เรื่องน่ารู้
เถ้าแก่ พันธฺทิพย์ ทรานส์ เซอร์วิสฯ คว้าตั๋วเข้าชิง APAC Fuelwatch Challenge 2017
วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ฯ ได้แชมพ์ทั้งประเภททางเรียบ และทางวิบาก เป็นตัวแทน Thailand Hub เข้าแข่งขันในรายการ APAC FuelWatch Challenge 2017 ที่ประเทศสวีเดน ในปลายเดือนกันยายนนี้ โดยผู้ชนะทั้งสองประเภทมั่นใจความพร้อมเข้าสู่สนามใหญ่ เพื่อผ่านทะลุเข้ารอบชิงแชมพ์โลกที่ประเทศสวีเดน
การแข่งขัน Volvo Trucks FuelWatch Challenge ประจำปี 2017 ได้ผู้ชนะทั้งประเภททางเรียบ และประเภททางวิบาก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยประเภททางเรียบ ได้แก่ สิทธิกร สอนสุจิตรา เจ้าของบริษัท พันธ์ทิพย์ ทรานส์ เซอร์วิสฯ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งในเขตภาคกลาง คว้าชัยเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมรายการ APAC FuelWatch Challenge 2017 ที่ประเทศสวีเดน ในขณะที่ประเภททางวิบาก ในปีนี้ซึ่งจัดแข่งขันที่ประเทศไทย Mr. Der ตัวแทนจากบริษัท ภูเบี้ย ไมน์นิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานขนแร่ในสปป. ลาว เป็นผู้ชนะในรายการนี้ ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการเดียวกันประเภททางวิบาก ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกันยายนที่ประเทศสวีเดน เพื่อลุ้นเป็นตัวแทนประจำภูมิภาค เข้าชิงแชมพ์โลกในที่สุด
กำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่าการแข่งขันขับขี่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมันที่จัดขึ้นในประเทศไทยภายใต้ชื่อ Volvo Trucks Fuelwatch Challenge 2017 ในปีนี้ เป็นครั้งแรกที่มีการจัดแข่งขันเกิดขึ้นที่ประเทศไทยครบทั้ง 2 ประเภท คือ ประเภททางเรียบ และประเภททางวิบาก ในประเทศไทย และได้ตัวแทนทั้งสองประเภท เข้าร่วมแข่งขันในรายการ APAC FuelWatch Challenge 2017 ที่จัดขึ้นในประเทศสวีเดน และหากสามารถผ่านการคัดเลือกในรายการนี้ จะได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยในรายการ Global FuelWatch Challenge 2017 ที่ประเทศสวีเดน เช่นกัน ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของนักขับรถ โวลโว ทรัคส์
"การแข่งขัน Fuelwatch Challenge ปีนี้ เราจัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ติดต่อกันแล้ว เราให้ความสำคัญกับการแข่งขันรายการนี้มาก เพราะจะเป็นเวทีที่จะยกระดับคุณภาพการขับรถบรรทุก ไม่เพียงแต่ความปลอดภัยที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้ แต่การประหยัดพลังงานก็เป็นอีกความสำคัญหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถลดต้นทุนของตัวเองได้ เพราะน้ำมันถือเป็นต้นทุนที่อยู่ในสัดส่วนสูงถึง 30 % ของต้นทุนรวม จึงทำให้เราได้พัฒนาการแข่งขันให้สอดคล้องกับเวทีโลก ทำให้ปีนี้ เราจึงจัดแข่งขันขึ้นทั้งประเภททางเรียบ และประเภททางวิบาก โดยประเภททางเรียบ เป็นการจัดขึ้นสำหรับนักขับชาวไทยเท่านั้น ส่วนประเภททางวิบาก ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แต่เป็นครั้งแรกที่จัดแข่งขันในประเทศไทย มีตัวแทนจาก 3 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์, สปป. ลาว และเมียนมาร์ รวมทั้งหมด 8 คน" กำลาภ กล่าวเสริมว่าการแข่งขันประเภททางวิบากเมื่อปีที่แล้ว จัดขึ้นที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัท ภูเบี้ย ไมน์นิ่ง จำกัด ในการใช้พื้นที่การแข่งขัน
วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ฯ ได้จัดกิจกรรมการแข่งขันขับขี่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน Fuelwatch Challenge อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ถือเป็นการจัดเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน โดยในปีแรก พศ. 2553 มีผู้สมัครเพียง 56 คน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็น 65 คนในปี 2554 ปี 2555 มีผู้สมัคร 73 คน ปี 2556 มีผู้สมัคร 81 คน ปี 2557 จำนวน 120 คน ปี 2558 จำนวน 150 คน ปี 2559 ผู้สมัครเพิ่มขึ้นเป็น 260 คน อย่างไรก็ตามในปีนี้ มีจำนวนผู้สมัครเท่าเดิมอยู่ที่ 260 คน
