เรื่องน่ารู้
Mazda DNA Skyactiv Caravan เส้นทาง East-West Economic Corridor
Mazda DNA Skyactiv Caravan เส้นทาง East-West Economic Corridor จาก เวียดนาม-ลาว-ไทย-เมียนมาร์ เชื่อมโยงอารยธรรมและเศรษฐกิจ จาก 2 ฝั่งมหาสมุทร
autoinfo ร่วมทริพกับ มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ เปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ พร้อมคณะสื่อมวลชนไทย บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ เชื่อมโยงวัฒนธรรมในกิจกรรม Mazda DNA Skyactiv Caravan โดย มาซดา ปักหมุดไว้บนเส้นทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง ในความร่วมมือจาก 6 ประเทศ ประกอบด้วย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน และไทย จาก 2 ฝั่งมหาสมุทร-มหาสมุทรแปซิฟิคสู่มหาสมุทรอินเดีย
มาซดา ให้ความสำคัญกับสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเป็นภูมิภาคที่สำคัญต่อการลงทุน ด้วยประชากรประมาณ 600 ล้านคน จากตัวเลขการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมรถยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งมาซดา ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าที่สำคัญไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั้งอาเซียน และต่างประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อเนื่องไปถึงอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง จนเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาเซียน หากทุกประเทศในอาเซียนประสานความร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลุงทุน จะสามารถสร้างรายได้แต่ละประเทศสมาชิกต่อเนื่อง
การเดินทางในทริพ Mazda DNA Skyactiv Caravan ด้วยรถยนต์ มาซดา ร่วม 10 คัน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ผลัดกันมาขับในเส้นทางรวมทั้งหมดกว่า 2,900 กม. บนเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ R2 หรือ R9 เชื่อมโยงอารยธรรมต่อเนื่อง 3 เส้นทาง จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม สู่ประเทศเมียนมาร์
คาราวานรถยนต์ มาซดา วิ่งไปบนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ แนวตะวันออกมุ่งหน้าสู่ตะวันตก หรือที่รู้จักกันในชื่อ East-West Economic Corridor เรียกว่าเส้นทาง R2 หรือ R9 เมื่ออยู่ในประเทศลาว ที่เชื่อม 2 มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ จากมหาสมุทรแปซิฟิคทางตะวันออก หรือทะเลจีนใต้ กับมหาสมุทรอินเดียตะวันตก สัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมไปถึงการเติบโตของสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน เส้นทางนี้ เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศของสมาชิก 6 ประเทศ กำหนด 9 เส้นทางหลักเพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ Greater Mekong Subregion (GMS)
วันแรก บินลัดฟ้าสู่เวียดนาม
เริ่มต้นภารกิจบินลัดฟ้าสู่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เพื่อออกสตาร์ทกันที่นี่ ก่อนล้อหมุนออกจากเวียดนาม เราขับรถมุ่งหน้าลงไปทางใต้ของเมืองดานัง และฮอยอัน ลัดเลาะแนวชายฝั่งทะเลของประเทศเวียดนาม ในเส้นทาง QL1A เพื่อแวะเยี่ยมชมโรงงาน THACO ซึ่งรับหน้าที่ประกอบรถยนต์ให้กับ มาซดา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฐานการผลิตรถยนต์ มาซดา ในแถบอาเซียน ก่อนออกเดินทางกลับขึ้นไปยังเมืองเว้ ระยะทางประมาณ 310 กิโลเมตร
ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองดานัง เป็นท่าอากาศยานนานาชาติลำดับที่ 3 ของเวียดนาม เป็นช่องทางสำคัญในการเดินทางเข้าสู่เวียดนามตอนกลาง เมื่อก่อนปี 2515 ที่นี่เคยเป็นท่าอากาศยานที่มีเครื่องบินขึ้นและลงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ช่วงที่มีการสู้รบและมีฐานทัพอเมริกันที่นี่ ปัจจุบันรองรับเที่ยวบินภายในประเทศระหว่างเมืองสำคัญต่างๆ ภายในเวียดนาม เช่น ฮานอย โฮจิมินห์ซิที กุยเยิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยังกรุงเทพฯ และสิงคโปร์Truong Hai Auto Corporation (THACO) โรงงาน Truong Hai Auto ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2540 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ 19 ถนน 2A เขตอุตสาหกรรม Bien Hoa II จังหวัดดง ผู้ก่อตั้ง คือ นายทุ่งเบ้า ซึ่งเป็นประธานของ THACO ในปี 2550 Truong Hai Auto เปลี่ยนเป็น Truong Hai Auto Corporation (THACO) ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสำนักงานบริหาร 3 แห่งตั้งอยู่ในโฮจิมินห์ซิที ฮานอย และชูลีน (เคว้งนัม) โดยเฉพาะโรงงานผลิตและประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 ในพื้นที่เกือบ 600 ไร่ ประกอบด้วย บริษัทย่อย และโรงงานในเครือจำนวน 24 แห่ง THACO มีบทบาทหลักในการผลิตและประกอบรถยนต์โดยสารของ มาซดา (ญี่ปุ่น) เกีย (เกาหลีใต้) และเปอโฌต์ (ฝรั่งเศส) นอกจากนี้ THACO ยังผลิตชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์เสริมที่มีอัตราการกระจายสินค้าได้ถึง 46 % สำหรับ มาซดา บแรนด์รถยนต์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น มีขั้นตอนการผลิตที่มีคุณภาพ ผ่านโรงงานผลิตและประกอบในชื่อ Vina Mazda สร้างขึ้นด้วยทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โรงงานแห่งนี้เปิดดำเนินการในเดือนกันยายน 2553 และเสร็จสิ้นในเดือนกันยายน 2554 มีกำลังการผลิตสูงสุด 10,000 คัน/ปี Vina Mazda มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลายๆ ด้าน เช่น มาซดา 2 มาซดา 3 มาซดา 6 มาซดา ซีเอกซ์-5 มาซดา ซีเอกซ์-9 และมาซดา บีที-50 และยังขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน 20 แห่ง พร้อมกับให้คำปรึกษาด้านการบำรุงรักษา และบริการหลังการขายครบวงจร เพื่อยืนยันถึงตำแหน่งในตลาดยานยนต์ของเวียดนาม เมืองดานัง เมืองดานัง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเป็นหนึ่งในศูนย์วัฒนธรรม, การศึกษา, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของเวียดนามกลาง เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของเวียดนาม รองจากโฮจิมินห์ซิที, ฮานอย, ไฮฝ่อง, คันโถ เมืองตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลภาคใต้ภาคกลาง ดานัง เป็น 1 ใน 3 เมืองหลักของเวียดนามกลาง อีก 2 เมือง คือ ไฮฝ่อง และเกิ่นเทอ เมืองดานังตั้งอยู่บนแม่น้ำหาน ทางทิศตะวันออกเป็นอ่าวดานัง เป็นทะเลมีหาดทรายยาว ทางทิศเหนือและทิศตะวันตกล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูง ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติอย่างดี ดานังเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองหนึ่งเพราะถูกล้อมรอบด้วย 3 มรดกโลกทางวัฒนธรรมคือ เว้ ฮอยอัน และหมีเซิน ดังนั้น ดานัง จึงถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในเส้นทางมรดกโลกของเวียดนามกลาง วันที่ 2 ข้าม 3 ประเทศ (เวียดนาม-ลาว- ไทย) 400 กม. Mazda DNA Skyactiv Caravan ล้อหมุนออกจากโรงแรมกลางเมืองเว้ ตั้งแต่ช่วงเช้า มุ่งหน้าสู่ด่านชายแดนลาวบาวของเวียดนาม-ลาว เส้นทาง QL1A เพื่อเชื่อมกับสาย AH16 สภาพเส้นทางค่อนข้างสมบูรณ์ มีเพียงการขับขี่ ที่ยังต้องขับชิดขวา แซงซ้าย โดยมีตำแหน่งพวงมาลัยอยู่ขวา ซึ่งเราใช้เวลาปรับตัวไม่นาน ก็คุ้นเคย ที่สำคัญ ในเวียดนามยังเข้มงวดกับการจำกัดความเร็ว ทั้งในเมืองและนอกเมือง จึงไม่ค่อยกังวลกับความวุ่นวายของบรรดารถมอเตอร์ไซค์ที่ขับกันกลาดเกลื่อนถนนในเวียดนาม เราแวะพักเติมพลังมื้อเที่ยงที่เมืองดองฮา เมืองที่อยู่ระหว่างทางที่จะมุ่งหน้าสู่ด่านลาวบาว ในประเทศเวียดนาม หลังจากอิ่มท้องแล้ว รถทุกคันออกเดินทางสู่ด่านลาวบาว ด่านชายแดนเวียดนาม/ลาว เมื่อถึงจุดผ่านแดนเราใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงในการยื่นเอกสารเพื่อขอผ่านแดนที่นี่ ก่อนขับผ่านเข้าสู่ดินแดนลาว วิ่งไปบนทางหลวง 9E-9W ในประเทศลาว เดินทางสู่เมืองสะหวันเขต ก่อนข้ามแม่น้ำโขงที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เข้าสู่ประเทศไทยในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเราจะหยุดพักผ่อนที่นี่ก่อนจะออกเดินทางต่อ วันที่ 3 มุกดาหาร-พิษณุโลก (แยกอินโดจีน) 555 กม. ล้อหมุนออกจากมุกดาหาร ตั้งแต่เช้า ขับไปบนทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ สู่จังหวัดขอนแก่น ก่อนมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของทริพแรก ระยะทางรวม 1,265 กม. พิษณุโลก เป็นจังหวัดที่รัฐบาลไทยปลุกปั้นให้เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการเดินทางจะทั่วทุกสารทิศ นั่นคือ “4 แยกอินโดจีน” ด้วยตำแหน่งที่อยู่กึ่งกลางจุดตัดระหว่าง NSEC และ EWEC จึงเกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจจากทั้ง 4 ทิศ ภาครัฐจึงสนับสนุนให้เกิดการลงทุน มีการจัดตั้งศูนย์บริการกระจายสินค้า และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติสร้างรายได้ให้ครัวเรือนได้อีกด้วย ทริพนี้ยังได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล่าสุด Skyactiv-Vehicle Dynamics มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control: GVC) ที่อยู่ในรถยนต์ มาซดา สัมผัสความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถในห้องโดยสาร สร้างสรรค์ผ่านแนวคิด จินบะ-อิไต (Jinba-Ittai) รวมถึงเทคโนโลยี เครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี (Skyactiv-G) ไดเรคท์อินเจคชัน ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ มาซดา ทุกคัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีขนาดความจุแตกต่างกันไป แต่สื่อมวลชนทุกท่านก็จะได้สลับกัน ขึ้นไปลองพละกำลังของเครื่องยนต์ขนาดต่างๆ ใน มาซดา 2, มาซดา 3, มาซดา ซีเอกซ์-3 และมาซดา ซีเอกซ์-5 ลักษณะเด่นของเครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี นั้น จะมีแรงอัดอากาศในห้องเผาไหม้สูง (14:1 ให้แรงม้าและแรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน และระบบเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 จังหวะ เจเนอเรชันใหม่ ที่เปลี่อนเกียร์ได้แม่นยำและต่อเนื่อง เทคโนโลยีเครื่องยนต์ สกายแอคทีฟ ล่าสุด ถูกฝังดีเอนเอ ซึ่งเป็นหัวใจของรถยนต์ มาซดา รุ่นปี 2017 ซึ่งได้แก่ มาซดา 2, มาซดา 3, มาซดา ซีเอกซ์-3 แล้ว และกำลังส่งต่อใน มาซดา ซีเอกซ์-5 ในไม่ช้าก่อนจะส่งไม้ต่อให้กับคณะสื่อมวลชน ขับต่อในเส้นทางที่ 2 ออกจากพิษณุโลก สู่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ข้ามแดนสู่เมืองมะละแหม่ง สิ้นสุดที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ แล้วส่งต่อให้กับกลุ่มสุดท้าย เพื่อนำทัพ DNA Skyactiv กลับสู่ประเทศไทย ผ่านด่านแม่สอด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เป็นอันสิ้นสุดภารกิจ Mazda DNA Skyactiv Caravan
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : เรื่องน่ารู้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/177079