ทดลองขับ(formula)
ฮอนดา แอคคอร์ด ไฮบริด เทค
เผยโฉมอย่างเป็นทางการ โดยทิ้งระยะจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินกว่า 1 ปี ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นการพัฒนาจาก ฮอนดา แอคคอร์ด เจเนอเรชัน 9 แต่เน้นเรื่องระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นกว่าระบบไฮบริดในรถรุ่นอื่นๆ ของ ฮอนดา ภายใต้นิยาม ADVANCED FULL HYBRID
ภายนอก เส้นสายพลิ้วไหวเช่นเดิม
ยังคงพื้นฐานเดิมของรุ่น 2.4 เทค ไว้ครบครัน แค่มีการปรับปรุงองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของ "รถรักษ์โลก" เริ่มจากไฟหน้าแอลอีดีตกแต่งด้วยกรอบไฟสีฟ้า พร้อมกระจังหน้าดีไซจ์นพิเศษที่มาพร้อมกับเลนส์สี CLEAR BLUE ไฟท้ายเป็นแอลอีดีเช่นเดียวกัน แต่บ่งบอกความแตกต่างจากตัวอักษร HYBRID ที่ด้านข้างกับฝากระโปรงท้าย
ภายใน ระบบเพื่อความปลอดภัยเพียบ
สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น 2.4 เทค คือ เรือนไมล์ที่เข็มวัดรอบ เกจความร้อนหายไป ถูกแทนที่ด้วยจอแสดงการทำงานของระบบไฮบริด และบอกปริมาณไฟฟ้าในแบทเตอรีตามลำดับ รวมถึงการหายไปของแพดเดิล ชิฟท์ นอกนั้นยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกประการ อาทิ ถุงลมอัจฉริยะ 6 ตำแหน่ง ระบบ CMBS (COLLISION MITIGATION BRAKE SYSTEM) ระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาร์ พร้อมระบบช่วยเบรค HONDA LANEWATCH ระบบแสดงภาพมุมอับสายตา ACC (ADAPTIVE CRUISE CONTROL) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน MULTI-ANGLE REARVIEW CAMERA กล้องส่องภาพด้านหลังสามารถเลือกมุมกล้องแตกต่างกัน
เครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
ระบบไฮบริดของ ฮอนดา แอคคอร์ด มีชื่อเป็นทางการว่า SPORT HYBRID INTELLIGENT MULTI-MODE DRIVE (I-MMD) ทำงานโดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร ATKINSON CYCLE พร้อมระบบวาล์วแปรผัน I-VTEC จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-FI ให้กำลัง 143 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 16.8 กก.-ม.ที่ 4,500 รตน. รองรับแกสโซฮอล อี 20 ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (มอเตอร์ตัวที่ 1 ทำหน้าที่เป็นเจเนอเรเตอร์ ส่วนมอเตอร์ตัวที่ 2 ทำหน้าที่ขับเคลื่อน) ให้กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 31.3 กก.-ม. แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุ 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแปรผัน E-CVT โดยให้กำลังรวมทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 199 แรงม้า
การทำงานของระบบ I-MMD สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV DRIVE MODE) มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรี และในขณะลดความเร็วจะชาร์จไฟกลับไปยังแบทเตอรี โหมดนี้ถ้าแบทเตอรีเต็ม สามารถวิ่งได้เป็นระยะ 2 กม. และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กม./ชม. โดยเครื่องยนต์ไม่ต้องทำงาน โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (HYBRID DRIVE MODE) เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องยนต์กับพลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรี เพื่อให้มีการตอบสนองรวดเร็วทันใจ และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (ENGINE DRIVE MODE) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ล้วนๆ โดยชุดลอคอัพคลัทช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์ แล้วส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อโดยตรง ซึ่งเหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่ การตอบสนองขณะขับขี่ถือว่าน่าประทับใจ การเปลี่ยนโหมดของระบบไฮบริดทำงานราบเรียบไร้รอยต่อ ตั้งแต่จุดหยุดนิ่งจนถึงความเร็วสูง หรือถ้าต้องการรถขับเคลื่อนโหมด EV ก็เพียงกดปุ่มที่ท้ายคอนโซลเกียร์ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีไฟฟ้าในแบทเตอรีเพียงพอ และขับขี่ในสภาวะที่เหมาะสม
ระบบรองรับ นุ่มนวลชวนฝัน
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง โดยรุ่นไฮบริดได้มีการเปลี่ยนมาใช้ซับเฟรมหน้าผลิตจากอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา ส่วนด้านหลังใช้ระบบรองรับแบบมัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง การตอบสนองเมื่อใช้ความเร็วต่ำให้ความรู้สึกนุ่มนวลดีมาก ส่วนความเร็วสูงก็ไม่ออกอาการยวบยาบให้สัมผัส แม้จะวิ่งบนถนนไม่เรียบนักก็ตาม และเพิ่มความสบายใจให้อีกขั้นด้วยระบบช่วยการทรงตัว VSA (VEHICLE STABILITY ASSIST)
สรุป ไฮบริดแนวคิดใหม่
ฮอนดา แอคคอร์ด ไฮบริด จะไม่มีจังหวะที่มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ทำหน้าที่พร้อมกันในการขับเคลื่อนเหมือนระบบไฮบริดที่คุ้นเคย แต่ระบบนี้เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าจากเจเนอเรเตอร์มอเตอร์และพลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน ส่งไปให้มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน เพื่อถ่ายทอดกำลังลงสู่พื้นถนน ถือเป็นระบบไฮบริดแนวคิดใหม่ที่น่าสนใจ