ทดลองขับ(formula)
ซูซูกิ สวิฟท์1.2
หลังจาก บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำ ซูซูกิ สวิฟท์ แฮทช์แบค 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร จากประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 23" เมื่อปี 2549 ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยขนาดที่กะทัดรัด และชื่อเสียงจากการแข่งขันแรลลีระดับโลก ในรุ่น จูเนียร์ ทำให้ ซูซูกิ ตัดสินใจสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย และรถรุ่นแรกที่ประกอบที่โรงงานแห่งนี้ คือ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติซีวีที ซึ่งถือว่าเป็นรถแบบอีโคคาร์คันแรกของค่าย ซูซูกิ ออกจำหน่ายหลังจาก บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำ ซูซูกิ สวิฟท์ แฮทช์แบค 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร จากประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 23" เมื่อปี 2549 ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยขนาดที่กะทัดรัด และชื่อเสียงจากการแข่งขันแรลลีระดับโลก ในรุ่น จูเนียร์ ทำให้ ซูซูกิ ตัดสินใจสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย และรถรุ่นแรกที่ประกอบที่โรงงานแห่งนี้ คือ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติซีวีที ซึ่งถือว่าเป็นรถแบบอีโคคาร์คันแรกของค่าย ซูซูกิ ออกจำหน่าย ภายนอก กะทัดรัด แต่อวบกว่าเดิม รูปทรงของ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ นั้น ดูคล้ายๆ กับ สวิฟท์ รุ่นก่อน แต่ถ้านำมิติตัวถังของรถมาเทียบกันแล้ว จะเห็นได้ว่า สวิฟท์ ใหม่ มีขนาดของตัวถังใหญ่ขึ้น โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 105 มม. ความกว้างเพิ่มอีก 5 มม. และฐานล้อยาวขึ้นอีก 40 มม. จึงทำให้รัศมีวงเลี้ยวกว้างขึ้นจาก 4.7 เป็น 5.2 ม. แม้ว่า ซูซูกิ จะรักษารูปลักษณ์เดิมๆ เอาไว้ แต่ในรายละเอียด ต่างไปอย่างชัดเจนทั้งในส่วนของไฟหน้า/ไฟท้ายที่ยาวกว่าเดิม ที่เปิดฝาท้ายออกแบบซ้อนไว้ด้านล่าง ตรงส่วนของไฟส่องป้ายทะเบียน ไม่เกะกะสายตา และดูลงตัวกว่าเดิม ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55 R 16 ในรุ่นจีแอลเอกซ์ นั้น ใหญ่กว่าอีโคคาร์ทั่วไป ทำให้คิดไปว่าสวิฟท์ ใหม่ เป็นรถในกลุ่ม ฮอทแฮทช์ ตัวแรง ภายใน คุ้มค่า เน้นประโยชน์ใช้สอย บรรยากาศเมื่อเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร เรียบหรู ดูมีราคากว่าแฮทช์แบค บางรุ่น ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ให้มาในรุ่นรองทอพ จีแอล ตั้งแต่ ระบบกุญแจแบบพกพา เปิด/ปิดประตู และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และน่าใช้ยิ่งขึ้นในรุ่นทอพ จีแอลเอกซ์ กับพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน และระบบปรับอากาศแบบดิจิทอล ส่วนความสะดวกสบายสำหรับด้านหน้ากว้างสบาย เบาะและพวงมาลัยปรับเข้า/ออก ยกขึ้น/กดลงได้หลายลักษณะ ส่วนความกว้างของห้องโดยสารตอนหลัง โดยรวมแล้ว โปร่งโล่งสบายดีกว่ารุ่นก่อน เพราะฐานล้อมีขนาดที่ยาวขึ้น แถมไม่มีอุโมงค์กลางที่พื้นรถ เบาะหลังพับแยกได้ 60/40 แต่เมื่อพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกของ ไม่ได้เรียบเสมอกันเหมือนรุ่นก่อน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมีแผ่นปิดยางอะไหล่แค่เพียงชั้นเดียว ต่างจากรุ่นก่อน เครื่องยนต์ ประหยัด ตอบสนองต่อเนื่อง ในด้านของสมรรถนะนั้น แม้ดูเหมือนเรี่ยวแรง (แรงม้า) ของ สวิฟท์ ใหม่ จะน้อยลงไปบ้าง เพราะลดขนาดเครื่องยนต์ลงจาก 1.5 ลิตร 101 แรงม้า มาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 91 แรงม้า แต่ด้วยพัฒนาและออกแบบเครื่องยนต์ของ ซูซูกิ ทำให้แรงบิดสูงสุด 12.0 กก.