ทดลองขับ(formula)
นาซา ฟอร์ซา สปอร์ท
นาซา ฟอร์ซา (NAZA FORZA) เป็นรถ 5 ประตู ขนาดเล็กกะทัดรัด ที่พัฒนามาจากรถยนต์ ฮาเฟย (HAFEI) รุ่น โลโบ (LOBO) ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง NAZA กับบริษัทรถยนต์ในประเทศจีน HAFEI MOTOR COMPANY โดยผลิตทีโรงงานประกอบรถยนต์ NAM ในประเทศมาเลเซีย ฟอร์ซา เป็นภาษาอิตาเลียน ซึ่งแปลว่า "ไป" หรือ "รุก" มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน ราคา 349,000 บาท และรุ่นสปอร์ท 379,000 บาท ที่เสริมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 11 รายการ ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ล้ออัลลอย กระจกมองข้างไฟฟ้า ไฟตัดหมอกหน้า เซนทรัลลอค ไฟเบรคดวงที่ 3 เซนเซอร์ถอยจอด หัวเกียร์ กุญแจรีโมท เบาะหลังแยก 40:60 คิ้วกันกระแทก และกระจกมองข้างสีเดียวกันกับตัวรถนาซา ฟอร์ซา (NAZA FORZA) เป็นรถ 5 ประตู ขนาดเล็กกะทัดรัด ที่พัฒนามาจากรถยนต์ ฮาเฟย (HAFEI) รุ่น โลโบ (LOBO) ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง NAZA กับบริษัทรถยนต์ในประเทศจีน HAFEI MOTOR COMPANY โดยผลิตทีโรงงานประกอบรถยนต์ NAM ในประเทศมาเลเซีย ฟอร์ซา เป็นภาษาอิตาเลียน ซึ่งแปลว่า "ไป" หรือ "รุก" มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน ราคา 349,000 บาท และรุ่นสปอร์ท 379,000 บาท ที่เสริมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 11 รายการ ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ล้ออัลลอย กระจกมองข้างไฟฟ้า ไฟตัดหมอกหน้า เซนทรัลลอค ไฟเบรคดวงที่ 3 เซนเซอร์ถอยจอด หัวเกียร์ กุญแจรีโมท เบาะหลังแยก 40:60 คิ้วกันกระแทก และกระจกมองข้างสีเดียวกันกับตัวรถ ภายนอก เหลี่ยม ทรงแปลกตา นาซา ฟอร์ซา ได้รับการออกแบบ โดยสถาบัน ปินินฟารีนา (PININFARINA) สำนักออกแบบรถยนต์ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ตั้งแต่ปี 2002 ในรูปแบบซิทีคาร์ 5 ประตู สไตล์ยุโรป โดยได้เติมคุณลักษณะ ความสะดวกสบายของรถ เอมพีวี เข้าไปด้วย ฟอร์ซา เป็นรถขนาดเล็กรูปทรงเหลี่ยมหลังคาสูงคล้ายกับ เอมพีวี รุ่นเก่า จุดเด่นที่เห็นแล้วสะดุดตา คือ ไฟเลี้ยวที่มุมเสา "เอ" กับไฟท้ายรูปสามเหลื่ยมขนาดใหญ่ ที่วางไว้ในระดับกระจก ซึ่งบ้างคนอาจจะมองว่ามันแปลก ถ้าเทียบกับ ปโรตอน เซฟวี ภายใน สบายๆ ไม่หรู แต่สปอร์ท ห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทน ครีมหรือเทาอ่อน ตัดกับสีดำ ดูกว้างขวาง มาตรวัดขนาดใหญ่ ทรงกลม ตัวหนังสือสีแดง/ขาว สะดุดตา น่ามอง เบาะคู่หน้าหนานั่งสบาย พร้อมพนักพิงศีรษะ ปรับได้ตามสรีระ เบาะหลังพับแยกได้ 60:40 เพื่อขยายเพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระได้มากขึ้น ในรุ่นสปอร์ท อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ก็สมราคา ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของ มีให้หลายจุด ช่องวางแก้วน้ำ ช่องลมระบบปรับอากาศ 4 ช่อง เพียงพอกับการทำความเย็น และสวิทช์ควบคุมแบบหมุน ใช้งานง่าย และในรุ่นสปอร์ทนี้ ยังมีระบบเซนทรัลลอคพร้อมรีโมท ไฟเบรคดวงที่ 3 ไฟตัดหมอกหน้า เซนเซอร์ถอยจอด และกระจกมองข้างซ้าย/ขวา ปรับด้วยไฟฟ้า รวมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า เครื่องยนต์ พอตัว เน้นประหยัด เครื่องยนต์ ขนาด 1.1 ลิตร แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว ที่บรรจุในรถยนต์รุ่นนี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ มิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมหัวฉีดมัลทิพอยท์ EFI ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่ระบบจุดระเบิดควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์จาก BOSCH ประเทศเยอรมนี ให้กำลังสูงสุด 65 แรงม้า ที่ 5,700 รตน. แรงบิดสูงสุด 9.0 กก.-ม. ที่ 3,000-3,500 รตน. กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ในสนามพีระ ฯ ฟอร์ซา ใช้รอบเครื่องสูง ตั้งแต่ 3,000 รตน. ลงตัวกับเกียร์ธรรมดา ในช่วงเกียร์ 1-3 แต่เกินจากนั้นต้องทำใจ ด้วยกำลังที่มีจำกัด ส่วนเส้นทางปกติ เกียร์ 4-5 สบาย ที่ความเร็ว 80-90 กม./ชม. เกินจากนั้นรอบสูงถึง 4,000 รตน. ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. บวกกับน้ำหนักตัวน้อย ทำให้ต้องเหนื่อย ข้อมูลจากผู้ผลิตแจ้งว่า ฟอร์ซา มีอัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ประมาณ 15-18 กม./ลิตร แต่ถ้าต้องการประหยัด ในรอบต่ำ สามารถทำได้ถึง 20-21 กม./ลิตร จึงพอสรุปได้ว่าขับช้าๆ ดีกว่า ะบบรองรับ แน่นกระชับ คล่องตัวในเมือง ฟอร์ซา เป็นรถอีกรุ่นที่ทีมวิศวกรจาก โลทัส เป็นผู้ออกแบบพัฒนาระบบกันสะเทือน แม้จะมีช่วงล้อหน้า/หลัง ฐานล้อ แคบกว่า และมีส่วนสูงที่มากกว่า ปโรตอน เซฟวี ความแน่นกระชับของช่วงล่างแบบสปอร์ท และยาง 165/55 R14 ที่มีแก้มต่ำ ก็ยังสร้างความมั่นใจพอควร เมื่อขับในสนามพีระ ฯ แต่การขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนน เจอแรงต้านของลม และลมกระโชก ก็ยังมีอาการโยนตัวบ้าง พวงมาลัย 4 แกน ออกแบบให้จับได้อย่างมั่นคง ใช้งานคล่องตัว ควบคุมง่าย ขาดแต่ปรับสูง/ต่ำไม่ได้ คอนโซลกลางต่ำ คันเกียร์ยาว ให้ความรู้สึกเหมือนขับ ไดฮัทสุ อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปสำหรับรถยุคนี้ คือ ระบบ เอบีเอส และระบบการกระจายแรงเบรค แม้จะด้วยเหตุผลเรื่องความประหยัด แต่ก็ทำให้มันด้อยกว่าคู่แข่ง สรุป ประหยัด ราคาสมเหตุสมผล รถ 5 ประตู ขนาดเล็กกะทัดรัด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.1 ลิตร 65 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน แอร์เย็น มีถุงลมนิรภัยคู่หน้า ในราคาไม่ถึง 4 แสนบาท ถ้าใช้งานไม่มาก หรือเป็นรถคันแรก ก็นับว่าน่าสนใจ ข้อมูลจำเพาะ นาซา ฟอร์ซา สปอร์ท ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ยนตรกิจ มอเตอร์เซลส์ จำกัด โทร. 0-2266-7777 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,633/1,563/1,533 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,360/1,355 ฐานล้อ (มม.) 2,355 น้ำหนัก (กก.) 895 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 40 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 1,075 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 68.0/74.0 อัตราส่วนกำลังอัด 9.1:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 65/5,700 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 9.0/3,000 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) ธรรมดา 5 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชันบีม ทเรลิงอาร์ม คอยล์สปริง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) 379,000
ภายนอก เหลี่ยม ทรงแปลกตา
นาซา ฟอร์ซา ได้รับการออกแบบ โดยสถาบัน ปินินฟารีนา (PININFARINA) สำนักออกแบบรถยนต์ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ตั้งแต่ปี 2002 ในรูปแบบซิทีคาร์ 5 ประตู สไตล์ยุโรป โดยได้เติมคุณลักษณะ ความสะดวกสบายของรถ เอมพีวี เข้าไปด้วย
