ทดลองขับ(formula)
ฮอนดา ออดิสซีย์ 2.4 อีแอล
ฮอนดา ออดิสซีย์ เจเนอเรชันแรกเปิดตัวออกสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2537 และถือเป็น เอมพีวี รุ่นที่ประสบความสำเร็จอีกรุ่น ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก รวมถึงในตลาดใหญ่อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับเจเนอเรชันล่าสุดที่กำลังพิจารณากันอยู่นี้ เปิดตัวกันที่ประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคม 2556 ก่อนจะขึ้นโชว์รูมในเดือนถัดมา และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันก็ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30” ช่วงปลายปี 2556 โดยตัวรถได้รับการปรับปรุงใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดท้าย เพื่อตอบโจทย์บรรดาคนรักครอบครัวอย่างแท้จริง
ภายนอก หรูหรา สง่างาม
หลายคนอาจชินกับภาพลักษณ์ของ เอมพีวี สไตล์สปอร์ทของทั้ง 2 เจเนอเรชันก่อนหน้านี้ แต่สำหรับ ฮอนดา ออดิสซีย์ ใหม่ เป็นการปรับแนวทางเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการรถครอบครัวอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด SOLID STREAMLINE เพื่อสะท้อนความหรูหราและความงามที่เป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้าพโรเจคเตอร์คู่ ปรับระดับสูง/ต่ำอัตโนมัติ พร้อมแอลอีดี เดย์ไลท์ และไฟท้ายแบบแอลอีดี เช่นเดียวกัน ประตูข้างไฟฟ้าแบบสไลด์ ซ้าย/ขวา ควบคุมด้วยรีโมท ซึ่งถูกนำมาใช้กับรถตระกูลนี้เป็นครั้งแรก ด้วยจุดประสงค์ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า/ออก รวมถึงซันรูฟ ระบบ วัน-ทัช เปิดรับอากาศภายนอก
ภายใน สะดวก ปลอดภัย เทคโนโลยีใหม่เพียบ
ภายในห้องโดยสารมีแนวคิดการออกแบบ MODERN SUITE ให้อารมณ์เสมือนอยู่ในห้องสวีทของโรงแรมหรู ประณีต หรูหรา โอ่อ่ากว้างขวาง และเงียบ ด้วยมิติที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิม และเพิ่มความสูงของตัวรถ ห้องโดยสารจึงมีความโอ่โถง เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบเฟิร์สต์คลาสส์ ปรับได้ถึง 10 ทิศทาง เพื่อรองรับกับทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร เพื่อความผ่อนคลายตลอดการเดินทาง ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 รองรับที่นั่งได้ 3 ตำแหน่ง สามารถแยกปรับพนักพิงหลังแบบ 40:20:40 และสามารถพับราบช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ ทไร-โซน แผงควบคุมระบบแบบสัมผัส และแผงควบคุมระบบปรับอากาศสำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3
ระบบเพื่อความปลอดภัยมีติดตั้งมาครบครัน เริ่มจากกล้องรอบทิศทาง (MULTI-VIEW CAMERA) จะทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้ง 4 จุดรอบคัน โดยจะแสดงภาพแต่ละด้าน และภาพจำลองมุมสูง พร้อมระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (HONDA SMART PARKING ASSIST SYSTEM) ระบบจะควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ โดยผู้ขับขี่แค่ควบคุมเบรคกับเปลี่ยนเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังให้รถเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ระบุบนหน้าจอ และสามารถใช้ได้ทั้งการจอดแนวขนานและถอยหลังเข้าซอง นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนมุมอับสายตา (BLIND SPOT INFORMATION SYSTEM) ระบบเตือนเมื่อรถยนต์เคลื่อนผ่านขณะถอย (CROSS TRAFFIC MONITOR) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะถอยออกจากที่จอด และระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติ (ACTIVE CORNERING LIGHT)
ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองการสั่งงานผ่าน ADVANCED TOUCH AUDIO ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วและพวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน โดยหน้าจอจะแสดงผลในโหมดเครื่องเสียง/เชื่อมต่อกับโทรศัพท์/แสดงอัตราสิ้นเปลือง/ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI EYE FREEMODE (รองรับเฉพาะ ไอโฟน 4 เอส ขึ้นไป)/ช่องเชื่อมต่อ HDMI และ USB 2 ตำแหน่ง และรองรับการเชื่อมต่อ HONDA LINK NAVIGATION APPLICATION (เฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น)
เครื่องยนต์ “เอิร์ธดรีมส์” รองรับ อี 20
ขุมพลังที่ใช้เป็นเบนซินแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน I-VTEC จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดมัลทิพอยท์ PGM-FI ให้กำลัง 175 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. และรองรับ อี 20 ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแปรผัน ทำงานร่วมกับคันเร่งไฟฟ้าที่มีความแม่นยำสูง และระบบช่วยการทรงตัว VSA (VEHICLE STABILITY ASSIST) การใช้งานในเมืองช่วงความเร็วต่ำ เครื่องยนต์มีความกระฉับกระเฉงให้เหลือเฟือ เสียงการทำงานของเครื่องยนต์มีให้ได้ยินเพียงแผ่วๆ ชนิดต้องเงี่ยหูฟัง ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร การทำงานของเกียร์ราบเรียบนุ่มนวลตามแนวทางของเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัน การตอบสนองทันอกทันใจจนทำให้ลืมเรื่อง “แพดเดิล ชิฟท์” ที่มีให้ไปเลย
ส่วนการขับขี่แบบเดินทาง ความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. เครื่องยนต์มีการตอบสนองฉับไว และมีกำลังสำรองเพียงพอสำหรับการเร่งแซงได้อย่างสบาย ทั้งที่ต้องแบกน้ำหนักตัวรถกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 4 คน มากกว่า 2 ตัน ก็ตาม
ระบบรองรับ นุ่มนวลชวนฝัน
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม เซทมาให้รับมือกับพละกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว รู้สึกนุ่มนวล มั่นคง แต่ไม่ยวบยาบ
ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายความร้อน พร้อมเอบีเอส ทำงานร่วมกับระบบกระจายแรงเบรค อีบีดี แป้นเบรคมีน้ำหนักกำลังดีไม่เบาหรือหนักจนเกินไป การตอบสนองเป็นไปตามน้ำหนักเท้า และมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HILL START ASSIST)
ราคา 2,950,000 บาท
สรุป ตอบโจทย์คนรักครอบครัว
การกลับมาอีกครั้งของเอมพีวีหรูเจเนอเรชันล่าสุด ที่คราวนี้ไม่ต้องให้แฟนขาประจำรอคอยกันนานสองนานเหมือนในอดีตจนต้องไปพึ่งพาบริการของ “ตลาดเทา” น่าจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้คลอบคลุมยิ่งขึ้น จากการติดตั้งประตูข้างไฟฟ้าแบบสไลด์ ซ้าย/ขวา และการเพิ่มความสูงของตัวรถ