ทดลองขับ(formula)
มาซดา 2
มาซดา 2 (MAZDA2) รถเล็ก 5 ประตู น้องใหม่ ที่ร้อนแรง ตั้งแต่เปิดตัว ด้วยพรีเซนเตอร์ หนุ่มมาดเท่ "เป้" อารักษ์ และราคาโดนใจ เริ่มต้นที่ 534,000 บาท "ฟอร์มูลา" ได้ร่วมกิจกรรมทดลองขับ มาซดา 2 ที่จัดโดย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งในตัวเมืองเชียงใหม่ และเส้นทางคดโค้งที่วนอุทยานน้ำตกบัวตอง และน้ำพุเจ็ดสี ในอำเภอแม่แตง เพื่อสัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่แบบ "ซูม-ซูม"มาซดา 2 (MAZDA2) รถเล็ก 5 ประตู น้องใหม่ ที่ร้อนแรง ตั้งแต่เปิดตัว ด้วยพรีเซนเตอร์ หนุ่มมาดเท่ "เป้" อารักษ์ และราคาโดนใจ เริ่มต้นที่ 534,000 บาท "ฟอร์มูลา" ได้ร่วมกิจกรรมทดลองขับ มาซดา 2 ที่จัดโดย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งในตัวเมืองเชียงใหม่ และเส้นทางคดโค้งที่วนอุทยานน้ำตกบัวตอง และน้ำพุเจ็ดสี ในอำเภอแม่แตง เพื่อสัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่แบบ "ซูม-ซูม" ภายนอก หน้าคมเข้ม/หลังเรียบง่าย ครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้าเล็กพริกขี้หนู ของ มาซดา ก็ยอมรับว่า ทีมออกแบบมีฝีมือ เปลียนรถเล็ก รูปทรงลู่ลมคันเดิม ที่ดูเรียบง่าย ให้กลายเป็นแฮทช์แบค มาดเข้ม ซึ่งไม่เพียงถ่ายทอดบุคลิก สปอร์ทจาก มาซดา 3 และ เอมเอกซ์-5 ได้เท่านั้น แต่เพิ่มความดุดัน ขณะที่ส่วนท้ายยังคง เรียบง่าย เน้นการใช้งานสไตล์เดียวกับ โตโยตา ยารีส และ เปอโฌต์ 207 มาสด้า ฯ จัดรถมาให้ลองขับทั้ง 3 รุ่น โดยรุ่นประหยัด หรือ กรูฟ (GROOVE) ที่ใช้กระจัง หน้าชิ้นเดียวติดกับกันชน กระทะล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ และยาง 185/55 R15 รุ่น สปีริท (SPIRIT) และรุ่นทอพ หรือ แมกซ์ซ์ (MAXX) ที่ใช้กระจังหน้าแบบแยกชิ้นสีดำ กันชนหน้าแบบสปอร์ทมีไฟตัดหมอก ตัดขอบด้วยเส้นสายสีเงิน พร้อมสเกิร์ทข้าง และ สปอยเลอร์ด้านท้ายที่ดูครบเครื่อง ต่างกันที่ล้อแมก 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว ภายใน โทนสีดำ เน้นความสปอร์ท ภายในให้ความรู้สึกสปอร์ท ตั้งแต่คอนโซลหน้าสีดำรูปทรงกระชับ มาตรวัดทรงกลมสีขาว และพวงมาลัย 3 ก้าน เบาะนั่งบุผ้าโทนสีดำตัดด้วยลายเส้นในเนื้อผ้า และหลังคาต่ำตาม รูปทรงตัวรถ คันเกียร์อยู่ติดกับคอนโซลหน้าคล้ายกับ เอมพีวี ขนาดเล็ก ดูแปลกตา ต่างไปจากคู่แข่ง ซึ่งติดตั้งไว้บนคอนโซลกลาง การใช้งานปุ่มควบคุมต่างๆ ง่าย เพราะทั้งหมดจัดวางไว้ตรงกลางคอนโซลหน้า และ สามารถควบคุมระบบเสียงที่พวงมาลัย ยกเว้น ในรุ่นประหยัด ส่วนประโยชน์ใช้สอยแม้ว่า มาสด้า ฯ จะไม่เน้นเท่ากับความสปอร์ท เบาะหลังออกแบบ ตามหลักสรีระนั่งสบายตลอดการเดินทาง (ปรับเอนไม่ได้) และสามารถพับแยก 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระอย่างกระเป๋าเดินทางได้อย่างสบาย พร้อมปุ่มเปิดฝาท้ายด้วย ไฟฟ้า และสมาร์ทคีย์ ที่เพิ่มความสะดวกในการเปิดประตู/สตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้อง เสียบกุญแจ ในรุ่นทอพ เครื่องยนต์ ไม่จัดจ้าน แต่พอตัว เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ตระกูล MZR ขนาด 1.5 ลิตร 103 แรงม้า ของ มาซดา 2 ทำให้เรารู้สึกสนุกกับการขับพอควร แม้จะไม่จัดจ้าน "ฟอร์มูลา" ได้ทดลองขับ มาซดา 2 ทั้งในรุ่นประหยัด