รถล่าสุด
Lamborghini Aventador S
บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด จัดงาน The Private Preview เปิดตัว Lamborghini Aventador S เริ่มต้น 38.7 ล้านบาท
บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนจัดจำหน่าย Lamborghini อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงาน The Private Preview of Lamborghini Aventador S – Dare Your Ego แนะนำ Lamborghini Aventador S ใหม่ เครื่องยนต์ 12 สูบ 740 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 38.7 ล้านบาท
https://youtu.be/mnhwPRkfDII
Lamborghini Aventador S ซูเพอร์คาร์ รุ่นสูงสุดของค่าย Lamborghini ได้รับการออกแบบที่โดดเด่น หลักอากาศพลศาสตร์ ดีเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงแนวทางการออกแบบของเจเนอเรชันต่อไปของ Aventador ชัดเจน ตัวรถเปลี่ยนแปลงภายนอกหลายอย่างจากตัวถังด้านหน้าและด้านท้าย ขณะที่ภาพรวมของตัวรถยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Aventador เอาไว้ทุกชิ้น
ศูนย์ออกแบบ Lamborghini Centro Stile ได้ออกแบบชิ้นส่วนตัวรถบางชิ้นโดยผสมผสานเอกลักษณ์เดิมของรถสปอร์ท ของค่ายไว้ด้วยกัน เช่น แนวของเส้นตัวถังบนซุ้มล้อหลังที่มีลักษณะคล้ายกับรถสปอร์ทในอดีตอย่าง Countach แลเะยังคงตอบสนองภาพลักษณ์ของ Aventador ที่เต็มไปด้วยเรี่ยวแรงพลังในการขับเคลื่อน
ตัวถังด้านหน้าดุดันขึ้น ติดตั้งแผ่นรีดอากาศขนาดใหญ่ ช่วยในเรื่องการควบคุมทิศทางการไหลของลม เพื่อประสิทธิภาพในด้านหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในด้านการระบายความร้อนของเครื่องยนต์และหม้อน้ำ ท่อนำอากาศ 2 ท่อ ติดตั้งอยู่ด้านข้างกันชนหน้า ช่วยลดแรงต้านที่ส่งผลต่อความเพรียวลมตรงบริเวณยางของล้อหน้า ช่วยให้อากาศไหลเข้าสู่หม้อน้ำที่อยู่ด้านท้ายได้ดีขึ้น
ด้านท้ายโดดเด่นด้วยชุดรีดอากาศ Diffuser สีดำขนาดใหญ่ ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ประกอบไปด้วยครีบแนวตั้งหลายชิ้น ช่วยส่งผลต่อทิศทางการไหลของลม ลดแรงฉุดที่เกิดขึ้นในขณะที่รถกำลังแล่น และสามารถสร้างแรงกดบนตัวถัง โดยที่ตำแหน่งปลายท่อไอเสียบนกันชนท้าย มีถึง 3 ปลายท่อ
สปอยเลอร์หลังปรับได้ 3 ระดับ ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้และโหมดการขับขี่ที่ถูกเลือก ซึ่งระดับการยกตัวของสปอยเลอร์หลังจะมีผลต่อความสมดุลโดยรวมของตัวรถ และทำงานร่วมกับตัวสร้างกระแสลมหมุน หรือ Vortex Generator ที่อยู่ในตำแหน่งด้านล่างของระบบช่วงล่างด้านหน้าและหลัง ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของกระแสลมได้อย่างสูงสุด เช่นเดียวกับการช่วยระบายความร้อนให้กับระบบเบรค
ประสิทธิภาพทางด้านหลักอากาศพลศาสตร์ แรงกดบนตัวถังด้านหน้า ปรับปรุงให้เพิ่มขึ้นถึง 130 % เมื่อเปรียบเทียบกับ Aventador ตัวถังคูเป รุ่นดิม และเมื่อแพนอากาศด้านหลังอยู่ในตำแหน่งที่มีประโยชน์สูงสุดในด้านหลักอากาศพลศาสตร์ จะสามารถสร้างแรงกดบนตัวถังที่ดีขึ้นจากเดิมถึง 50 % และลดแรงกระชากที่เกิดขึ้นบนตัวถังได้มากกว่า 400 % เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม
ห้องโดยสารของ Aventador S มาพร้อมกับฟังค์ชันใหม่ๆ และการตกแต่งที่ประณีต ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการแสดงผลบนหน้าจอแบบ TFT ได้ตามความต้องการ และมาพร้อมกับหน้าจอย่อยที่ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับ Strada, Sport และ Corsa รวมไปถึงการทำงานแบบ EGO Mode หลังจากเลือกโหมดการขับขี่ที่ต้องการในแผงควบคุม ปุ่ม EGO ยังมีออพชันอื่นๆให้เลือกเพิ่มเติมอีก ซึ่งจะแสดงผลบนหน้าจอเล็ก ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกและปรับแต่งได้ตามความต้องการส่วนตัว
ติดตั้งระบบปฏิบัติการ AppleCarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ iPhone iPad จากบแรนด์ Apple ของผู้ขับขี่ เพื่อความบันเทิงตลอดทาง สะดวกสบายด้วยระบบการสั่งงานด้วยเสียง
สิ่งที่เป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้งพิเศษ คือ ระบบส่งข้อมูลการขับเข้ามาเก็บในตัวรถ หรือ Telemetry System ซึ่งระบบนี้ ผู้ขับขี่ที่นำรถลงขับในทแรคสามารถรับทราบข้อมูลการขับ เช่น เวลาต่อรอบ และสมรรถนะของตัวรถในการขับ ณ รอบนั้น เช่นเดียวกับข้อมูลการขับในด้านต่างๆ
เครื่องยนต์แบบ 12 สูบ 6.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ ปรับปรุงให้มีกำลังเพิ่มขึ้น 40 แรงม้าจากรุ่นเดิม สามารถให้กำลังถึง 740 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 690 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500 รตน. ระบบวาล์วแปรผัน VVT (Variable Valve Timing) และระบบปรับความยาวของชุดท่อไอดี VIS (Variable Intake System) สร้างแรงบิดที่ยอดเยี่ยม การทำงานสูงสุดของเครื่องยนต์ถูกเพิ่มจาก 8,350 มาเป็น 8,500 รตน.
น้ำหนักรถเปล่าเพียง 1,575 กก. ทำให้อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าของตัวรถอยู่ที่ 2.13 กก./แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียงแค่ 2.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 350 กม./ชม. Lamborghini ใช้ระบบเลี้ยว 4 ล้อ ใหม่ ผสมผสานการทำงานของระบบ Lamborghini Dynamic Steering (LDS) ที่ปรับแต่งเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับการตอบสนองที่ฉับไว ประสานกับระบบบังคับเลี้ยวของล้อหลัง หรือ Lamborghini Rear-wheel Steering (LRS) มีตัวควบคุมที่แยกการทำงานต่างหาก 2 ชุด ตอบสนองรวดเร็ว เพียง 0.005 วินาที หลังจากหักพวงมาลัย
ใช้ชุดระบบส่งกำลังเป็นแบบ ISR-Independent Shifting Rod แบบ 7 จังหวะ ซึ่งชุดเกียร์มีน้ำหนักเบา และมีการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่ฉับไวเพียง 0.05 วินาทีเท่านั้น
ท่อไอเสียมีน้ำหนักเบากว่าที่ติดตั้งในรุ่นเดิมถึง 20 % และผ่านการทดสอบหลายขั้นตอน ด้านการตอบสนองของเสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Lamborghini จากเครื่องยนต์ วี 12 ใช้ปลายท่อไอเสียแบบรวมเป็นชุดเดียวกันแต่มี 3 ปลายท่อ
ด้านสมรรถนะของ Aventador S
ความเร็วสูงสุด : 350 กม./ชม. (217 ไมล์/ชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 2.9 วินาที
อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. : 8.8 วินาที
อัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. : 24.2 วินาที
ระยะเบรคจาก 100-0 กม./ชม. : 31 เมตร
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
ในเมือง : 26.2 ลิตร/100 กม.
นอกเมือง : 11.6 ลิตร/100 กม.
แบบผสม : 16.9 ลิตร/100 กม.
การคายแกสคาร์บอนไดออกไซด์ : 394 กรัม/1 กม.
