ทดลองขับ(formula)
เบนท์ลีย์ มุลซานน์
มุลซานน์ (MULSANNE) ซีดานระดับสุดหรู (แรง) รุ่นแรกของ เบนท์ลีย์ นับตั้งแต่แยกตัวจาก โรลล์ส-รอยศ์ มาอยู่ภายใต้บแรนด์ใหญ่ โฟล์คสวาเกนมุลซานน์ (MULSANNE) ซีดานระดับสุดหรู (แรง) รุ่นแรกของ เบนท์ลีย์ นับตั้งแต่แยกตัวจาก โรลล์ส-รอยศ์ มาอยู่ภายใต้บแรนด์ใหญ่ โฟล์คสวาเกน ภายนอก เส้นสายหรูหรา ภูมิฐาน มุลซานน์ ถอดแบบมาจาก อาร์นาจ (ARNAGE) แนวสันด้านหน้า ไล่เลียงตามซุ้มล้อ ตัดผ่านประตูทั้ง 2 บาน ก่อนที่จะยกตัวโค้งเล็กน้อย เหนือซุ้มล้อหลัง และบรรจบกับมุมของไฟท้ายพอดี เน้นความยาวของตัวรถ ที่ขาดไม่ได้ คือ กระจังหน้า 4 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ประกบกับตาข่ายลายตาราง และไฟหน้าทรงกลม 4 ดวง ทันสมัยด้วยการจัดวางหลอด แอลอีดี ส่วนไฟท้ายมีรูปทรงที่อนุรักษนิยม ล้อแมก ขนาด 20 นิ้ว ภายใน งานฝีมือเนี้ยบทุกจุด ห้องผู้โดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เลือกใช้วัสดุคุณภาพ ทั้งลายไม้วอลนัทและหนังแท้ที่หุ้มเบาะ โดยเย็บตะเข็บคู่ ตัวเบาะออกแบบรับกับสรีระคล้ายรถสปอร์ท บริเวณคอนโซลกลาง และพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน คอนโซลหน้าเป็นลายไม้วอลนัทเชื่อมต่อกันรอบคัน ทั้งบริเวณแผงประตูจนถึงด้านหลังของผู้โดยสารตอนหลัง เบาะนั่งด้านหลังออกแบบเพื่อความสบายสูงสุด ตรงกลางมีพนักแขนพร้อมปุ่มควบคุมอุปกรณ์ทั้งระบบปรับอากาศ และอุปกรณ์เพื่อ ความบันเทิง นอกจากนี้ยังสามารถพับเก็บได้ ส่วนช่องระบายอากาศสามารถทำความเย็นได้อย่างทั่วถึง ด้วยระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน เครื่องเสียงคุณภาพดีระดับไฮเอนด์ มาพร้อมกับลำโพง 14 ตัว 6 แชนเนล แบบดิจิทอล รองรับเครื่องเล่น ไอพอด ไอโฟน และเล่นไฟล์ เอมพี 3 และยังสามารถควบคุมข้อมูลผ่านจอมอนิเตอร์ ขนาด 8 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์มีให้มาอย่างครบครัน ทั้งฮาร์ดดิสค์ที่มีความจุกว่า 60 GB และช่องใส่คาร์ด หน่วยความจำแบบ SD ถึง 2 ชุต และช่องเสียบ SIM โทรศัพท์ ได้อีกด้วย เครื่องยนต์ เทอร์โบคู่ เดือดเต็มพิกัด เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 6.8 ลิตร วี 8 เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 505 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 104.0 กก.-ม. ที่ 1,750 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF มี 4 โหมดขับเคลื่อน คือ เบนท์ลีย์ สปอร์ท และ คอมฟอร์ท โหมดสุดท้าย คือ คัสตอม ให้ผู้ขับปรับแต่งคุณลักษณะการขับเคลื่อนตามใจชอบ เรื่องกำลังเครื่องยนต์นั้น แรงหายห่วง โหมดไหนๆ ก็พาเราหลังติดเบาะได้ ถ้ากดคันเร่งเต็มที่ ยิ่งถ้าเป็นโหมด เบนท์ลีย์ ก็จะพบคำตอบว่ามันต่างจาก โรลล์ส-รอยศ์ มาก ซึ่งผู้ผลิตแจ้งว่า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 296 กม./ชม. นอกจากนี้ เบนท์ลีย์ ได้นำระบบ CAM PHASING และ VARIABLE DISPLACEMENT มาใช้ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเพียง 4 สูบ ในขณะที่เคลื่อนที่ช้าๆ และบรรทุกน้ำหนักไม่มาก และจะกลับเป็น 8 สูบ เมื่อเหยียบคันเร่งทำให้การบริโภคน้ำมันประหยัดขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลง ระบบรองรับ เลือกได้ตามต้องการ ช่วงล่างปรับเลือกได้ถึง 4 โหมด ด้วยปุ่มปรับเลือกโหมดที่คอนโซลเกียร์ ซึ่งจะควบคุมทั้งระบบช่วงล่าง ถุงลม พวงมาลัย และการเปลี่ยนเกียร์ โดย โหมด คอมฟอร์ท ที่ให้ความนุ่มนวลสะดวกสบายในการเดินทาง โหมด สปอร์ท ที่เน้นการขับขี่แบบสปอร์ท เพื่อเรียกความแรงจากเครื่องยนต์ แถมด้วยช่วงล่างที่ปรับให้หนึบขึ้น โหมด เบนท์ลีย์ ถูกตั้งค่า ไว้ระหว่าง คอมฟอร์ท กับ สปอร์ท ให้ขับขี่แบบสปอร์ท ผสานด้วยความนุ่มนวลในแบบกลางๆ และโหมด คัสตอม ที่สามารถเลือกปรับแต่งได้ตามความต้องการ พร้อมแสดงผลการทำงานที่หน้าจอคอนโซลกลาง สรุป หรูหรา แรงสะใจ ทดลองขับในโหมดต่างๆ เรียกได้ว่าตอบสนองความต้องการได้ทุกรูปแบบการขับขี่ จากเครื่องยนต์ที่มีแรง บิดมหาศาลกว่า 104.0 กก.-ม. ที่สามารถเรียกกำลังมาใช้งานได้ทันที ถึงแม้เจ้า มุลซานน์ จะมีตัวถังขนาดใหญ่ และน้ำหนักกว่า 3 ตัน ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการขับขี่ รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนเองตามสไตล์การขับขี่ได้ในโหมด คัสตอม นอกจากความสะดวกสบายในการขับขี่แล้ว อุปกรณ์ออพชัน และการตกแต่งภายในยังหรูหรา ประณีต ด้วยวัสดุชั้นดี ตามแบบฉบับ เบนท์ลีย์ ข้อมูลจำเพาะ เบนท์ลีย์ มุลซานน์ ผู้แทนจำหน่าย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 0-2522-6655 ต่อ 448 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 5,575/1,926/1,521 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,615/1,652 ฐานล้อ (มม.) 3,266 น้ำหนัก (กก.) 2,585 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 108 เครื่องยนต์ แบบ เบนซิน วี 8 สูบ เทอร์โบคู่ ความจุ (ซีซี) 6,750 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 104.1x99.1 อัตราส่วนกำลังอัด 7.8:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 505/4,200 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 104.0/1,750 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีด EFI ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 8 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง ระบบรองรับ หน้า ปีกนกคู่ ถุงลม หลัง มิลทิลิงค์ ถุงลม ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี อีเอสซี หน้า จาน พร้อมช่องระบายอากาศ หลัง จาน พร้อมช่องระบายอากาศ ราคา (บาท) 33,000,000
ภายนอก เส้นสายหรูหรา ภูมิฐาน
มุลซานน์ ถอดแบบมาจาก อาร์นาจ (ARNAGE) แนวสันด้านหน้า ไล่เลียงตามซุ้มล้อ ตัดผ่านประตูทั้ง 2 บาน ก่อนที่จะยกตัวโค้งเล็กน้อย เหนือซุ้มล้อหลัง และบรรจบกับมุมของไฟท้ายพอดี เน้นความยาวของตัวรถ ที่ขาดไม่ได้ คือ กระจังหน้า 4 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ประกบกับตาข่ายลายตาราง และไฟหน้าทรงกลม 4 ดวง ทันสมัยด้วยการจัดวางหลอด แอลอีดี ส่วนไฟท้ายมีรูปทรงที่อนุรักษนิยม ล้อแมก ขนาด 20 นิ้ว
ภายใน งานฝีมือเนี้ยบทุกจุด