ทางด้าน สิทธิกร สอนสุจิตรา กล่าวถึงความมั่นใจในการเข้าร่วมแข่งขัน APAC FuelWatch Challenge 2017 ที่ประเทศสวีเดน ว่ามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุด แต่ที่สำคัญคือตนได้สัมผัสกับรถ โวลโว ทรัคส์ มาเป็นเวลานานด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพและระบบความปลอดภัย จึงทำให้สามารถเรียนรู้เทคนิคการขับขี่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน
สิทธิกร สอนสุจิตรา ลงสมัครแข่งด้วยตัวเองเกือบทุกปี หากปีไหนติดภารกิจจะส่งตัวแทนมา เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในรายการนี้ เพราะเชื่อว่าเวทีนี้จะช่วยสนับสนุนให้กับนักขับได้รับการพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะการขับประหยัดน้ำมัน และยังเป็นที่ยอมรับในนามสุดยอดสิงห์รถบรรทุกตัวจริงของประเทศ และปีนี้ความสำเร็จก็มาถึงด้วยความพยายามติดต่อกันมาหลายปี
"การแข่งขันครั้งนี้ ผมใช้ทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียธรรมดา ร่วมกันเพราะผมได้สัมผัสเรียนรู้กับรถบรรทุก วอลโว มาเป็นเวลานาน ทำให้ผมรู้ได้ว่าช่วงจังหวะไหนและในสภาพถนนแบบไหน ควรจะใช้เกียร์อะไร และเกียร์แบบไหน เพื่อให้ประหยัดพลังงานมากที่สุด การแข่งขันรอบสุดท้ายนี้ ผมสามารถวิ่งรถโดยไม่ได้ใช้น้ำมันเลยมากถึง 5 กิโลเมตร เพราะผมรู้ว่าจังหวะไหน สามารถใช้แรงส่งจากหางบรรทุกดันให้ตัวรถวิ่งไปข้างหน้าอย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน สิ่งเหล่านี้เกิดจากประสบการณ์การทำงานของผม และผมพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์แบบนี้กับทุกคนครับ" สิทธิกร กล่าว
สำหรับ Mr. Der ซึ่งเป็นตัวแทนประเภททางวิบาก กล่าวเพิ่มเติมว่าพร้อมที่จะเข้าร่วมแข่งขันในนาม Thailand Hub ที่ประเทศสวีเดน และเชื่อว่าจากประสบการณ์ในการทำงานจริงที่เหมืองใน สปป. ลาว จะสามารถนำประสบการณ์และทักษะจากการทำงานมาใช้เพื่อเป้าหมายเข้ารอบสุดท้ายระดับชิงแชมพ์โลกที่ประเทศสวีเดน
ด้าน วิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานฝ่ายการตลาดและสนับสนุนงานขาย กล่าวว่าภายหลังจากที่ Thailand Hub ได้ตัวแทนทั้งสองประเภทแล้ว วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ฯ จะเปิดค่ายฝึกติวเข้มให้กับตัวแทนทั้งสองเพื่อเสริมทักษะและเทคนิคการขับขี่ให้เข้มข้นเพื่อให้สามารถทะลุเข้าสู่รอบ Global Fuelwatch Challenge 2017 ในประเทศสวีเดน
"การเป็นตัวแทน Thailand Hub นี้ถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างสูงที่ได้โอกาสเข้าร่วมชิงชัยในสนาม Asia Pacific แต่หากสามารถทะลุเข้าไปถึงรอบสุดท้ายคือ Global FuelWatch Challenge 2017 ได้จะถือว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดของพนักงานขับรถ โวลโว ทรัคส์ เพราะจะเป็นโอกาสที่ประเทศไทย และสปป. ลาว จะได้บุคลากรชั้นสูงสุด อยู่ในองค์กรเพื่อกระดับการพัฒนายพนักงานขับรถ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาพขาดแคลนอย่างมาก" วิลาวัลย์ กล่าว
วิลาวัลย์ กล่าวว่า ในการคัดเลือกสนามประเทศไทยประเภททางเรียบนั้น ผู้ชนะเลิศในรายการนี้จะได้รับรางวัล รวมมูลค่า 400,000 บาท นอกจากผู้ชนะเลิศที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าสู่การชิงชัยรอบเอเชียแปซิฟิคแล้ว จะมีการประกาศรายชื่อรองชนะเลิศจำนวน 2 คน โดยผู้ชนะรองอันดับ 1 จะได้รับรางวัลมูลค่ารวม 80,000 บาท ผู้ชนะรองอันดับ 2 จะได้รับรางวัล มูลค่ารวม 40,000 บาท
(จากซ้ายไปขวา) ผู้แทนฝ่ายบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ผู้แทนฝ่ายบริหารจาก บริษัท สยามมิชลิน จำกัด สิทธิกร สอนวุจิตรา ผู้ชนะเลิศประเภททางเรียบ กำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ฯ และผู้แทนฝ่ายขาย บริษัท ไฮล์ เอเซีย จำกัด
(จากซ้ายไปขวา) ผู้แทนฝ่ายบริหารจากบริษัท สยามมิชลิน จำกัด สุปรีโอ โน เมดายิน ผู้จัดการทั่วไป เขตพื้นที่ สปป. ลาว และเวียดนาม บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ฯ Mr. Der ผู้ชนะเลิศประเภททางวิบาก กำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)ฯ ผู้แทนฝ่ายขาย บริษัท ไฮล์ เอเซีย จำกัด และผู้แทนฝ่ายบริหาร บริษัท ลิสซิ่ง กสิกรไทย จำกัด
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : สายชล อรรถาเวช, บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : เรื่องน่ารู้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/180385