ฟอร์ซา เป็นรถขนาดเล็กรูปทรงเหลี่ยมหลังคาสูงคล้ายกับ เอมพีวี รุ่นเก่า จุดเด่นที่เห็นแล้วสะดุดตา คือ ไฟเลี้ยวที่มุมเสา "เอ" กับไฟท้ายรูปสามเหลื่ยมขนาดใหญ่ ที่วางไว้ในระดับกระจก ซึ่งบ้างคนอาจจะมองว่ามันแปลก ถ้าเทียบกับ ปโรตอน เซฟวี
ภายใน สบายๆ ไม่หรู แต่สปอร์ท
ห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทน ครีมหรือเทาอ่อน ตัดกับสีดำ ดูกว้างขวาง มาตรวัดขนาดใหญ่ทรงกลม ตัวหนังสือสีแดง/ขาว สะดุดตา น่ามอง เบาะคู่หน้าหนานั่งสบาย พร้อมพนักพิงศีรษะ ปรับได้ตามสรีระ เบาะหลังพับแยกได้ 60:40 เพื่อขยายเพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระได้มากขึ้น ในรุ่นสปอร์ท
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ก็สมราคา ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของ มีให้หลายจุด ช่องวางแก้วน้ำ ช่องลมระบบปรับอากาศ 4 ช่อง เพียงพอกับการทำความเย็น และสวิทช์ควบคุมแบบหมุน ใช้งานง่าย และในรุ่นสปอร์ทนี้ ยังมีระบบเซนทรัลลอคพร้อมรีโมท ไฟเบรคดวงที่ 3 ไฟตัดหมอกหน้า เซนเซอร์ถอยจอด และกระจกมองข้างซ้าย/ขวา ปรับด้วยไฟฟ้า รวมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า
เครื่องยนต์ พอตัว เน้นประหยัด
เครื่องยนต์ ขนาด 1.1 ลิตร แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว ที่บรรจุในรถยนต์รุ่นนี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ มิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมหัวฉีดมัลทิพอยท์ EFI ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่ระบบจุดระเบิดควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์จาก BOSCH ประเทศเยอรมนี ให้กำลังสูงสุด 65 แรงม้า ที่ 5,700 รตน. แรงบิดสูงสุด 9.0 กก.-ม. ที่ 3,000-3,500 รตน. กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ในสนามพีระ ฯ ฟอร์ซา ใช้รอบเครื่องสูง ตั้งแต่ 3,000 รตน. ลงตัวกับเกียร์ธรรมดา ในช่วงเกียร์ 1-3 แต่เกินจากนั้นต้องทำใจ ด้วยกำลังที่มีจำกัด ส่วนเส้นทางปกติ เกียร์ 4-5 สบาย ที่ความเร็ว 80-90 กม./ชม. เกินจากนั้นรอบสูงถึง 4,000 รตน. ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. บวกกับน้ำหนักตัวน้อย ทำให้ต้องเหนื่อย
ข้อมูลจากผู้ผลิตแจ้งว่า ฟอร์ซา มีอัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ประมาณ 15-18 กม./ลิตร แต่ถ้าต้องการประหยัด ในรอบต่ำ สามารถทำได้ถึง 20-21 กม./ลิตร จึงพอสรุปได้ว่าขับช้าๆ ดีกว่า
ระบบรองรับ แน่นกระชับ คล่องตัวในเมือง
ฟอร์ซา เป็นรถอีกรุ่นที่ทีมวิศวกรจาก โลทัส เป็นผู้ออกแบบพัฒนาระบบกันสะเทือน แม้จะมีช่วงล้อหน้า/หลัง ฐานล้อ แคบกว่า และมีส่วนสูงที่มากกว่า ปโรตอน เซฟวี ความแน่นกระชับของช่วงล่างแบบสปอร์ท และยาง 165/55 R14 ที่มีแก้มต่ำ ก็ยังสร้างความมั่นใจพอควร เมื่อขับในสนามพีระ ฯ แต่การขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนน เจอแรงต้านของลม และลมกระโชก ก็ยังมีอาการโยนตัวบ้าง
พวงมาลัย 4 แกน ออกแบบให้จับได้อย่างมั่นคง ใช้งานคล่องตัว ควบคุมง่าย ขาดแต่ปรับสูง/ต่ำไม่ได้ คอนโซลกลางต่ำ คันเกียร์ยาว ให้ความรู้สึกเหมือนขับ ไดฮัทสุ อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปสำหรับรถยุคนี้ คือ ระบบ เอบีเอส และระบบการกระจายแรงเบรค แม้จะด้วยเหตุผลเรื่องความประหยัด แต่ก็ทำให้มันด้อยกว่าคู่แข่ง
สรุป ประหยัด ราคาสมเหตุสมผล
รถ 5 ประตู ขนาดเล็กกะทัดรัด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.1 ลิตร 65 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน แอร์เย็น มีถุงลมนิรภัยคู่หน้า ในราคาไม่ถึง 4 แสนบาท ถ้าใช้งานไม่มาก หรือเป็นรถคันแรก ก็นับว่าน่าสนใจ