ทดลองขับ(formula)
บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดให้สื่อมวลชนทดลองขับลีมูซีนหรู ซีรีส์ 7 โฉมใหม่ บนเส้นทาง กรุงเทพ ฯ-ระยอง-พัทยา (ชลบุรี) ครั้งนี้นอกจากได้สัมผัสความสะดวกสบายบนเบาะนั่งคู่หลัง ยังทดลองสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ 326 แรงม้า ใน 740 แอลไอ และดีเซลเทอร์โบ 218 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 55.1 กก.-ม. ซึ่งประหยัดน้ำมัน และมลพิษต่ำ ของ 730 ดีไอบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดให้สื่อมวลชนทดลองขับลีมูซีนหรู ซีรีส์ 7 โฉมใหม่ บนเส้นทาง กรุงเทพ ฯ-ระยอง-พัทยา (ชลบุรี) ครั้งนี้นอกจากได้สัมผัสความสะดวกสบายบนเบาะนั่งคู่หลัง ยังทดลองสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ 326 แรงม้า ใน 740 แอลไอ และดีเซลเทอร์โบ 218 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 55.1 กก.-ม. ซึ่งประหยัดน้ำมัน และมลพิษต่ำ ของ 730 ดีไอ ภายนอก มาดหรู ใหญ่ยาวกว่าเดิม มิติตัวถังของซีรีส์ 7 ใหม่ หรือ เอฟ 02 (F02) นั้น ได้รับการขยายเพิ่มขึ้นเกือบทุกส่วน เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอย และความกว้างขวางสะดวกสบาย ทั้งในส่วนของคนขับ และที่นั่งด้านหลัง ความยาว ฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 80 มม. จากรุ่น อี 66 (E66) ซึ่งทำให้ ซีรีส์ 7 ใหม่ เป็นรถระดับลีมูซีนที่มี พื้นที่ด้านหลังกว้างที่สุดในเซกเมนท์ ในขณะที่ความยาวโดยรวมของตัวรถ เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 33 มม. แต่มีรูปร่างลู่ลม ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.29 ส่วนหนึ่งมาจากครีบดักลมแบบเปิด/ปิดได้ซ่อนอยู่หลังกระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่จะปิดกันลมให้ไหลผ่านไปเมื่อรถวิ่ง และจะเปิดออกเมื่อรถติด อุณหภูมิในห้องเครื่องยนต์สูง ภายใน สะดวกสบาย ไอดไรฟหน้า/หลัง ซีรีส์ 7 ใหม่มาพร้อมกับระบบนำทาง (BMW NAVIGATION PROFESSIONAL) ซึ่ง ทำงานอยู่บนระบบฮาร์ดดิสค์ ขนาด 80 กิกกะไบท์ และแสดงแผนที่จอมอนิเตอร์ขนาด 10.2 นิ้ว บนแดชบอร์ด ในรูปแบบ 3 มิติ ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสาร มีทั้งทีวี และดีวีดี ผ่านจอมอนิเตอร์ 1 จอ ขนาด 10.2 นิ้ว ในด้านหน้า และ 2 จอ ขนาด 9.2 นิ้ว ที่สามารถทำงานอิสระต่อกันสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และระบบเครื่องเสียง LOGIC7 ที่มีถึง 16 ลำโพง และให้เสียงสมจริงเหมือนอยู่โรงภาพยนตร์ ซึ่งสามารถควบคุมผ่านระบบไอดไรฟ (IDRIVE) ใหม่ ที่ติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่นั่งหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบนวดหลัง และระบบ เป่าลมเย็น นอกจากนั้นระบบปรับอากาศยังเป็นระบบแยกโซน 4 โซน ซึ่งสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ตรงกับความต้องการของผู้โดยสารแต่ละคน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และสะดวกสบาย เครื่องยนต์ ขับสนุก แถมประหยัด 740 แอลไอ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบอัดอากาศแบบ เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุดถึง 326 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร วี 8 สูบ ในรุ่นก่อนถึง 20 แรงม้า หรือ 6 % และแรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 1,500-4,500 รตน. เพิ่มขึ้น 15 % หรือ 6.1 กก.-ม. ไม่เพียงเท่านั้น บีเอ็ม ฯ ยังแจ้งว่า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 6.0 วินาที ดีกว่าเดิมอีกเกือบ 1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราสิ้นเปลือง 10.0 กม./ลิตร ประหยัดน้ำมันขึ้น 15 % 730 แอลดี บรรจุเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา (185 กก.) ติดเทอร์โบแบบแปรผัน และหัวฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูง (1,800 บาร์) สามารถผลิตแรงบิดมหาศาลถึง 55.1 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน. และกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีบวก/ลบ ส่วนสมรรถนะนั้นผู้ผลิตแจ้งไว้ว่า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 8.0 วินาที ช้ากว่า 740 แอลไอ เพียงเล็กน้อย แต่อัตราสิ้นเปลือง ต่ำกว่า โดยทำได้ 13.7 กม./ลิตร ระบบรองรับ คล่องตัว ปลอดภัยด้วยตาอินฟราเรด 740 แอลไอ จัดได้ว่าเป็นรถยนต์ประกอบในเมืองไทย ที่มีเทคโนโลยีสูงคันหนึ่ง โดยได้ติดตั้งระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบสมองกลหน่วยควบคุมส่วนกลาง (INTEGRATED CHASSIS MANAGEMENT) มีหน้าที่ควบคุมและประสานงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบรักษาเสถียรภาพ (DYNAMIC STABILITY CONTROL) ที่ควบคุมการทำงาน ของทั้งระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว และโพรแกรมของระบบเกียร์ โดยอาศัยเทคโนโลยีเครือข่ายข้อมูลความเร็วสูง (FLEXRAY) ซึ่งมีความเร็ว ในการส่งข้อมูลสูงกว่าระบบธรรมดาถึง 20 เท่า ช่วยให้รถลีมูซีนคันหรู ตัวโต ที่ความยาวตัวรถ 5,212 มม. ควบคุมง่ายขณะใช้ความเร็วสูง และระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ คล่องตัวการเลี้ยวในที่แคบๆ เช่น ในลานจอดรถ หัวใจสำคัญของความปลอดภัย คือ ระบบแสดงผลบนกระจกหน้ารถ (HEAD-UP DISPLAY) ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตามามองที่หน้าปัด โดยเฉพาะในขณะใช้ความเร็วบนทางด่วน และระบบกล้องอินฟราเรด (NIGHT VISION) ซึ่งสามารถจับทิศทาง และความเร็วของคน หรือสัตว์ เพื่อคำนวณและเตือนล่วงหน้าให้ผู้ขับได้ทราบถึงสถานการณ์ที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะยามค่ำคืนและอยู่นอกระยะส่องของไฟหน้า ระบบกล้องในด้านหลัง ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยขณะถอยรถ และกล้องด้านข้างที่ติดตั้งอยู่บนกันชนหน้า เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยโดยเฉพาะกรณีที่เลี้ยวออกจากซอย เพื่อให้ไม่ต้องยื่นหน้ารถออกมามากเกินไป สรุป หรูหรา ครบเครื่องน่าใช้ 740 แอลไอ ใหม่ เพียบพร้อมทั้งด้านรูปลักษณ์ที่สง่างาม ห้องโดยสารหรูหรา และความสะดวกสบาย ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด พร้อมสมรรถนะความแรงน้องๆ รถสปอร์ท ขณะที่ 730 แอลดี มีจุดเด่นเรื่องพละกำลังแรงบิดมากกว่า 55 กก.-ม. ด้วยราคา 7,599,000 บาท ถูกกว่า 740 แอลไอ ซึ่งมีราคา 8,999,000 บาท ถึง 1.4 ล้านบาท ข้อมูลจำเพาะ บีเอมดับเบิลยู 740 แอลไอ ผู้จัดจำหน่าย บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2305-8888 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 5,212/1,902/1,478 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,611/1,650 ฐานล้อ (มม.) 3,210 น้ำหนัก (กก.) 1,970 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 82 เครื่องยนต์ แบบ 6 สูบเรียง คอมมอนเรล เทอร์โบ ความจุ (ซีซี) 2,979 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 326/5,800 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 45.9/1,500-4,500 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 6 มีบวก/ลบ ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง ระบบรองรับ หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 8,999,000
ภายนอก มาดหรู ใหญ่ยาวกว่าเดิม
มิติตัวถังของซีรีส์ 7 ใหม่ หรือ เอฟ 02 (F02) นั้น ได้รับการขยายเพิ่มขึ้นเกือบทุกส่วน เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอย และความกว้างขวางสะดวกสบาย ทั้งในส่วนของคนขับ และที่นั่งด้านหลัง ความยาว
ฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 80 มม. จากรุ่น อี 66 (E66) ซึ่งทำให้ ซีรีส์ 7 ใหม่ เป็นรถระดับลีมูซีนที่มีพื้นที่ด้านหลังกว้างที่สุดในเซกเมนท์ ในขณะที่ความยาวโดยรวมของตัวรถ เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 33 มม. แต่มีรูปร่างลู่ลม ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.29
ส่วนหนึ่งมาจากครีบดักลมแบบเปิด/ปิดได้ซ่อนอยู่หลังกระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่จะปิดกันลมให้ไหลผ่านไปเมื่อรถวิ่ง และจะเปิดออกเมื่อรถติด อุณหภูมิในห้องเครื่องยนต์สูง
ภายใน สะดวกสบาย ไอดไรฟหน้า/หลัง
ซีรีส์ 7 ใหม่มาพร้อมกับระบบนำทาง (BMW NAVIGATION PROFESSIONAL) ซึ่ง
ทำงานอยู่บนระบบฮาร์ดดิสค์ ขนาด 80 กิกกะไบท์ และแสดงแผนที่จอมอนิเตอร์ขนาด 10.2 นิ้ว บนแดชบอร์ด ในรูปแบบ 3 มิติ
ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสาร มีทั้งทีวี และดีวีดี ผ่านจอมอนิเตอร์ 1 จอ ขนาด 10.2 นิ้ว ในด้านหน้า และ 2 จอ ขนาด 9.2 นิ้ว ที่สามารถทำงานอิสระต่อกันสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และระบบเครื่องเสียง LOGIC7 ที่มีถึง 16 ลำโพง และให้เสียงสมจริงเหมือนอยู่โรงภาพยนตร์ ซึ่งสามารถควบคุมผ่านระบบไอดไรฟ (IDRIVE) ใหม่ ที่ติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่นั่งหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบนวดหลัง และระบบ เป่าลมเย็น นอกจากนั้นระบบปรับอากาศยังเป็นระบบแยกโซน 4 โซน ซึ่งสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ตรงกับความต้องการของผู้โดยสารแต่ละคน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และสะดวกสบาย
เครื่องยนต์ ขับสนุก แถมประหยัด
740 แอลไอ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบอัดอากาศแบบ เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุดถึง 326 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร วี 8 สูบ ในรุ่นก่อนถึง 20 แรงม้า หรือ 6 % และแรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 1,500-4,500 รตน. เพิ่มขึ้น 15 % หรือ 6.1 กก.-ม. ไม่เพียงเท่านั้น บีเอ็ม ฯ ยังแจ้งว่า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 6.0 วินาที ดีกว่าเดิมอีกเกือบ 1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราสิ้นเปลือง 10.0 กม./ลิตร ประหยัดน้ำมันขึ้น 15 %
730 แอลดี บรรจุเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา (185 กก.) ติดเทอร์โบแบบแปรผัน และหัวฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูง (1,800 บาร์) สามารถผลิตแรงบิดมหาศาลถึง 55.1 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน. และกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีบวก/ลบ ส่วนสมรรถนะนั้นผู้ผลิตแจ้งไว้ว่า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 8.0 วินาที ช้ากว่า 740 แอลไอ เพียงเล็กน้อย แต่อัตราสิ้นเปลือง ต่ำกว่า โดยทำได้ 13.7 กม./ลิตร
ระบบรองรับ คล่องตัว ปลอดภัยด้วยตาอินฟราเรด
740 แอลไอ จัดได้ว่าเป็นรถยนต์ประกอบในเมืองไทย ที่มีเทคโนโลยีสูงคันหนึ่ง โดยได้ติดตั้งระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบสมองกลหน่วยควบคุมส่วนกลาง (INTEGRATED CHASSIS MANAGEMENT) มีหน้าที่ควบคุมและประสานงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบรักษาเสถียรภาพ (DYNAMIC STABILITY CONTROL) ที่ควบคุมการทำงาน ของทั้งระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว และโพรแกรมของระบบเกียร์ โดยอาศัยเทคโนโลยีเครือข่ายข้อมูลความเร็วสูง (FLEXRAY) ซึ่งมีความเร็ว ในการส่งข้อมูลสูงกว่าระบบธรรมดาถึง 20 เท่า ช่วยให้รถลีมูซีนคันหรู ตัวโต ที่ความยาวตัวรถ 5,212 มม. ควบคุมง่ายขณะใช้ความเร็วสูง และระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ คล่องตัวการเลี้ยวในที่แคบๆ เช่น ในลานจอดรถ
หัวใจสำคัญของความปลอดภัย คือ ระบบแสดงผลบนกระจกหน้ารถ (HEAD-UP DISPLAY) ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตามามองที่หน้าปัด โดยเฉพาะในขณะใช้ความเร็วบนทางด่วน และระบบกล้องอินฟราเรด (NIGHT VISION) ซึ่งสามารถจับทิศทาง และความเร็วของคน หรือสัตว์ เพื่อคำนวณและเตือนล่วงหน้าให้ผู้ขับได้ทราบถึงสถานการณ์ที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะยามค่ำคืนและอยู่นอกระยะส่องของไฟหน้า
ระบบกล้องในด้านหลัง ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยขณะถอยรถ และกล้องด้านข้างที่ติดตั้งอยู่บนกันชนหน้า เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยโดยเฉพาะกรณีที่เลี้ยวออกจากซอย เพื่อให้ไม่ต้องยื่นหน้ารถออกมามากเกินไป
สรุป หรูหรา ครบเครื่องน่าใช้
740 แอลไอ ใหม่ เพียบพร้อมทั้งด้านรูปลักษณ์ที่สง่างาม ห้องโดยสารหรูหรา และความสะดวกสบาย ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด พร้อมสมรรถนะความแรงน้องๆ รถสปอร์ท ขณะที่ 730 แอลดี มีจุดเด่นเรื่องพละกำลังแรงบิดมากกว่า 55 กก.-ม. ด้วยราคา 7,599,000 บาท ถูกกว่า 740 แอลไอ ซึ่งมีราคา 8,999,000 บาท ถึง 1.4 ล้านบาท