ห้องผู้โดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เลือกใช้วัสดุคุณภาพ ทั้งลายไม้วอลนัทและหนังแท้ที่หุ้มเบาะ โดยเย็บตะเข็บคู่ ตัวเบาะออกแบบรับกับสรีระคล้ายรถสปอร์ท บริเวณคอนโซลกลาง และพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน คอนโซลหน้าเป็นลายไม้วอลนัทเชื่อมต่อกันรอบคัน ทั้งบริเวณแผงประตูจนถึงด้านหลังของผู้โดยสารตอนหลัง เบาะนั่งด้านหลังออกแบบเพื่อความสบายสูงสุด ตรงกลางมีพนักแขนพร้อมปุ่มควบคุมอุปกรณ์ทั้งระบบปรับอากาศ และอุปกรณ์เพื่อ ความบันเทิง นอกจากนี้ยังสามารถพับเก็บได้ ส่วนช่องระบายอากาศสามารถทำความเย็นได้อย่างทั่วถึง ด้วยระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน
เครื่องเสียงคุณภาพดีระดับไฮเอนด์ มาพร้อมกับลำโพง 14 ตัว 6 แชนเนล แบบดิจิทอล รองรับเครื่องเล่น ไอพอด ไอโฟน และเล่นไฟล์ เอมพี 3 และยังสามารถควบคุมข้อมูลผ่านจอมอนิเตอร์ ขนาด 8 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์มีให้มาอย่างครบครัน ทั้งฮาร์ดดิสค์ที่มีความจุกว่า 60 GB และช่องใส่คาร์ด หน่วยความจำแบบ SD ถึง 2 ชุต และช่องเสียบ SIM โทรศัพท์ ได้อีกด้วย
เครื่องยนต์ เทอร์โบคู่ เดือดเต็มพิกัด
เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 6.8 ลิตร วี 8 เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 505 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 104.0 กก.-ม. ที่ 1,750 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF มี 4 โหมดขับเคลื่อน คือ เบนท์ลีย์ สปอร์ท และ คอมฟอร์ท โหมดสุดท้าย คือ คัสตอม ให้ผู้ขับปรับแต่งคุณลักษณะการขับเคลื่อนตามใจชอบ
เรื่องกำลังเครื่องยนต์นั้น แรงหายห่วง โหมดไหนๆ ก็พาเราหลังติดเบาะได้ ถ้ากดคันเร่งเต็มที่ ยิ่งถ้าเป็นโหมด เบนท์ลีย์ ก็จะพบคำตอบว่ามันต่างจาก โรลล์ส-รอยศ์ มาก ซึ่งผู้ผลิตแจ้งว่า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 296 กม./ชม.
นอกจากนี้ เบนท์ลีย์ ได้นำระบบ CAM PHASING และ VARIABLE DISPLACEMENT มาใช้ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเพียง 4 สูบ ในขณะที่เคลื่อนที่ช้าๆ และบรรทุกน้ำหนักไม่มาก และจะกลับเป็น 8 สูบ เมื่อเหยียบคันเร่งทำให้การบริโภคน้ำมันประหยัดขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลง
ระบบรองรับ เลือกได้ตามต้องการ
ช่วงล่างปรับเลือกได้ถึง 4 โหมด ด้วยปุ่มปรับเลือกโหมดที่คอนโซลเกียร์ ซึ่งจะควบคุมทั้งระบบช่วงล่าง ถุงลม พวงมาลัย และการเปลี่ยนเกียร์ โดย โหมด คอมฟอร์ท ที่ให้ความนุ่มนวลสะดวกสบายในการเดินทาง โหมด สปอร์ท ที่เน้นการขับขี่แบบสปอร์ท เพื่อเรียกความแรงจากเครื่องยนต์ แถมด้วยช่วงล่างที่ปรับให้หนึบขึ้น โหมด เบนท์ลีย์ ถูกตั้งค่า ไว้ระหว่าง คอมฟอร์ท กับ สปอร์ท ให้ขับขี่แบบสปอร์ท ผสานด้วยความนุ่มนวลในแบบกลางๆ และโหมด คัสตอม ที่สามารถเลือกปรับแต่งได้ตามความต้องการ พร้อมแสดงผลการทำงานที่หน้าจอคอนโซลกลาง
สรุป หรูหรา แรงสะใจ
ทดลองขับในโหมดต่างๆ เรียกได้ว่าตอบสนองความต้องการได้ทุกรูปแบบการขับขี่ จากเครื่องยนต์ที่มีแรง บิดมหาศาลกว่า 104.0 กก.-ม. ที่สามารถเรียกกำลังมาใช้งานได้ทันที ถึงแม้เจ้า มุลซานน์ จะมีตัวถังขนาดใหญ่ และน้ำหนักกว่า 3 ตัน ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการขับขี่ รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนเองตามสไตล์การขับขี่ได้ในโหมด คัสตอม นอกจากความสะดวกสบายในการขับขี่แล้ว อุปกรณ์ออพชัน และการตกแต่งภายในยังหรูหรา ประณีต ด้วยวัสดุชั้นดี ตามแบบฉบับ เบนท์ลีย์