ทดลองขับ(formula)
โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ จีทีไอ
หลังจาก กอล์ฟ จีทีไอ รุ่นที่ 5 (GTI Mark V) ได้จุดประกายความร้อนแรงให้แก่วงการ "ฮอทแฮทช์" ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ 210 แรงม้า ก็ถึงเวลาที่น้องใหม่ กอล์ฟ จีทีไอ รุ่นที่ 6 (GTI Mark VI) ที่ปราดเปรียว เฉียบคมกว่า และสืบสานตำนานแห่งความสำเร็จต่อไป กอล์ฟ จีทีไอ รุ่นที่ 6 คว้าตำแหน่ง "World Car of the Year 2009" และ "2009 International Engine of the Year" และเป็นรถยนต์ในฝันที่ร้อนแรงแห่งปีหลังจาก กอล์ฟ จีทีไอ รุ่นที่ 5 (GTI Mark V) ได้จุดประกายความร้อนแรงให้แก่วงการ "ฮอทแฮทช์" ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ 210 แรงม้า ก็ถึงเวลาที่น้องใหม่ กอล์ฟ จีทีไอ รุ่นที่ 6 (GTI Mark VI) ที่ปราดเปรียว เฉียบคมกว่า และสืบสานตำนานแห่งความสำเร็จต่อไป กอล์ฟ จีทีไอ รุ่นที่ 6 คว้าตำแหน่ง "World Car of the Year 2009" และ "2009 International Engine of the Year" และเป็นรถยนต์ในฝันที่ร้อนแรงแห่งปี ภายนอก แต่งเต็ม สไตล์อเมริกัน กระจังหน้าแบบรังผึ้งสีดำ พร้อมแถบสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ GTI ไฟคู่หน้าเฉียบคมดุดัน กันชนหน้าติดตั้งไฟตัดหมอกด้านหน้าดีไซจ์นเท่ สปอยเลอร์หลังคาทรงสปอร์ทขนาดใหญ่ กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ พร้อมแผงรีดลม (Diffuser) ด้านล่างสีดำ และท่อไอเสียคู่แยกซ้าย/ขวา ล้อแมกรุ่น ดีทรอยท์ (DETROIT) ขนาด 7.5x18 นิ้ว ที่เปลี่ยนหนุ่มเยอรมันให้ดูแกร่ง สไตล์อเมริกันได้อย่างชัดเจน ภายใน ถ่ายทอดอารมณ์สปอร์ท การตกแต่งภายในของ จีทีไอ ใหม่ เริ่มจากหัวเกียร์ DSG หุ้มก้านด้วยหนังแท้เดินด้ายสีแดง เน้นความสปอร์ท เช่นเดียวกับพวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน มีสวิทช์ควบคุมการทำงานเครื่อง เสียง โทรศัพท์มือถือ และแป้นเปลี่ยนเกียร์ (PADDLES SHIFT) ติดตัวอักษร gti มา พร้อมกับเบาะหนังแท้แบบสปอร์ท (น่าจะใช้ด้ายแดงเย็บเหมือนพวงมาลัยและหัวเกียร์) แป้นคันเร่ง และเบรคสเตนเลสส์ติดแถบกันการลื่นไถล นอกจากการตกแต่งในแบบสปอร์ท โฟล์ค ฯ ติดไมค์ไว้ด้านล่าง เพื่อดึงเสียงเครื่องและท่อไอเสีย เข้ามาเปิดผ่านเครื่องเสียงเพื่อเร้าอารมณ์สปอร์ทภายในห้องโดยสารมากขึ้น ปลอดภัยสูงสุด ด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง รอบคัน และเพิ่มถุงลมนิรภัยกันเข่าอีก 1 ตำแหน่ง ห้องผู้โดยสารออกแบบมาสำหรับ 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์ ต้นแรง ปลายเหลือๆ จีทีไอ ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 TSI 210 แรงม้า มากกว่ารุ่นเดิม 10 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 28.6 กก.-ม. ที่ 1700 5200 รตน. ถ่ายทอดพลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ คลัทช์คู่ 6 จังหวะ (DSG) ซึ่งผู้ผลิตแจ้งว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 238 กม./ชม. และมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 7.4 ลิตร/100 กม. หรือ 13.5 กม./ลิตร ช่วงออกตัว กดเบาๆ อาจจะมีความรู้สึกว่ามันไม่อยากไป หรือหนืดๆ แต่พอกดคันเร่งลึกอีกนิด รถจะกระโจนออกไปจนหลังติดเบาะเลยทีเดียว เผลอหน่อยเดียวความเร็วบนหน้าปัดทะลุไปถึง 230 กม./ชม. เมื่อเริ่มคุ้นเคย คุมจังหวะกดคันเร่งได้ จีทีไอ เป็นรถขับสนุกจริงๆ ในการขับนั้นยังมีโหมดเกียร์ให้เลือกเล่นด้วย ทั้งเกียร์ที่สามารถปรับ (บวก/ลบ) ได้จากหลังพวงมาลัยและคันเกียร์ และยังสามารถปรับไปที่ตัว S