ทดลองขับ(formula)
ปโรตอน ซาตรีอา นีโอ
โครงการผลิต \"ปโรตอน\" (PROTON) รถยนต์แห่งชาติของมาเลเซีย เริ่มต้นในปี 2522 และออกมาเป็นรูปเป็นร่างในปี 2528 รุ่นแรก คือ ปโรตอน ซากา (PROTON SAGA) 20 ปีที่ ปโรตอน ผลิตรถภายใต้บแรนด์ของตนเอง ทีมวิศวกรผู้ออกแบบ และพัฒนา ได้สร้างรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้กับเครื่องยนต์ CAMPRO ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ปโรตอน รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพการผลิต จนกระทั่งได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก หลังจากบริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด แนะนำ ปโรตอน อย่างเป็นทางการในบ้านเรา พร้อมเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น ประกอบด้วย เซฟวี (SAVVY) รถ 5 ประตู รุ่นประหยัด ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 3 แสนกว่าบาท ซาตรีอา นีโอ (SATRIA NEO) รถ 3 ประตู มาดเท่เอาใจวัยมัน และ เจน 2 (GEN 2) รถแฮทช์แบค 5 ประตู ท้ายลาด เครื่องยนต์ CAMPRO ซึ่งได้การตอบรับอย่างดีทั้ง 3 รุ่น ด้วยยอดจองกว่าพันคัน ภายในงาน \"มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 24\" เราก็มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชม โรงงานผลิตรถยนต์ทั้ง 2 แห่งในประเทศมาเลเซียพร้อมทั้งสำนักงานใหญ่ โชว์รูม และส่วนบริการหลังการขาย ศูนย์การออกแบบ พัฒนาและวิจัยรถยนต์ และเครื่องยนต์ของ ปโรตอน ที่นับว่าทันสมัยแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งได้ลองขับ ปโรตอน ซาตรีอา นีโอ รถ 3 ประตู สปอร์ทแฮทช์แบคยอดนิยม ที่มาแทน ซาตรีอา จีทีไอ (SATRIA GTI) ญาติสนิทของ มิตซูบิชิ โคลท์ (MITSUBISHI COLT) ซึ่งเรามีความเห็นดังนี้โครงการผลิต "ปโรตอน" (PROTON) รถยนต์แห่งชาติของมาเลเซีย เริ่มต้นในปี 2522 และออกมาเป็นรูปเป็นร่างในปี 2528 รุ่นแรก คือ ปโรตอน ซากา (PROTON SAGA) 20 ปีที่ ปโรตอน ผลิตรถภายใต้บแรนด์ของตนเอง ทีมวิศวกรผู้ออกแบบ และพัฒนา ได้สร้างรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้กับเครื่องยนต์ CAMPRO ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ปโรตอน รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพการผลิต จนกระทั่งได้รับการ ยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก หลังจากบริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด แนะนำ ปโรตอน อย่างเป็นทางการในบ้านเรา พร้อมเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น ประกอบด้วย เซฟวี (SAVVY) รถ 5 ประตู รุ่นประหยัด ที่มี ราคาเริ่มต้นเพียง 3 แสนกว่าบาท ซาตรีอา นีโอ (SATRIA NEO) รถ 3 ประตู มาดเท่ เอาใจวัยมัน และ เจน 2 (GEN 2) รถแฮทช์แบค 5 ประตู ท้ายลาด เครื่องยนต์ CAMPRO ซึ่งได้การตอบรับอย่างดีทั้ง 3 รุ่น ด้วยยอดจองกว่าพันคัน ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 24" เราก็มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชม โรงงานผลิตรถยนต์ทั้ง 2 แห่งในประเทศมาเลเซีย พร้อมทั้งสำนักงานใหญ่ โชว์รูม และส่วนบริการหลังการขาย ศูนย์การออกแบบ พัฒนา และวิจัยรถยนต์ และเครื่องยนต์ของ ปโรตอน ที่นับว่าทันสมัยแห่งหนึ่งของโลก รวม ทั้งได้ลองขับ ปโรตอน ซาตรีอา นีโอ รถ 3 ประตู สปอร์ทแฮทช์แบคยอดนิยม ที่มาแทน ซาตรีอา จีทีไอ (SATRIA GTI) ญาติสนิทของ มิตซูบิชิ โคลท์ (MITSUBISHI COLT) ซึ่งเรามีความเห็นดังนี้ ภายนอก คมเข้ม สไตล์ยุโรป รูปลักษณ์ภายนอก ที่เน้นเหลี่ยมสัน คมเข้ม สไตล์ยุโรป ซึ่งได้รับอิทธิพลการออกแบบ จาก โลทัส (LOTUS) ที่เข้าร่วมทีมออกแบบ และพัฒนาของ ปโรตอน ตั้งแต่ปี 2539 กันชนขนาดใหญ่ กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ โคมไฟหน้าตัดเว้าตามไฟทรงกลมคู่ กระจังหน้า และช่องดักลมทั้ง 3 ช่อง ลายตาข่าย ขอบซุ้มล้อที่เด่นชัด แนวกระจกบังลมหน้าลาดเท รับกับหลังคาทรงโค้งกว่า ซาตรีอา จีทีไอ ทำให้ ซาตรีอา นีโอ มีความสูงตัวรถ ใกล้เคียงกับรถสปอร์ทคูเป และ ปโรตอน ยังใส่ลูกเล่นเพิ่มความ สปอร์ท เช่น ฝาถังน้ำมันอลูมีเนียมทรงกลม กระจกมองข้าง รูปทรงหยดน้ำ และท่อไอ เสียที่ติดตั้งไว้ตรงกลางกันชนหลัง ภายใน ถ่ายทอดบุคลิกสปอร์ทจาก โลทัส การออกแบบของ โลทัส ยังเข้ามามีอิทธิพลกับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร คอนโซล หน้ารูปตัว T แบบชิ้นเดียว ช่องแอร์ทรงกลม และตกแต่งด้วยสีเมทัลลิค กเรย์ ดูทันสมัย สไตล์สปอร์ท พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน มาตรวัดทรงกลมคู่ เบาะนั่งกระชับ ปีกเบาะขนาด ใหญ่สีเทาสลับดำ คันเกียร์แบบจอยสติค วิทยุ/ซีดี/เอมพี 3 แบบบิวอิน สวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศแบบตั้งอุณหภูมิ คล้ายกับ โตโยตา ยารีส สวยสะดุดตา น่าใช้ ซาตรีอา นีโอ มีภายในที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเบาะนั่งที่เข้า/ออกสะดวก และ รูปทรงที่โอบรับสรีระ นั่งสบาย พวงมาลัยมีขนาดที่เหมาะมือ และมีระบบควบคุมความ เร็วคงที่อัตโนมัติ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ไฮไลน์ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร กำลังพอใช้ ซาตรีอา นีโอ ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว CAMPRO 2 ขนาด คือ 1.3 ลิตร 94 แรงม้า และ 1.6 ลิตร 110 แรงม้า มาพร้อมเกียร์ ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ในการทดลองขับครั้งนี้ มีเพียงเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่จำหน่ายในบ้านเราเท่านั้น ซึ่งรุ่น เกียร์ธรรมดาออกตัวดี และทำความเร็วปลายได้สูงกว่ารุ่นเกียร์อัตโนมัติ แต่ไม่ถึงกับ จี๊ดจ๊าด หรือต่างกันมากนัก จุดน่าสนใจของรถรุ่นนี้ น่าจะอยู่ที่ความสบายเมื่อต้องเดิน ทางไกล เพราะมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ไฮไลน์ ระบบรองรับ แน่น ไม่แพ้รถยุโรป หน้าแมคเฟอร์สันสตัท หลังมัลทิลิงค์ และเหล็กกันโคลง ประกอบกับความสูงของตัวรถ เพียง 1,420 มม. และฝีมือการเซทระบบรองรับของทีมงาน โลทัส ไม่ทำให้เราผิดหวัง การเข้า/ออกโค้ง และเปลี่ยนช่องกะทันหัน ซาตรีอา นีโอ นิ่งกว่าที่คิด ยางขนาด 195/50 R16 มาตรฐานติดรถรุ่น 1.6 สมตัว ทำหน้าที่ได้ดี เมื่อขับเข้าสู่โค้ง สุดทางที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ในสนามทดสอบ แต่จะมีอาการหน้าดื้อบ้างถ้าใช้ความ เร็วเกินกว่านั้น ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ กับระบบเอบีเอส และอีบีดี ตอบสนองดีพอใช้ แต่ไม่ฉับไว เท่ารถญี่ปุ่น ที่แตะเบาๆ ก็ทำงานแล้ว สรุป เท่ คุ้มค่า สมราคา รูปร่างหน้าดูดี สวยเท่ ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งแบบสปอร์ท อุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ มาก็ไม่น้อยหน้ารถญี่ปุ่น เปรียบเทียบกับราคา 499,000 บาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 534,000 บาท ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และจ่ายเพิ่มอีก 30,000 บาท ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ไฮไลน์ ที่มีทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ ระบบเบรค เอบีเอส/อีบีดี เข็มขัด นิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ทำให้ ปโรตอน ซาตรีอา นีโอ คุ้มค่า สมราคา ข้อมูลจำเพาะ ปโรตอน ซาตรีอา นีโอ ไฮไลน์ ผู้จัดจำหน่าย บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด โทร. 0-2579-0888 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,905/1,710/1,425 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,470/1,470 ฐานล้อ (มม.) 2,440 น้ำหนัก (กก.) 1,190 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 1,149 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 69.0/76.8 อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 74/5,500 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 15.2/4,500 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 4 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง แบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 564,000
