ทดลองขับ(4wheels)
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท ใหม่ เอสยูวีหรู ลุยสนุก !
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดทริพทดลองขับ ปาเจโร สปอร์ท ใหม่ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน โดยมีเส้นทางวิบากตามธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้ได้ลองระบบ SUPER SELECT 4WD II
ภายนอก
ปาเจโร สปอร์ท ใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าแบบ ADVANCE DYNAMIC SHIELD DESIGN ไฟหน้าแบบ PROJECTOR BI-LED พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ SPECTRUM LED รูปทรงเรียวยาวรับกับกระจังหน้า เพิ่มความหรูหราของหน้าตาด้วยเส้นโครเมียมบนกันชน ทำให้ดูล้ำสมัย และมีไฟส่องสว่างขณะเลี้ยว พร้อมไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ส่วนไฟท้าย LED วางตามแนวตั้งของฝากระโปรงท้ายลงมาถึงกันชน
ภายใน
ห้องโดยสารมีความกว้างขวาง แผงหน้าปัดดูทันสมัย พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน ปรับตำแหน่งได้ 4 ทิศทาง พร้อมระบบมัลทิฟังค์ชันที่ควบคุมการสั่งงานต่างๆ ผ่านระบบ สัมผัส หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอได้ 3 รูป-แบบ และรองรับเมนูภาษาไทย มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ และแสดงข้อมูลจากหน้าจอระบบสัมผัส SDA (SMARTPHONE-LINK DISPLAY AUDIO) พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง มีอยู่ในรถรุ่น 2.4 จีที-พรีเมียม 4WD รุ่นที่เราได้ทดลองขับในครั้งนี้
เบาะคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง ด้วยระบบไฟฟ้า, ระบบเปิด และปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า (ELECTRIC TAILGATE WITH HANDS-FREE) พร้อมระบบแฮนด์ฟรี และปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมลอครถ โดยทำงานควบคู่กับระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS อีกทั้งยังมีระบบเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชัน เพื่อสั่งการทำงานบนสมาร์ทโฟน (MITSUBISHI REMOTE CONTROL) สามารถสั่งเปิด/ปิดประตูท้ายอัตโนมัติได้ล่วงหน้า (ในระยะเวลาไม่เกิน 20 นาที)
เครื่องยนต์
ปาเจโร สปอร์ท ใหม่ วางเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 43.9 กก.-ม. ที่ 2,500 รตน. ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และในรุ่น จีที-พรีเมียม 4WD ยังได้ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เสริมด้วยโหมดขับเคลื่อน SUPER-SELECT 4WD-II สามารถเลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (2H) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ FULL-TIME ALL WHEEL CONTROL
ระบบรองรับ
นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยระบบ CENTER DIFFERENTIAL LOCK แบ่งกำลังไปยังล้อหน้า และล้อหลังในสัดส่วนที่เท่ากัน สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ตามสภาพเส้นทางต่างๆ ได้ถึง 4 รูปแบบ เช่น 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อในเส้นทางปกติ, 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานแบบฟูลล์ไทม์ ออลล์วีลคอนทโรล เหมาะกับถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว, 4HLC (4WD HIGH-RANGE WITH LOCKED TRANSFER) หรือขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วสูง และ 4LLC (4WD LOW-RANGE WITH LOCKED TRANSFER) หรือขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วต่ำ และยังมีฟังค์ชันขับขี่ 4 รูปแบบ คือ GRAVEL (กรวด หรือลูกรัง) MUD/SNOW (โคลน/หิมะ) SAND (ทราย) และ ROCK (หิน) รวมทั้งติด-ตั้งระบบลอคเฟืองท้ายหลัง (REAR DIFFERENTIAL LOCK) ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า โดยกดสวิทช์ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง ระบบจะลอคเฟืองท้ายหลังเพื่อให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังทั้งซ้าย และขวา ให้หมุนเท่ากันตลอดเวลา ระบบนี้ทำงานร่วมกับระบบ CENTER DIFFERENTIAL LOCK
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ดับเบิล วิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบธรีลิงค์ ทอร์คอาร์ม คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มหนึบ และการทรงตัวดีกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด มีระบบความปลอด-ภัยต่างๆ มาให้แบบครบครัน
จากการทดลองขับ เป้าหมายแรกเรามุ่งหน้าไปจุดนัดพบที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระยะทางประมาณ 169.4 กม. ช่วงแรกสภาพการจราจรหนาแน่น รถติดยาว เพราะมีการซ่อม สร้าง ขยายถนน ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ในการเดินทาง 120-130 กม./ชม. การขึ้น/ลงคอสะพาน หรือหลุมบ่อบนผิวถนน ช่วงล่างเก็บอาการได้ดีกว่ารุ่นเดิม
เส้นทางช่วงที่ 2 เป็นเส้นทางวิบากตามธรรมชาติ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน-ห้วยคมกฤต ในสเตชันนี้ เราได้ลองระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ SUPER-SELECT 4WD-II โดยปรับไปที่โหมด 4LLC (4WD LOW-RANGE WITH LOCKED TRANSFER) และปรับฟังค์ชันการขับขี่รูปแบบ GRAVEL (กรวด หรือลูกรัง) ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการขับ และสนุกสนานกับการไต่เนินชันต่างๆ มีดีดดิ้นบ้างตามบุคลิกของรถ 4WD ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย อยู่ที่ระดับ 9.1-9.6 ลิตร/100 กม. ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ประหยัด และน่าคบหา
ฟันธง
ปาเจโร สปอร์ท ใหม่ เป็นรถเอสยูวีที่มีบุคลิกหน้าตาดี ขับสนุกบนทางเรียบ ถ้าเบื่อๆ ก็เอาไปลุยในเส้นทางวิบากได้ แบบไม่ต้องคิดมาก !