ซึ่งเป็นโหมดสปอร์ท ลากรอบเครื่องให้สูงขึ้น ซึ่งลากไปถึงเกือบ 7,000 รอบ และทุกครั้งที่มีการลากรอบ และเปลี่ยนเกียร์ เสียงเครื่องมันจะคำรามเข้ามาภายในห้องโดยสาร สร้างความเร้าใจให้กับผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในช่วงชิพอัพ หรือชิพดาวน์ของเกียร์ ระบบรองรับ กระชับ แบบรถสปอร์ท ระบบเบรคนั้นแม้จะควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ก็ยังให้ความรู้สึกที่เอาอยู่ มั่นใจได้ ถึงจะขับด้วย ความเร็วสูง ส่วนช่วงที่ขับในเมือง ใช้ความเร็วต่ำนั้น อาจมีหัวทิ่มกันบ้าง ในระยะแรกเพราะ เบรคค่อนข้างตื้น ช่วงล่างสามารถปรับได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ โดยไม่เกี่ยวข้องกับความสูงต่ำของตัวรถเลย ไม่ว่า จะปรับไปในโหมดไหนก็ตาม ซึ่งระบบนี้เรียกว่า ระบบควบคุมการปรับช่วงล่างอัตโนมัติ (DCC: Dynamic Chassis Control) เลือกโพรแกรมปรับการควบคุม ได้ตามความต้องการ ทั้งโหมดปกติ สปอร์ท (Sport) และนุ่มนวล (Comfort) โฟล์ค ฯ ยังติดตั้งระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ขณะเข้าโค้ง เอกซ์ดีเอส (XDS) มาให้ด้วย โดยพัฒนาและเสริมต่อจากระบบป้องกันการลื่นไถล ทำให้รู้สึกมั่นใจมากในขณะเข้าโค้ง สรุป รถบ้านที่กว่ารถสปอร์ท จีทีไอ สมกับเป็นรถ 5 ประตู ที่ได้ชื่อว่า "ฮอทแฮทช์" ถึงแม้ กอล์ฟ จะถูกมองว่าเป็นรถบ้าน แต่เมื่อเติมเขี้ยวเล็บเข้าไป ก็ดูเท่ และแตกต่าง จนผู้พบเห็นจะต้องมองตาม ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความแรงของเครื่องยนต์เทอร์โบ 210 แรงม้าอยู่ภายใน แถมด้วยราคาจำหน่าย 2,480,000 บาท ที่ต่ำกว่าคู่แข่งทั้ง เอาดี เอ 3 1.8 เทอร์โบ บีเอมดับเบิลยู 320 ไอ และ มีนี คูเพอร์ เอส ทำให้น่ารักน่าลุ้นยิ่งขึ้น ข้อมูลจำเพาะ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ จีทีไอ ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด โทร. 0-2219-1919 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,213/1,779/1,469 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,533/ 1,514 ฐานล้อ (มม.) 2,578 น้ำหนักรถ (กก.) 1,318 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 55 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูเลอร์ ความจุ (ซีซี) 1,984 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 82.5/92.8 อัตราส่วนกำลังอัด 9.6:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 210/5,300 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 28.6/1,700-5,200 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิคแบบฉีดตรง ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 6 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง มัลทิลิงค์บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส และ อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 2,480,000
ภายนอก แต่งเต็ม สไตล์อเมริกัน
กระจังหน้าแบบรังผึ้งสีดำ พร้อมแถบสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ GTI ไฟคู่หน้าเฉียบคมดุดัน กันชนหน้าติดตั้งไฟตัดหมอกด้านหน้าดีไซจ์นเท่ สปอยเลอร์หลังคาทรงสปอร์ทขนาดใหญ่ กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ พร้อมแผงรีดลม (Diffuser) ด้านล่างสีดำ และท่อไอเสียคู่แยกซ้าย/ขวา
ล้อแมกรุ่น ดีทรอยท์ (DETROIT) ขนาด 7.5x18 นิ้ว ที่เปลี่ยนหนุ่มเยอรมันให้ดูแกร่ง
สไตล์อเมริกันได้อย่างชัดเจน
ภายใน ถ่ายทอดอารมณ์สปอร์ท
