ทดลองขับ(4wheels)
โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี 2WD
โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ เอสยูวีที่เป็นผลผลิตจากโครงการ ไอเอมวี (IMV: INTERNATIONAL MULTI-PURPOSE VIHECLE) แม้ใช้โครงสร้างพื้นฐาน และขุมกำลังร่วมกับกระบะ ไฮลักซ์ วีโก (HILUX VIGO) แต่รูปทรงภายนอกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง รวมไปถึงระบบรองรับ ที่เป็นคอยล์สปริงทั้ง 4 จุด ทำให้เอสยูวีคันนี้มีเอกลักษณ์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี หลังจากทำตลาดมาประมาณ 6 ปี ฟอร์ทูเนอร์ ก็ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็ไม่รอช้า จัดทริพทดลองขับให้เหล่าสื่อมวลชนได้สัมผัสกันเต็มๆ โดยใช้เส้นทางจาก จ. กระบี่ มุ่งหน้าสู่เกาะสมุยโตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ เอสยูวีที่เป็นผลผลิตจากโครงการ ไอเอมวี (IMV: INTERNATIONAL MULTI-PURPOSE VIHECLE) แม้ใช้โครงสร้างพื้นฐาน และขุมกำลังร่วมกับกระบะ ไฮลักซ์ วีโก (HILUX VIGO) แต่รูปทรงภายนอกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง รวมไปถึงระบบรองรับ ที่เป็นคอยล์สปริงทั้ง 4 จุด ทำให้เอสยูวีคันนี้มีเอกลักษณ์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี หลังจากทำตลาดมาประมาณ 6 ปี ฟอร์ทูเนอร์ ก็ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็ไม่รอช้า จัดทริพทดลองขับให้เหล่าสื่อมวลชนได้สัมผัสกันเต็มๆ โดยใช้เส้นทางจาก จ. กระบี่ มุ่งหน้าสู่เกาะสมุย เส้นทางช่วงแรกจากสนามบินกระบี่ ขับไปตามถนนหลวงสายเซาเธิร์น ซีบอร์ด (SOUTHERN SEABOARD) รถที่เราได้ขับ คือ ฟอร์ทูเนอร์ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบแปรผัน 3.0 ลิตร 163 แรงม้า แม้พละกำลังจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ประหยัดเชื้อเพลิง ด้วยการปรับปรุงระบบจ่ายเชื้อเพลิง (DIAMOND TECH) ให้มีความแม่นยำขึ้น ขับมาได้ไม่นานเราก็เจอฝนเทกระหน่ำ พร้อมกับเส้นทางขรุขระ ราวกับจะให้ ลองของ กันตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว จากการขับด้วยความเร็วต่ำผ่านพื้นผิวถนนลักษณะดังกล่าว ทำให้เรารู้สึกได้ว่าช่วงล่างมีความนุ่มนวลมากกว่าเดิม แม้พื้นผิวจะขรุขระ แต่ภายในห้องโดยสารยังรู้สึกนิ่ง นั่งได้สบาย อีกทั้งพละกำลังที่เหลือเฟือ ทำให้ไม่ต้องกดคันเร่งมากนัก ตัวรถก็สามารถแล่นผ่านได้อย่างนุ่มนวล และง่ายดาย ขับกันมาสักระยะฝนก็ซาลง พร้อมกับการเข้าสู่เส้นทางราบ ได้ทดสอบสมรรถนะขณะเดินทางไกลกันเต็มๆ ฟอร์ทูเนอร์ มีอัตราเร่งที่น่าพอใจ สามารถไต่ความเร็วถึงระดับ 130-140 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ระบบรองรับไม่แสดงอาการโคลงแต่อย่างใด มีการบังคับควบคุมที่ให้ความมั่นใจได้อย่างเหมาะสม นอกจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และช่วงล่างที่น่าพอใจแล้ว พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทั้งสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ทำให้การเดินทางไกลมีความสะดวกสบายเป็นอย่างดีสำหรับเบาะนั่ง 2 แถวแรก อีกทั้งระบบเพื่อความบันเทิงที่ได้รับการเอาใจใส่จากทางผู้ผลิตมากขึ้น ด้วยเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอมอนิเตอร์ระบบสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว (รุ่นทอพ 3.0 วี เนวี จะมีขนาด 6.5 นิ้ว) รองรับการเชื่อมต่อยูเอสบี ควบคุมผ่าน ไอโฟน หรือไอพอดได้ การตกแต่งพวงมาลัยลักษณะเดียวกับเก๋งร่วมค่ายอย่าง แคมรี รวมไปถึงลายไม้ตามจุดต่างๆ เสริมมาดหรูของห้องโดยสาร อย่างไรก็ตาม เบาะแถว 3 มีพื้นที่วางขาค่อนข้างน้อย ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ใช้เวลานานๆ เส้นทางช่วงสุดท้าย หลังจากข้ามฟากสู่เกาะสมุย เราได้ลองขับ ฟอร์ทูเนอร์ ลัดเลาะไปตามเส้นทางหลักของเกาะ เนื่องจากเป็นเวลาตอนเย็น ทำให้การจราจรค่อนข้างหนาแน่นตามชุมชนต่างๆ เสมือนการจำลองการขับขี่ในเมืองใหญ่ แม้น้ำหนักของพวงมาลัยจะค่อนข้างมาก แต่ไม่มีปัญหาสำหรับการขับที่ความเร็วต่ำแต่อย่างใด การเร่งแซงช่วงสั้นๆ ทำได้ทันใจ บางช่วงที่มีการขึ้นเนินเขา ยังคงมีอัตราเร่งที่ดีจากพละกำลังของเครื่องยนต์ แม้กระทั่งขาลง ระบบเบรคที่ได้รับการปรับปรุงมาแล้วด้วยการเพิ่มขนาดของหม้อลม ทำให้การเบรคยังให้ความรู้สึกที่หนึบเอาอยู่ ไม่รู้สึกเครียดเกร็งในขณะที่ขับตามติดๆ กันมาเป็นขบวน มีเพียงระบบรองรับเท่านั้นที่เรารู้สึกว่าแข็งกระด้างเล็กน้อยสำหรับการขับในเมือง สุดท้ายเมื่อถึงจุดหมายที่พัก THE LIBRARY โรงแรมสมัยใหม่ ที่เน้นความเรียบหรูอย่างมีสไตล์ เมื่อเราหันไปพิจารณาเส้นสายที่เปลี่ยนไปของรถคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้ามาดสปอร์ท รวมไปถึงกระจังหน้า และช่องรับอากาศด้านล่างกันชนถูกขยายความกว้าง ช่วยให้ช่วงหน้าของรถดูใหญ่กว่าเดิมตามไปด้วย นอกจากนี้ ชุดไฟท้ายด้านนอกยังเล่นสันเหลี่ยมรับกับรูปทรงของกันชนที่คมเข้ม และล้อแมกลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว ทำให้เอสยูวีคันนี้มีบุคลิกที่หนุ่มแน่น และทันสมัย ผสานความหรูอย่างลงตัว กลมกลืนกับบริเวณสถานที่พักได้เป็นอย่างดี ฟันธง: เอสยูวีที่คงความสมดุลในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังของเครื่องยนต์ที่เหลือเฟือ สะดวกในทางลุย มั่นใจในทางเรียบ ประหยัดด้วยระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่แม่นยำ ช่วงล่างถูกปรับปรุงให้นุ่มนวลกว่าเดิม มีการขับขี่โดยรวมที่สะดวกสบายมากขึ้น บุคลิกหรู และทันสมัย ทั้งภายนอกและภายใน เป็นคุณลักษณะที่ทำให้เอสยูวีรุ่นนี้ ได้รับความนิยมเสมอมา ข้อมูลจำเพาะ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี 2WD ผู้แทนจำหน่าย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โทร. 0-2386-1000 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,705/1,840/1,795 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,540/1,540 ฐานล้อ (มม.) 2,750 น้ำหนัก (กก.) 1,960 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 65 เครื่องยนต์ แบบ ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ DOHC ความจุ (ซีซี) 2,982 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 96.0/103.0 อัตราส่วนกำลังอัด 17.9:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 163/3,400 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 35.0/1,400-3,200 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง คอมมอนเรล ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 4 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง ระบบรองรับ หน้า อิสระ ปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง มัลทิลิงค์ ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส วีเอสซี ทีอาร์ซี หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) 1,319,000
เครื่องยนต์
เส้นทางช่วงแรกจากสนามบินกระบี่ ขับไปตามถนนหลวงสายเซาเธิร์น ซีบอร์ด (SOUTHERN SEABOARD) รถที่เราได้ขับ คือ ฟอร์ทูเนอร์ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบแปรผัน 3.0 ลิตร 163 แรงม้า แม้พละกำลังจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ประหยัดเชื้อเพลิง ด้วยการปรับปรุงระบบจ่ายเชื้อเพลิง (DIAMOND TECH) ให้มีความแม่นยำขึ้น