ที่ใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และรุ่น ทอพ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา การลากรอบที่ความเร็วรอบตั้งแต่ 3,000 รตน. ไปจนถึง 6,000 รตน. ที่เครื่องยนต์ให้กำลังม้า และแรงบิดสูง ทำได้ง่าย เร็วทันใจ ด้วยระบบวาล์วแปรผัน ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ แทบจะทุกครั้งที่กดคันเร่งลงไป เกียร์จะปรับเปลี่ยนไปสู่จังหวะต่ำลง เพื่อเรียกกำลังจากรอบสูง ซึ่งเป็นผลจากขนาดเครื่องยนต์ที่เล็ก ระบบรองรับ เกาะถนน ควบคุมง่าย นอกจากรูปทรงและน้ำหนักที่น้อยกว่าคู่แข่ง การเซทช่วงล่างที่เน้นความแน่นหนึบ ตาม สไตล์ มาซดา ช่วยให้นุ่มสบาย และเกาะถนน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเลือกใช้ยาง ดันลอพ สปอร์ท ที่นอกจาก นุ่ม เงียบ ยังยึดเกาะผิวถนนได้ดี พวงมาลัยไฟฟ้าของ มาซดา 2 มีน้ำหนักกำลังพอดี ไม่หนัก หรือเบาจนเกินไป ควบคุม ได้ง่ายเวลาขับในเมือง และให้ความรู้สึกมั่นคง เมื่อขับด้วยความเร็วสูง ระบบเบรคตอบสนองเร็ว ออกแรงกดน้อย โดยทุกรุ่นติดตั้งจานเบรคหน้าขนาดใหญ่ พร้อมด้วยระบบเบรค เอบีเอส และระบบกระจายแรงเบรค ช่วยให้ประสิทธิภาพในการ หยุดรถดี และหยุดได้อย่างมั่นใจ สรุป สวยเท่ เด่นที่หน้าตา มาซดา 2 มีดีที่หน้าตา และรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวตรงใจวัยรุ่น ห้องโดยสารสไตล์สปอร์ท สะท้อนบุคลิก ซูม ซูม ได้มากกว่ารุ่นพี่ ผสานกับช่วงล่างนุ่มหนึบ ให้ความมั่นคงเมื่อใช้ ความเร็วสูง ที่สำคัญราคาไม่แรงเกินไป ข้อมูลจำเพาะ มาซดา 2 สปอร์ท แมกซ์ซ์ ผู้จัดจำหน่าย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2661-9880 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,913/1,695/1,478 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,465/1,455 ฐานล้อ (มม.) 2,490 น้ำหนักรถ (กก.) 1,060 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 43 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบแถวเรียว DOHC 16 วาล์ว S-VT ความจุ (ซีซี) 1,498 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 78.0/78.4 อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 135/6,000 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 13.8/4,000 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิคมัลทิพอยท์ ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 4 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง กึ่งอิสระ ทอร์ชันบีม พร้อมทเรลิงอาร์ม ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี บีเอ หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) 690,000
ภายนอก หน้าคมเข้ม/หลังเรียบง่าย
ครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้าเล็กพริกขี้หนู ของ มาซดา ก็ยอมรับว่า ทีมออกแบบมีฝีมือ เปลียนรถเล็กรูปทรงลู่ลมคันเดิม ที่ดูเรียบง่าย ให้กลายเป็นแฮทช์แบค มาดเข้ม ซึ่งไม่เพียงถ่ายทอดบุคลิกสปอร์ทจาก มาซดา 3 และ เอมเอกซ์-5 ได้เท่านั้น แต่เพิ่มความดุดัน ขณะที่ส่วนท้ายยังคงเรียบง่าย เน้นการใช้งานสไตล์เดียวกับ โตโยตา ยารีส และ เปอโฌต์ 207