การตกแต่งภายในของ จีทีไอ ใหม่ เริ่มจากหัวเกียร์ DSG หุ้มก้านด้วยหนังแท้เดินด้ายสีแดงเน้นความสปอร์ท เช่นเดียวกับพวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน มีสวิทช์ควบคุมการทำงานเครื่องเสียง โทรศัพท์มือถือ และแป้นเปลี่ยนเกียร์ (PADDLES SHIFT) ติดตัวอักษร gti มาพร้อมกับเบาะหนังแท้แบบสปอร์ท (น่าจะใช้ด้ายแดงเย็บเหมือนพวงมาลัยและหัวเกียร์) แป้นคันเร่ง และเบรคสเตนเลสส์ติดแถบกันการลื่นไถล
นอกจากการตกแต่งในแบบสปอร์ท โฟล์ค ฯ ติดไมค์ไว้ด้านล่าง เพื่อดึงเสียงเครื่องและท่อไอเสียเข้ามาเปิดผ่านเครื่องเสียงเพื่อเร้าอารมณ์สปอร์ทภายในห้องโดยสารมากขึ้น
ปลอดภัยสูงสุด ด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง รอบคัน และเพิ่มถุงลมนิรภัยกันเข่าอีก 1 ตำแหน่งห้องผู้โดยสารออกแบบมาสำหรับ 5 ที่นั่ง
เครื่องยนต์ ต้นแรง ปลายเหลือๆ
จีทีไอ ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 TSI 210 แรงม้า มากกว่ารุ่นเดิม 10 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 28.6 กก.-ม. ที่ 1700 5200 รตน. ถ่ายทอดพลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ คลัทช์คู่ 6 จังหวะ (DSG) ซึ่งผู้ผลิตแจ้งว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 238 กม./ชม. และมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 7.4 ลิตร/100 กม. หรือ 13.5 กม./ลิตร
ช่วงออกตัว กดเบาๆ อาจจะมีความรู้สึกว่ามันไม่อยากไป หรือหนืดๆ แต่พอกดคันเร่งลึกอีกนิดรถจะกระโจนออกไปจนหลังติดเบาะเลยทีเดียว เผลอหน่อยเดียวความเร็วบนหน้าปัดทะลุไปถึง 230 กม./ชม. เมื่อเริ่มคุ้นเคย คุมจังหวะกดคันเร่งได้ จีทีไอ เป็นรถขับสนุกจริงๆ
ในการขับนั้นยังมีโหมดเกียร์ให้เลือกเล่นด้วย ทั้งเกียร์ที่สามารถปรับ (บวก/ลบ) ได้จากหลังพวงมาลัยและคันเกียร์ และยังสามารถปรับไปที่ตัว S ซึ่งเป็นโหมดสปอร์ท ลากรอบเครื่องให้สูงขึ้น ซึ่งลากไปถึงเกือบ 7,000 รอบ และทุกครั้งที่มีการลากรอบ และเปลี่ยนเกียร์ เสียงเครื่องมันจะคำรามเข้ามาภายในห้องโดยสาร สร้างความเร้าใจให้กับผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในช่วงชิพอัพ หรือชิพดาวน์ของเกียร์
ระบบรองรับ กระชับ แบบรถสปอร์ท
ระบบเบรคนั้นแม้จะควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ก็ยังให้ความรู้สึกที่เอาอยู่ มั่นใจได้ ถึงจะขับด้วยความเร็วสูง ส่วนช่วงที่ขับในเมือง ใช้ความเร็วต่ำนั้น อาจมีหัวทิ่มกันบ้าง ในระยะแรกเพราะเบรคค่อนข้างตื้น
ช่วงล่างสามารถปรับได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ โดยไม่เกี่ยวข้องกับความสูงต่ำของตัวรถเลย ไม่ว่าจะปรับไปในโหมดไหนก็ตาม ซึ่งระบบนี้เรียกว่า ระบบควบคุมการปรับช่วงล่างอัตโนมัติ (DCC: Dynamic Chassis Control) เลือกโพรแกรมปรับการควบคุม ได้ตามความต้องการทั้งโหมดปกติ สปอร์ท (Sport) และนุ่มนวล (Comfort)
โฟล์ค ฯ ยังติดตั้งระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ขณะเข้าโค้ง เอกซ์ดีเอส (XDS) มาให้ด้วยโดยพัฒนาและเสริมต่อจากระบบป้องกันการลื่นไถล ทำให้รู้สึกมั่นใจมากในขณะเข้าโค้ง
สรุป รถบ้านที่กว่ารถสปอร์ท
จีทีไอ สมกับเป็นรถ 5 ประตู ที่ได้ชื่อว่า "ฮอทแฮทช์" ถึงแม้ กอล์ฟ จะถูกมองว่าเป็นรถบ้าน แต่เมื่อเติมเขี้ยวเล็บเข้าไป ก็ดูเท่ และแตกต่าง จนผู้พบเห็นจะต้องมองตาม ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความแรงของเครื่องยนต์เทอร์โบ 210 แรงม้าอยู่ภายใน แถมด้วยราคาจำหน่าย 2,480,000 บาท ที่ต่ำกว่าคู่แข่งทั้ง เอาดี เอ 3 1.8 เทอร์โบ บีเอมดับเบิลยู 320 ไอ และ มีนี คูเพอร์ เอส ทำให้น่ารักน่าลุ้นยิ่งขึ้น