค์ชันที่แตกต่างเหล่านี้ มีการทำงาน และใช้งานอย่างไร CROSSOVER เพาเวอร์แอมพ์ทั่วไปจะมีฟังค์ชันนี้เกือบทุกยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นเพาเวอร์แอมพ์ระดับหลักหมื่น หรือหลักพัน โดยปกติฟังค์ชันนี้จะบรรจุวงจรสำหรับเลือกตัดความถี่ให้กับลำโพงในแต่ละชุด ถ้าเป็นวงจรชนิดไฮพาสส์จะทำหน้าที่ตัดความถี่สูง สามารถเลือกปรับค่าได้ต่อเนื่อง อย่างเช่น ปรับได้ตั้งแต่ 120-3,000 HZ และถ้าเป็นวงจรชนิดโลว์พาสส์ ถูกออกแบบสำหรับตัดความถี่ต่ำให้กับวูเฟอร์ และซับวูเฟอร์ ซึ่งบางยี่ห้อได้บรรจุวงจรแบนด์พาสส์เอาไว้ด้วย วงจรแบนด์พาสส์นี้เหมาะสำหรับใช้ตัดความถี่ให้ผ่านเฉพาะย่านเท่านั้น เป็นวงจรที่รวมเอาการทำงานระหว่างวงจรไฮพาสส์ และโลว์พาสส์เข้าไว้ด้วยกัน EQUALIZER มีเพาเวอร์แอมพ์ไม่กี่ประเภทที่มีฟังค์ชันการทำงานนี้อยู่ ส่วนใหญ่จะอยู่ในเพาเวอร์แอมพ์สำหรับใช้กับลำโพงซับวูเฟอร์ เป็นวงจรสำหรับทำหน้าปรับสัญญาณได้ทั้งเพิ่มหรือลด เช่น BASS EQ สามารถเลือกปรับเพิ่มเสียงเบสส์ได้ตามต้องการ เช่น +6, +12 ดีบี SUB BOOST สำหรับฟังค์ชันซับ บูสท์ บางยี่ห้อก็เรียกว่า เบสส์ บูสท์ มีความหมายอย่างเดียวกันคือ เป็นวงจรปรับเพิ่มเสียงเบสส์ที่มีวงจรอีควอไลเซอร์อยู่ในตัว โดยออกแบบให้สามารถปรับช่วงความถี่ต่ำได้ทั้งแบบที่ผู้ผลิตกำหนดค่าตายตัว และแบบที่ผู้ใช้สามารถเลือกปรับได้ตามการใช้งาน และเหมาะสมกับระบบเสียงชุดนั้นๆ ซึ่งมีบรรจุอยู่ในเพาเวอร์แอมพ์ที่ใช้งานกับซับวูเฟอร์ และก็มีบรรจุอยู่ใน เพาเวอร์แอมพ์แบบ 4 แชนแนล ในหลายยี่ห้อเช่นกัน โดยมีปุ่มวอลูมปรับเสียงซับ บูสท์ ได้ทั้งแชนแนล 1/2 และแชนแนล 3/4 ส่วนวิธีการใช้งานโดยทั่วไปจะใช้แชนแนล 1/2 สำหรับลำโพงชุดหน้า ส่วนแชนแนล 3/4 เมื่อนำไปใช้ต่อบริดจ์โมโนกับซับวูเฟอร์ และสามารถปรับเพิ่มเสียงทุ้มให้กับซับวูเฟอร์ได้ตามต้องการ SUBSONIC FILTER เป็นฟังค์ชันที่บรรจุอยู่ในเพาเวอร์แอมพ์ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นแบบ 2 แชนแนล หรือมัลทิแชนแนล และเพาเวอร์แอมพ์สำหรับซับวูเฟอร์ ซึ่งค่าการปรับจุดตัดความถี่ต่ำของวงจรดังกล่าวนี้ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องอยู่ในช่วงความถี่ที่เท่าไร อาจจะกำหนดไว้ตั้งแต่ 15-55 HZ หรือ 20-50 HZ ก็ได้ เป็นวงจรสำหรับตัดความถี่ต่ำๆ ที่ไม่ต้องการทิ้งไป เพื่อให้เพาเวอร์แอมพ์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการสูญเสียกำลังงานที่ไม่จำเป็นทิ้งไป อันเนื่องจากหูของมนุษย์ส่วนใหญ่จะมีความไวในการได้ยินความถี่เสียงตั้งแต่ช่วง 30-16,000 HZ เท่านั้น (ความถี่เสียงอยู่ในช่วงตั้งแต่ความถี่ 20-20,000 HZ) และช่วยให้ลำโพงซับวูเฟอร์ สามารถรับกำลังขับได้ดีขึ้น MASTER/SLAVE เป็นอีกโหมดหนึ่งที่บรรจุไว้ในเพาเวอร์แอมพ์สำหรับใช้งานกับซับวูเฟอร์ โดยเฉพาะเพาเวอร์แอมพ์ประเภทคลาสส์ D ที่ออกแบบให้สามารถต่อเพาเวอร์แอมพ์สองตัวพ่วงเข้ากันด้วยโหมด MASTER/SLAVE เป็นการเพิ่มเพาเวอร์แอมพ์เข้าไปในระบบสำหรับขับลำโพงซับวูเฟอร์ได้อีกชุด โดยไม่ต้องใช้สัญญาณจากวิทยุรถยนต์ PHASE SHIFT สำหรับฟังค์ชันนี้มีไว้สำหรับใช้ปรับการเลื่อนของเฟส เมื่อติดตั้งลำโพงเข้าไปในระบบเรียบร้อยแล้วปรากฎว่าเสียงระหว่างลำโพงทวีเตอร์ที่ผลิตเสียงแหลมกับลำโพงซับวูเฟอร์ที่ผลิตเสียงทุ้มเกิดอาการเหลื่อมทางด้านเวลา ทำให้ความถี่บางช่วงเกิดการหักล้างกันหรือได้ยินเสียงดนตรีที่เบามาก โดยปกติการใช้ฟังค์ชันนี้จะทำควบคู่กันระหว่างการทดลองสลับขั้วสายลำโพงทีละชุด และปรับ PHASE SHIFT ร่วมด้วย ถ้าปรับเฟสถูกต้องจะได้ยินเสียงที่ชัดเจนตามปกติ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญในการฟังด้วย ส่งท้าย เพาเวอร์แอมพ์ในปัจจุบันทางผู้ผลิตได้บรรจุฟังค์ชันต่างๆ เหล่านี้ไว้อย่างครบครัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน และการปรับแต่งเสียงให้ถูกต้อง ถ้าหากทราบถึงหลักการทำงานของฟังค์ชันต่างๆ เหล่านี้จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์ของคุณ มีความชัดเจนทั้งมิติเสียง การแยกแชนแนลระหว่างลำโพงด้านซ้าย/ขวาในระบบสเตริโอที่สมบูรณ์ รวมถึงรายละเอียดของเสียงดนตรีที่ครบถ้วน