-ม. มากกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่มีเพียง 11.5 กก.-ม. และน้ำหนักตัวของ สวิฟท์ ใหม่ก็น้อยกว่าเดิมอีก 25 กก. จึงทำให้ สวิฟท์ ใหม่ ยังคงมีอัตราเร่งออกตัวที่ว่องไว และเร่งแซงช่วงความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ได้น่าพอใจ ขณะที่ความเร็วสูงสุดนั้นก็ทำได้มากกว่า 175 กม./ชม. สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ สวิฟท์ ใหม่ ทำให้แปลกใจ เมื่อตัวเลขในมาตรวัดอยู่ที่ 19.2 กม./ลิตร ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ขณะที่รอบเครื่องยนต์ 2,400 รตน. ส่วนอัตราเฉลี่ยไป/กลับกรุงเทพ ฯ (พระราม 4)-ปราณบุรี อยู่ที่ 16.3 กม./ลิตร และรองรับน้ำมันอี 20 ด้วย ระบบรองรับ นุ่มสบาย คล่องตัวในเมือง ระบบช่วงล่างของ สวิฟท์ ใหม่ ถูกออกแบบมาให้ค่อนข้างนุ่มนวล นั่งสบาย เหมาะสมดีแล้วสำหรับการใช้งานแบบรถขับประหยัดในเมืองใหญ่ แต่ถ้าขับไปเจอคอสะพานชันๆ จะรู้สึกว่าจังหวะยุบตัวของชอคอับมากจนบางครั้งก็จะยุบไปจนถึงตัวลูกยางกันกระแทก ในการขับทางไกล และใช้ความเร็วสูง ระบบช่วงล่างยังหนึบให้ความรู้สึกมั่นใจดี พวงมาลัยไม่เบา การตอบสนองแม่นยำ ทั้งรุ่น จีเอ จีแอล ที่ใช้ยาง 175/65 R15และจีแอลเอกซ์ กับยาง 185/55 R16 ส่วนระบบเบรคที่ใช้เป็นแบบหน้าจาน หลังดุม ซึ่งเอาอยู่เมื่อต้องหยุดรถกะทันหัน และวางใจได้เพราะมีระบบเบรคเอบีเอส และระบบเสริมแรงเบรคมาให้ด้วย สรุป จ่ายน้อยลง แต่น่าใช้กว่าเดิม ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ 1.2 ลิตร ภายใต้กติกาอีโคคาร์ ทำให้สามารถกดราคาค่าตัวลงมาอยู่ระหว่าง 469,000-559,000 บาท หน้าตาทันสมัย ขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพิ่มความสะดวกสบาย และที่มองข้ามไม่ได้ ในยุคที่น้ำมันลิตรละ 40 บาท ก็คือ เรื่องประหยัดน้ำมันในแบบอีโคคาร์ 20 กม./ลิตร สวิฟท์ ใหม่ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และน่าลองก่อนตัดสินใจ ข้อมูลจำเพาะ ซูซูกิ สวิฟท์ จีแอลเอกซ์ ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 1800-600-900 มิติ และน้ำหนัก� ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,850/1,695/1,510 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,588/1,585� ฐานล้อ (มม.) 2,430 น้ำหนัก (กก.) 975 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 42 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบ ความจุ (ซีซี) 1,242� กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/74.2� อัตราส่วนกำลังอัด 11.0:1� กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 91/6,000 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 12.0/4,800 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง� เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ ซีวีที� ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ� หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง หลัง ทอร์ชันบีม พร้อมคอยล์สปริง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ� แบบ เอบีเอส อีบีดี หน้า จาน� หลัง ดุม� ราคา (บาท) 559,000
ภายนอก กะทัดรัด แต่อวบกว่าเดิม
รูปทรงของ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ นั้น ดูคล้ายๆ กับ สวิฟท์ รุ่นก่อน แต่ถ้านำมิติตัวถังของรถมาเทียบกันแล้ว จะเห็นได้ว่า สวิฟท์ ใหม่ มีขนาดของตัวถังใหญ่ขึ้น โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 105 มม. ความกว้างเพิ่มอีก 5 มม. และฐานล้อยาวขึ้นอีก 40 มม. จึงทำให้รัศมีวงเลี้ยวกว้างขึ้นจาก 4.7 เป็น 5.2 ม.