หมายเหตุ : ตามการทดสอบ Dir. 1999/100/CE
Aventador S ได้รับการติดตั้งระบบ Stop-and-Start ระบบ Cylinder Deactivation หยุดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ากระบอกสูบจำนวนครึ่งหนึ่งของจำนวนกระบอกสูบที่มีอยู่ในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านความประหยัดน้ำมันและลดมลพิษ โดยเมื่อเครื่องยนต์กำลังทำงานในลักษณะที่ไม่เน้นสมรรถนะ กระบอกสูบ 6 จาก 12 สูบ จะหยุดการทำงานชั่วคราว โดยกระบอกสูบทั้ง 6 ที่หยุดการทำงานจะอยู่ในแนวของเสื้อสูบฝั่งเดียวกันของบลอคเสื้อสูบแบบตัว V เมื่อผู้ขับขี่กดคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็ว จะเป็นการแจ้งเตือนให้เครื่องยนต์กลับมาทำงานแบบเต็มระบบอีกครั้ง เครื่องยนต์จะทำงานแบบครบทั้ง 12 สูบ โดยการตัดสลับการทำงานของระบบนี้จะมีความนุ่มนวลและต่อเนื่อง ชนิดที่ผู้ขับขี่แทบไม่สามารถสังเกตได้เลยว่าตัวเครื่องยนต์กำลังอยู่ในโหมดไหน
สามารถเลือกรูปแบบการทำงานของระบบเพื่อสอดคล้องกับการขับขี่ได้ถึง 4 แบบด้วยกัน คือ Strada, Sport, Corsa และแบบใหม่ล่าสุดคือ EGO Mode ซึ่งทั้งหมดจะมีการปรับปรุงในส่วนรูปแบบการทำงานของระบบการยึดเกาะ (เครื่องยนต์, เกียร์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ) ระบบบังคับเลี้ยว (LRS, LDS และ Servotronic) และระบบช่วงล่าง (LMS)
โหมด Strada เน้นสะดวกสบายสูงสุดและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โหมด Sport ให้สัมผัสในรูปแบบของการขับเคลื่อนล้อหลัง และ Corsa คือ การปรับแต่งระบบให้รองรับกับการใช้งานในสนามด้วยสมรรถนะสูงสุด สำหรับโหมด EGO เป็นรูปแบบการขับใหม่ที่เพิ่มเข้ามา มีการเพิ่มรูปแบบการปรับเซทที่มีสไตล์เฉพาะตัว หลากหลาย ปรับแต่งโดยผู้ขับเอง สามารถเลือกตั้งค่าการทำงานในด้านการยึดเกาะ การบังคับเลี้ยว การขับขี่นุ่มนวลและดุดัน ให้ผู้ขับสามารถปรับโหมดได้ตามสไตล์การขับขี่ และระบบช่วงล่างจากโหมดทั้ง 3 คือ Strada, Sport และ Corsa ได้ตามใจชอบ
ติดตั้งระบบ ESC และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมถึงการจัดการในส่วนการกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ และการตอบสนองของระบบควบคุมการยึดเกาะ การกระจายแรงบิดสู่เพลาหน้าและหลังอย่างต่อเนื่องในแต่ละโหมดการขับขี่จะได้รับการปรับแต่งใหม่สำหรับระบบ Lamborghini Rear-wheel Steering และความแตกต่างระหวางโหมดการขับแบบต่างๆ จะได้รับการปรับปรุงให้ทำงานได้ดีขึ้น
โครงสร้างตัวถังแบบโมโนคอก ที่มีความทนทานต่อการบิดตัวและมีน้ำหนักเบา เพราะผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ โดยโครงสร้างนี้จะเชื่อมต่อเข้ากับเฟรมตัวถังที่ผลิตจากอลูมิเนียม ซึ่งผลก็คือ ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเปล่า หรือ Dry Weight เพียง 1,575 กก. เท่านั้น
เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ ล้อหลังจะมีการหักเลี้ยวในลักษณะที่ตรงข้ามกับมุมการเลี้ยวที่เกิดขึ้น ผลที่เกิดขึ้น คือ ทำให้ตัวรถมีความยาวของระยะฐานล้อลดลง และจากการที่ตัวรถต้องการมุมการเลี้ยวของพวงมาลัยลดลงนั้น ทำให้ Aventador S มีความคล่องตัวมากขึ้นเพราะมีรัศมีวงเลี้ยวที่ลดลง และให้ความมั่นใจกับสมรรถนะการเข้าโค้งที่ดีขึ้น และทำให้สามารถซอกซอนท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งของถนนในเมืองด้วยความคล่องตัว ช่วงความเร็วสูงจะแตกต่างออกไป โดยทั้งล้อหน้าและล้อหลังจะหมุนไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับมุมการหมุนของพวงมาลัย
ระบบช่วงล่าง Lamborghini Magneto-Rheological Suspension (LMS) ทำงานร่วมกับระบบเลี้ยว 4 ล้อรุ่นใหม่ของตัวรถ การจัดวางชิ้นส่วนในระบบกันสะเทือนในเชิงเรขาคณิตมีการปรับปรุงใหม่ ซึ่งก็เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง Lamborghini Rear-wheel Steering ซึ่งการปรับปรุงนี้มีทั้งในส่วนของปีกนกตัวบน ตัวล่าง และดุมล้อ ซึ่งจะช่วยลดมุมแคสเตอร์และลดภาระที่เกิดขึ้นกับระบบช่วงล่าง ระบบชอคอับที่มีการปรับระดับความหนืดแบบ Real-time ให้สอดคล้องกับสภาพการขับขี่ จะช่วยควบคุมล้อและตัวถัง ให้สามารถอยู่ในระดับที่สมดุล และให้ระดับการยึดเกาะที่สูงสุด นอกจากนั้น สปริงชุดใหม่ที่ล้อหลังยังช่วยควบคุมความสมดุลของตัวรถได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ระบบ ESC มีความแม่นยำ ควบคุมการยึดเกาะและพลวัตรในการขับเคลื่อน ระบบ Lamborghini Rear-wheel Steering ส่งผ่านแรงบิดจากเครื่องยนต์ได้มากขึ้น เมื่อมีการถอนคันเร่ง แรงบิดที่ถูกถ่ายทอดไปล้อหน้าจะลดลง
วิศวกรของ Lamborghini ได้ติดตั้งหน่วยควบคุมและประมวลผลที่มีความเป็นอัจฉริยะอย่าง Lamborghini Dinamica Veicolo Attiva (LDVA) เข้าไปในตัวรถเพื่อควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ โดย LDVA คือ สมองชุดใหม่ของตัวรถ คอยรับข้อมูลการเคลื่อนที่ของตัวรถแบบ Real-time และมีความแม่นยำมากขึ้นผ่านทางข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจากเซนเซอร์ทั้งหมด ติดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ในตัวรถ จึงมั่นใจว่าตัวระบบได้รับการตั้งค่าเพื่อให้ทำงานดีที่สุด ระบบควบคุมการขับเคลื่อนของตัวรถทำงานอย่างยอดเยี่ยม
ยางมีความเป็นเอกซ์คลูซีฟ เพราะ Pirelli ได้พัฒนายางรุ่น P Zero ขึ้นมาเพื่อรถสปอร์ทรุ่นนี้โดยเฉพาะ มีการออกแบบเพื่อเน้นประโยชน์ ด้านการบังคับเลี้ยว ยึดเกาะ การเปลี่ยนเลนกะทันหัน และการเบรคที่มีประสิทธิภาพ การถ่ายทอดกำลัง จากล้อหน้าและล้อหลัง ยาง Pirelli P Zero รองรับอัตราเร่งที่ฉับไว และลดอาการหน้าดื้อโค้ง ได้ดี
ระบบเบรคแบบจาน ผลิตจากคาร์บอนเซรามิค พร้อมกับรูระบายความร้อน (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 400x38 มม. ที่ด้านหน้า และ 380x38 มม. ที่ด้านหลัง) เพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถจากความเร็ว 100 กม./ชม. ให้หยุดสนิทโดยที่มีระยะเบรคเพียงแค่ 31 ม. เท่านั้น
ข้อมูลจำเพาะ Lamborghini Aventador S
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด โทร. 0-2610-9922-5
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,797/2,030/1,136
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,720/1,680
ฐานล้อ (มม.) 2,700
น้ำหนัก (กก.) 1,575
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 85
เครื่องยนต์ เบนซิน วี 12 เสื้อสูบเอียง 60 องศา ระบบวาล์วอีเลคทรอนิคส์
ความจุ (ซีซี) 6,498
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 95/76.4
อัตราส่วนกำลังอัด 11.8:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 740/8,400
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 70.4/5,500
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิคส์ MPI
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) 7 จังหวะแบบ ISR
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 ชุดเฟือง Haldex เจเนอเรชัน 4
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ ปีกนกคู่อลูมิเนียม
หลัง อิสระ ปีกนกคู่อลูมิเนียม
ระบบบังคับเลี้ยว เพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ แบบไฮดรอลิค 2 วงจรคู่ พร้อมหม้อลมเบรค
หน้า จาน คาร์บอนเซรามิค
หลัง จาน คาร์บอนเซรามิค
ราคา (บาท) 38,700,000
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง
ภาพโดย : บริษัท นิชคาร์ กรุ๊ป จำกัด
คอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/160521