ภายนอก คมเข้ม สไตล์ยุโรป
รูปลักษณ์ภายนอก ที่เน้นเหลี่ยมสัน คมเข้ม สไตล์ยุโรป ซึ่งได้รับอิทธิพลการออกแบบ
จาก โลทัส (LOTUS) ที่เข้าร่วมทีมออกแบบ และพัฒนาของ ปโรตอน ตั้งแต่ปี 2539
กันชนขนาดใหญ่ กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ โคมไฟหน้าตัดเว้าตามไฟทรงกลมคู่
กระจังหน้า และช่องดักลมทั้ง 3 ช่อง ลายตาข่าย ขอบซุ้มล้อที่เด่นชัด
แนวกระจกบังลมหน้าลาดเท รับกับหลังคาทรงโค้งกว่า ซาตรีอา จีทีไอ ทำให้ ซาตรีอา
นีโอ มีความสูงตัวรถ ใกล้เคียงกับรถสปอร์ทคูเป และ ปโรตอน ยังใส่ลูกเล่นเพิ่มความ
สปอร์ท เช่น ฝาถังน้ำมันอลูมีเนียมทรงกลม กระจกมองข้าง รูปทรงหยดน้ำ และท่อไอ
เสียที่ติดตั้งไว้ตรงกลางกันชนหลัง
ภายใน ถ่ายทอดบุคลิกสปอร์ทจาก โลทัส
การออกแบบของ โลทัส ยังเข้ามามีอิทธิพลกับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร คอนโซล
หน้ารูปตัว T แบบชิ้นเดียว ช่องแอร์ทรงกลม และตกแต่งด้วยสีเมทัลลิค กเรย์ ดูทันสมัย
สไตล์สปอร์ท พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน มาตรวัดทรงกลมคู่ เบาะนั่งกระชับ ปีกเบาะขนาด
ใหญ่สีเทาสลับดำ คันเกียร์แบบจอยสติค
วิทยุ/ซีดี/เอมพี 3 แบบบิวอิน สวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศแบบตั้งอุณหภูมิ คล้ายกับ โตโยตา ยารีส สวยสะดุดตา น่าใช้
ซาตรีอา นีโอ มีภายในที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเบาะนั่งที่เข้า/ออกสะดวก และรูปทรงที่โอบรับสรีระ นั่งสบาย พวงมาลัยมีขนาดที่เหมาะมือ และมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ไฮไลน์
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร กำลังพอใช้
ซาตรีอา นีโอ ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว
CAMPRO 2 ขนาด คือ 1.3 ลิตร 94 แรงม้า และ 1.6 ลิตร 110 แรงม้า มาพร้อมเกียร์
ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ในการทดลองขับครั้งนี้ มีเพียงเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่จำหน่ายในบ้านเราเท่านั้น ซึ่งรุ่น
เกียร์ธรรมดาออกตัวดี และทำความเร็วปลายได้สูงกว่ารุ่นเกียร์อัตโนมัติ แต่ไม่ถึงกับ
จี๊ดจ๊าด หรือต่างกันมากนัก จุดน่าสนใจของรถรุ่นนี้ น่าจะอยู่ที่ความสบายเมื่อต้องเดิน
ทางไกล เพราะมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ไฮไลน์
ระบบรองรับ แน่น ไม่แพ้รถยุโรป
หน้าแมคเฟอร์สันสตัท หลังมัลทิลิงค์ และเหล็กกันโคลง ประกอบกับความสูงของตัวรถ
เพียง 1,420 มม. และฝีมือการเซทระบบรองรับของทีมงาน โลทัส ไม่ทำให้เราผิดหวัง
การเข้า/ออกโค้ง และเปลี่ยนช่องกะทันหัน ซาตรีอา นีโอ นิ่งกว่าที่คิด
ยางขนาด 195/50 R16 มาตรฐานติดรถรุ่น 1.6 สมตัว ทำหน้าที่ได้ดี เมื่อขับเข้าสู่โค้ง
สุดทางที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ในสนามทดสอบ แต่จะมีอาการหน้าดื้อบ้างถ้าใช้ความ
เร็วเกินกว่านั้น
ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ กับระบบเอบีเอส และอีบีดี ตอบสนองดีพอใช้ แต่ไม่ฉับไว
เท่ารถญี่ปุ่น ที่แตะเบาๆ ก็ทำงานแล้ว
สรุป เท่ คุ้มค่า สมราคา
รูปร่างหน้าดูดี สวยเท่ ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งแบบสปอร์ท อุปกรณ์มาตรฐานที่ให้
มาก็ไม่น้อยหน้ารถญี่ปุ่น เปรียบเทียบกับราคา 499,000 บาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา
534,000 บาท ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และจ่ายเพิ่มอีก 30,000 บาท ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
ไฮไลน์ ที่มีทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ ระบบเบรค เอบีเอส/อีบีดี เข็มขัด
นิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ทำให้ ปโรตอน ซาตรีอา นีโอ คุ้มค่า
สมราคา