มาสด้า ฯ จัดรถมาให้ลองขับทั้ง 3 รุ่น โดยรุ่นประหยัด หรือ กรูฟ (GROOVE) ที่ใช้กระจังหน้าชิ้นเดียวติดกับกันชน กระทะล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ และยาง 185/55 R15 รุ่น สปีริท (SPIRIT) และรุ่นทอพ หรือ แมกซ์ซ์ (MAXX) ที่ใช้กระจังหน้าแบบแยกชิ้นสีดำกันชนหน้าแบบสปอร์ทมีไฟตัดหมอก ตัดขอบด้วยเส้นสายสีเงิน พร้อมสเกิร์ทข้าง และสปอยเลอร์ด้านท้ายที่ดูครบเครื่อง ต่างกันที่ล้อแมก 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว
ภายใน โทนสีดำ เน้นความสปอร์ท
ภายในให้ความรู้สึกสปอร์ท ตั้งแต่คอนโซลหน้าสีดำรูปทรงกระชับ มาตรวัดทรงกลมสีขาว
และพวงมาลัย 3 ก้าน เบาะนั่งบุผ้าโทนสีดำตัดด้วยลายเส้นในเนื้อผ้า และหลังคาต่ำตาม
รูปทรงตัวรถ
คันเกียร์อยู่ติดกับคอนโซลหน้าคล้ายกับ เอมพีวี ขนาดเล็ก ดูแปลกตา ต่างไปจากคู่แข่ง
ซึ่งติดตั้งไว้บนคอนโซลกลาง
การใช้งานปุ่มควบคุมต่างๆ ง่าย เพราะทั้งหมดจัดวางไว้ตรงกลางคอนโซลหน้า และ
สามารถควบคุมระบบเสียงที่พวงมาลัย ยกเว้น ในรุ่นประหยัด
ส่วนประโยชน์ใช้สอยแม้ว่า มาสด้า ฯ จะไม่เน้นเท่ากับความสปอร์ท เบาะหลังออกแบบ
ตามหลักสรีระนั่งสบายตลอดการเดินทาง (ปรับเอนไม่ได้) และสามารถพับแยก 60:40
เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระอย่างกระเป๋าเดินทางได้อย่างสบาย พร้อมปุ่มเปิดฝาท้ายด้วย
ไฟฟ้า และสมาร์ทคีย์ ที่เพิ่มความสะดวกในการเปิดประตู/สตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้อง
เสียบกุญแจ ในรุ่นทอพ
เครื่องยนต์ ไม่จัดจ้าน แต่พอตัว
เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ตระกูล MZR ขนาด 1.5 ลิตร 103 แรงม้าของ มาซดา 2 ทำให้เรารู้สึกสนุกกับการขับพอควร แม้จะไม่จัดจ้าน
"ฟอร์มูลา" ได้ทดลองขับ มาซดา 2 ทั้งในรุ่นประหยัด ที่ใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และรุ่นทอพ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ในรุ่นเกียร์ธรรมดา การลากรอบที่ความเร็วรอบตั้งแต่ 3,000 รตน. ไปจนถึง 6,000 รตน.ที่เครื่องยนต์ให้กำลังม้า และแรงบิดสูง ทำได้ง่าย เร็วทันใจ ด้วยระบบวาล์วแปรผัน
ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ แทบจะทุกครั้งที่กดคันเร่งลงไป เกียร์จะปรับเปลี่ยนไปสู่จังหวะต่ำลงเพื่อเรียกกำลังจากรอบสูง ซึ่งเป็นผลจากขนาดเครื่องยนต์ที่เล็ก
ระบบรองรับ เกาะถนน ควบคุมง่าย
นอกจากรูปทรงและน้ำหนักที่น้อยกว่าคู่แข่ง การเซทช่วงล่างที่เน้นความแน่นหนึบ ตามสไตล์ มาซดา ช่วยให้นุ่มสบาย และเกาะถนน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเลือกใช้ยางดันลอพ สปอร์ท ที่นอกจาก นุ่ม เงียบ ยังยึดเกาะผิวถนนได้ดี
พวงมาลัยไฟฟ้าของ มาซดา 2 มีน้ำหนักกำลังพอดี ไม่หนัก หรือเบาจนเกินไป ควบคุมได้ง่ายเวลาขับในเมือง และให้ความรู้สึกมั่นคง เมื่อขับด้วยความเร็วสูง
ระบบเบรคตอบสนองเร็ว ออกแรงกดน้อย โดยทุกรุ่นติดตั้งจานเบรคหน้าขนาดใหญ่พร้อมด้วยระบบเบรค เอบีเอส และระบบกระจายแรงเบรค ช่วยให้ประสิทธิภาพในการหยุดรถดี และหยุดได้อย่างมั่นใจ
สรุป สวยเท่ เด่นที่หน้าตา
มาซดา 2 มีดีที่หน้าตา และรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวตรงใจวัยรุ่น ห้องโดยสารสไตล์สปอร์ทสะท้อนบุคลิก ซูม ซูม ได้มากกว่ารุ่นพี่ ผสานกับช่วงล่างนุ่มหนึบ ให้ความมั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูง ที่สำคัญราคาไม่แรงเกินไป