ทดลองขับ(formula)
เอมจี 6
เอมจี รถยนต์บแรนด์อังกฤษ ที่หายไปจากตลาดเมืองไทยนานกว่า 15 ปี นับตั้งแต่ยุคของ เอมจี เอฟ (MG F) สปอร์ทโรดสเตอร์ เครื่องวางกลาง ซึ่งการกลับมาของ เอมจี ภายใต้การบริหารของ SAIC เริ่มต้นที่รถยนต์ชนาดกลาง หรือซี-เซกเมนท์ ทั้ง 4 ประตูซีดาน หรือ แมกเนทท์ (MAGNETTE) กลุ่มเดียวกับ โตโยตา โคโรลลา อัลทิส นิสสัน ซิลฟี ฮอนดา ซีวิค ฟอร์ด โฟคัส และมาซดา 3 พร้อมๆ กับทางเลือกในแบบ 5 ประตูท้ายลาด ฟาสต์แบค (FASTBACK) หรือ จีที (GT) ที่ต่างไปจากพวก 5 ประตูท้ายตัด หรือแฮทช์แบค เอมจี 6 หรือ เรอเว 550 (ROEWE 550) สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในจีน
ภายนอก 4 ประตูเรียบง่าย 5 ประตูแปลกตา
เอมจี 6 ทั้ง 2 รุ่น มีเส้นสายที่เน้นความเรียบง่าย กระจังหน้าและช่องดักลมขนาดใหญ่ในกันชนหน้า บุด้วยตาข่ายเพิ่มความสปอร์ท พร้อมไฟตัดหมอก ไฟหน้าโค้งและโป่งล้อกลมกลืนกับตัวรถ แนวหลังคาทรงโค้งดูปราดเปรียว กันชนท้ายเสริมด้วยแถบสีดำด้านล่างทำให้ดูสปอร์ท
รูปลักษณ์โดยรวม 5 ประตูท้ายลาด ฟาสต์แบค ใกล้เคียงกับ 4 ประตูซีดาน แต่ต่างกันที่ฝาท้ายกับกระจกหลังลาดเทจนถึงท้ายรถ และเสริมด้วยสปอยเลอร์แบบหางเป็ด ไฟท้ายของรุ่นซีดาน แบ่งเป็น 2 ส่วน และมีรูปทรงที่โค้งเว้าเข้ากับเส้นสายบนกันชน แต่ไฟท้ายของ ฟาสต์แบค เป็นชิ้นเดียว
ในรุ่น ดี (D) และ เอกซ์ (X) ใช้ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว ยาง 215/50 R17 ใหญ่กว่าซีดาน รุ่น ซี (C)
ภายใน หรูหราสไตล์ยุโรป แต่งสปอร์ท
ห้องโดยสารโทนสีดำ ตกแต่งด้วยสีเมทัลลิค คอนโซลเรียบๆ ด้านบนบุด้วยยางสไตล์รถยุโรป กรอบมาตรวัดยาวมาถึงคอนโซลกลาง แต่มาตรวัดคู่มีขนาดเล็ก และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับใช้กราฟิคง่ายๆ ไม่สะดุดตา ในรุ่น ดี และ เอกซ์ เบาะนั่ง คันเกียร์ และพวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ เย็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดง เน้นความสปอร์ท
เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ท ปีกเบาะและพนักพิงสูง นั่งกระชับ ด้านผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง มีแป้นเปลี่ยนเกียร์ (PADDLE SHIFT) ลบมือซ้าย บวกมือขวา พร้อมสวิทช์ครูสคอนทโรล และระบบเครื่องเสียง คอนโซลเกียร์ทันสมัย ติดตั้งเบรคมือไฟฟ้า สวิทช์ปิด/เปิดลอคประตู และสวิทช์ระบบควบคุมการลื่นไถล เบาะหลังนั่งสบาย มีที่เท้าแขนตรงกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำแบบมีฝาปิด พนักพิงเบาะหลังแยกพับ 60:40 ได้ คอนโซลกลางมีกล่องแช่เย็นและช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