ขับมาได้ไม่นานเราก็เจอฝนเทกระหน่ำ พร้อมกับเส้นทางขรุขระ ราวกับจะให้ “ลองของ” กันตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว จากการขับด้วยความเร็วต่ำผ่านพื้นผิวถนนลักษณะดังกล่าว ทำให้เรารู้สึกได้ว่าช่วงล่างมีความนุ่มนวลมากกว่าเดิม แม้พื้นผิวจะขรุขระ แต่ภายในห้องโดยสารยังรู้สึกนิ่ง นั่งได้สบาย อีกทั้งพละกำลังที่เหลือเฟือ ทำให้ไม่ต้องกดคันเร่งมากนัก ตัวรถก็สามารถแล่นผ่านได้อย่างนุ่มนวล และง่ายดาย
ขับกันมาสักระยะฝนก็ซาลง พร้อมกับการเข้าสู่เส้นทางราบ ได้ทดสอบสมรรถนะขณะเดินทางไกลกันเต็มๆ ฟอร์ทูเนอร์ มีอัตราเร่งที่น่าพอใจ สามารถไต่ความเร็วถึงระดับ 130-140 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ระบบรองรับไม่แสดงอาการโคลงแต่อย่างใด มีการบังคับควบคุมที่ให้ความมั่นใจได้อย่างเหมาะสม
ภายใน
นอกจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และช่วงล่างที่น่าพอใจแล้ว พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทั้งสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ทำให้การเดินทางไกลมีความสะดวกสบายเป็นอย่างดีสำหรับเบาะนั่ง 2 แถวแรก อีกทั้งระบบเพื่อความบันเทิงที่ได้รับการเอาใจใส่จากทางผู้ผลิตมากขึ้น ด้วยเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอมอนิเตอร์ระบบสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว (รุ่นทอพ 3.0 วี เนวี จะมีขนาด 6.5 นิ้ว) รองรับการเชื่อมต่อยูเอสบี ควบคุมผ่าน ไอโฟน หรือไอพอดได้ การตกแต่งพวงมาลัยลักษณะเดียวกับเก๋งร่วมค่ายอย่าง แคมรี รวมไปถึงลายไม้ตามจุดต่างๆ เสริมมาดหรูของห้องโดยสาร อย่างไรก็ตาม เบาะแถว 3 มีพื้นที่วางขาค่อนข้างน้อย ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ใช้เวลานานๆ
ระบบรองรับ
เส้นทางช่วงสุดท้าย หลังจากข้ามฟากสู่เกาะสมุย เราได้ลองขับ ฟอร์ทูเนอร์ ลัดเลาะไปตามเส้นทางหลักของเกาะ เนื่องจากเป็นเวลาตอนเย็น ทำให้การจราจรค่อนข้างหนาแน่นตามชุมชนต่างๆ เสมือนการจำลองการขับขี่ในเมืองใหญ่ แม้น้ำหนักของพวงมาลัยจะค่อนข้างมาก แต่ไม่มีปัญหาสำหรับการขับที่ความเร็วต่ำแต่อย่างใด การเร่งแซงช่วงสั้นๆ ทำได้ทันใจ บางช่วงที่มีการขึ้นเนินเขา ยังคงมีอัตราเร่งที่ดีจากพละกำลังของเครื่องยนต์ แม้กระทั่งขาลง ระบบเบรคที่ได้รับการปรับปรุงมาแล้วด้วยการเพิ่มขนาดของหม้อลม ทำให้การเบรคยังให้ความรู้สึกที่หนึบเอาอยู่ ไม่รู้สึกเครียดเกร็งในขณะที่ขับตามติดๆ กันมาเป็นขบวน มีเพียงระบบรองรับเท่านั้นที่เรารู้สึกว่าแข็งกระด้างเล็กน้อยสำหรับการขับในเมือง
ภายนอก
สุดท้ายเมื่อถึงจุดหมายที่พัก THE LIBRARY โรงแรมสมัยใหม่ ที่เน้นความเรียบหรูอย่างมีสไตล์ เมื่อเราหันไปพิจารณาเส้นสายที่เปลี่ยนไปของรถคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้ามาดสปอร์ท รวมไปถึงกระจังหน้า และช่องรับอากาศด้านล่างกันชนถูกขยายความกว้าง ช่วยให้ช่วงหน้าของรถดูใหญ่กว่าเดิมตามไปด้วย นอกจากนี้ ชุดไฟท้ายด้านนอกยังเล่นสันเหลี่ยมรับกับรูปทรงของกันชนที่คมเข้ม และล้อแมกลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว ทำให้เอสยูวีคันนี้มีบุคลิกที่หนุ่มแน่น และทันสมัย ผสานความหรูอย่างลงตัว กลมกลืนกับบริเวณสถานที่พักได้เป็นอย่างดี
ฟันธง
เอสยูวีที่คงความสมดุลในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังของเครื่องยนต์ที่เหลือเฟือ สะดวกในทางลุย มั่นใจในทางเรียบ ประหยัดด้วยระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่แม่นยำ ช่วงล่างถูกปรับปรุงให้นุ่มนวลกว่าเดิม มีการขับขี่โดยรวมที่สะดวกสบายมากขึ้น บุคลิกหรู และทันสมัย ทั้งภายนอกและภายใน เป็นคุณลักษณะที่ทำให้เอสยูวีรุ่นนี้ ได้รับความนิยมเสมอมา