แม้ว่า ซูซูกิ จะรักษารูปลักษณ์เดิมๆ เอาไว้ แต่ในรายละเอียด ต่างไปอย่างชัดเจนทั้งในส่วนของไฟหน้า/ไฟท้ายที่ยาวกว่าเดิม ที่เปิดฝาท้ายออกแบบซ้อนไว้ด้านล่าง ตรงส่วนของไฟส่องป้ายทะเบียน ไม่เกะกะสายตา และดูลงตัวกว่าเดิม
ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55 R 16 ในรุ่นจีแอลเอกซ์ นั้น ใหญ่กว่าอีโคคาร์ทั่วไป ทำให้คิดไปว่าสวิฟท์ ใหม่ เป็นรถในกลุ่ม ฮอทแฮทช์ ตัวแรง
ภายใน คุ้มค่า เน้นประโยชน์ใช้สอย
บรรยากาศเมื่อเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร เรียบหรู ดูมีราคากว่าแฮทช์แบค บางรุ่น ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ให้มาในรุ่นรองทอพ จีแอล ตั้งแต่ ระบบกุญแจแบบพกพา เปิด/ปิดประตู และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และน่าใช้ยิ่งขึ้นในรุ่นทอพ จีแอลเอกซ์ กับพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน และระบบปรับอากาศแบบดิจิทอล
ส่วนความสะดวกสบายสำหรับด้านหน้ากว้างสบาย เบาะและพวงมาลัยปรับเข้า/ออก ยกขึ้น/กดลงได้หลายลักษณะ ส่วนความกว้างของห้องโดยสารตอนหลัง โดยรวมแล้ว โปร่งโล่งสบายดีกว่ารุ่นก่อน เพราะฐานล้อมีขนาดที่ยาวขึ้น แถมไม่มีอุโมงค์กลางที่พื้นรถ
เบาะหลังพับแยกได้ 60/40 แต่เมื่อพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกของ ไม่ได้เรียบเสมอกันเหมือนรุ่นก่อน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมีแผ่นปิดยางอะไหล่แค่เพียงชั้นเดียว ต่างจากรุ่นก่อน
เครื่องยนต์ ประหยัด ตอบสนองต่อเนื่อง
ในด้านของสมรรถนะนั้น แม้ดูเหมือนเรี่ยวแรง (แรงม้า) ของ สวิฟท์ ใหม่ จะน้อยลงไปบ้าง เพราะลดขนาดเครื่องยนต์ลงจาก 1.5 ลิตร 101 แรงม้า มาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 91 แรงม้า แต่ด้วยพัฒนาและออกแบบเครื่องยนต์ของ ซูซูกิ ทำให้แรงบิดสูงสุด 12.0 กก.-ม. มากกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่มีเพียง 11.5 กก.-ม. และน้ำหนักตัวของ สวิฟท์ ใหม่ก็น้อยกว่าเดิมอีก 25 กก. จึงทำให้ สวิฟท์ ใหม่ ยังคงมีอัตราเร่งออกตัวที่ว่องไว และเร่งแซงช่วงความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ได้น่าพอใจ ขณะที่ความเร็วสูงสุดนั้นก็ทำได้มากกว่า 175 กม./ชม.
สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ สวิฟท์ ใหม่ ทำให้แปลกใจ เมื่อตัวเลขในมาตรวัดอยู่ที่ 19.2 กม./ลิตร ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ขณะที่รอบเครื่องยนต์ 2,400 รตน. ส่วนอัตราเฉลี่ยไป/กลับกรุงเทพ ฯ (พระราม 4)-ปราณบุรี อยู่ที่ 16.3 กม./ลิตร และรองรับน้ำมันอี 20 ด้วย
ระบบรองรับ นุ่มสบาย คล่องตัวในเมือง
ระบบช่วงล่างของ สวิฟท์ ใหม่ ถูกออกแบบมาให้ค่อนข้างนุ่มนวล นั่งสบาย เหมาะสมดีแล้วสำหรับการใช้งานแบบรถขับประหยัดในเมืองใหญ่ แต่ถ้าขับไปเจอคอสะพานชันๆ จะรู้สึกว่าจังหวะยุบตัวของชอคอับมากจนบางครั้งก็จะยุบไปจนถึงตัวลูกยางกันกระแทก ในการขับทางไกล และใช้ความเร็วสูง ระบบช่วงล่างยังหนึบให้ความรู้สึกมั่นใจดี พวงมาลัยไม่เบา การตอบสนองแม่นยำ ทั้งรุ่น จีเอ จีแอล ที่ใช้ยาง 175/65 R15และจีแอลเอกซ์ กับยาง 185/55 R16
ส่วนระบบเบรคที่ใช้เป็นแบบหน้าจาน หลังดุม ซึ่งเอาอยู่เมื่อต้องหยุดรถกะทันหัน และวางใจได้เพราะมีระบบเบรคเอบีเอส และระบบเสริมแรงเบรคมาให้ด้วย
สรุป จ่ายน้อยลง แต่น่าใช้กว่าเดิม
ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ 1.2 ลิตร ภายใต้กติกาอีโคคาร์ ทำให้สามารถกดราคาค่าตัวลงมาอยู่ระหว่าง 469,000-559,000 บาท หน้าตาทันสมัย ขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพิ่มความสะดวกสบาย และที่มองข้ามไม่ได้ ในยุคที่น้ำมันลิตรละ 40 บาท ก็คือ เรื่องประหยัดน้ำมันในแบบอีโคคาร์ 20 กม./ลิตร สวิฟท์ ใหม่ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และน่าลองก่อนตัดสินใจ