กระจกหลังลาดเทจนถึงท้ายรถ ทำให้ฟาสต์แบค มีความจุห้องเก็บของท้ายมากกว่าซีดาน และสามารถวางของที่มีความสูงมากกว่าได้ แต่คงเทียบไม่ได้กับพวกแฮทช์แบค
จุดที่น่าสนใจ คือ กุญแจรีโมทที่นอกจากเป็นระบบอัจฉริยะเปิด/ปิดด้วยการสัมผัส และเปิด/ปิดกระจกหน้าต่างทั้ง 4 บาน และฝากระโปรงท้ายด้วยรีโมทแล้ว ยังใช้เป็นปุ่มสตาร์ท/ดับเครื่องยนต์ด้วย มีช่อง USB และ AUX พร้อมฝาปิด ใต้คอนโซลฝั่งขวาของผู้ขับ ไว้เชื่อมต่อ และวางโทรศัพท์มือถือ หรือไอพอต
เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบ กำลังดี ขับสบาย
เอมจี 6 รุ่น เอกซ์ ที่ทดลองขับครั้งนี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร เทอร์โบชาร์จ และอินเตอร์คูเลอร์ 161 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิด 21.9 กก.-ม. ที่ 2,000-4,500 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ดูอัลคลัทช์ 6 จังหวะ พร้อมโหมดบวก/ลบ
เครื่องยนต์ให้การตอบสนองดีและทันใจที่ความเร็วต่ำถึงปานกลาง ไม่ต้องกดคันเร่งมาก ส่วนในความเร็วเกิน 120 กม./ชม. ถ้ากดคันเร่งเพื่อแซงยังมีจังหวะรอ เช่นเดียวกับโหมดเปลี่ยนเอง ทั้งการโยกคันเกียร์ หรือแป้นเปลี่ยนเกียร์ ส่วนเกียร์ W (WINTER) เอมจี เขามีไว้ออกตัวด้วยเกียร์ 2 สำหรับใช้งานบนทางลื่น
ระบบรองรับ หนัก แน่น หนึบแบบรถยุโรป
พวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิค ไม่มีระบบไฟฟ้าช่วย การใช้งานที่ความเร็วต่ำไม่คล่องตัว เพราะพวงมาลัยหนัก แต่จะขับสบายที่ความเร็วปานกลาง และเบาแรงเมื่อใช้ความเร็วสูง
เอมจี 6 นอกจากจะมีระบบพื้นฐาน อย่าง ป้องกันล้อลอค (ABS) และระบบช่วยกระจายแรงเบรค (EBD) ในรุ่น ดี และ เอกซ์ ยังมีระบบเสริมแรงเบรค (EBA) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ระบบป้องกันการลื่นเมื่อเร่งหรือลดความเร็ว (MSR: MOTOR CONTROL SLIDE RETAINER) ระบบควบคุมการเบรคในขณะเข้าโค้ง (CBC: CORNERING BRAKE CONTROL) และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS: HILL START ASSIST SYSTEM) ทำให้ควบคุมรถง่ายขึ้น
สรุป ของดีมาตรฐานยุโรป ที่ต้องรอ
เอมจี 6 รูปร่างหน้าตาแม้จะไม่โดดเด่น แต่ก็มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะฟาสต์แบค ที่เอาซีดานมาครอบฝาท้าย ห้องโดยสารเรียบหรู มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ แอร์เย็นทั้งเบาะหน้า/เบาะหลัง แถมมีช่องแช่เย็นมาให้ด้วย เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบ 161 แรงม้า ถึงจะไม่โดดเด่น หรือแรงสะใจ แต่ก็มีกำลังใกล้เคียงเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และเพียงพอกับการใช้ ติดขัดก็ตรงศูนย์บริการ ที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