ทดลองขับ(formula)
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ฯ สานต่อตำนานความแรงในสไตล์แรลลีของ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ เอโวลูชันมาโดยตลอด จากรุ่นแรกจนถึงรุ่น 8 แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ เครื่องยนต์รหัส 4 จี 63 ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องผิด ที่จะกล่าวว่า "มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ เป็นทายาทของ แลนเซอร์ เอโวลูชัน" เพราะ มิตซูบิชิ ฯ ได้นำเอาเครื่องยนตรหัส 4 จี 63 มาใส่ไว้ในรถรุ่นนี้ แม้ว่าจะขาดชุดเทอร์โบชาร์จก็ตามมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ฯ สานต่อตำนานความแรงในสไตล์แรลลีของ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ เอโวลูชัน มาโดยตลอด จากรุ่นแรกจนถึงรุ่น 8 แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ เครื่องยนต์รหัส 4 จี 63 ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องผิด ที่จะกล่าวว่า "มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ เป็นทายาทของ แลนเซอร์ เอโวลูชัน" เพราะ มิตซูบิชิ ฯ ได้นำเอาเครื่องยนตรหัส 4 จี 63 มาใส่ไว้ในรถรุ่นนี้ แม้ว่าจะขาดชุดเทอร์โบชาร์จก็ตาม ภายนอก หน้าตาหรู สไตล์ใหม่ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกันกับรุ่น 1.6 ที่เน้นจมูกใหญ่ยาว ชุดไฟหน้าแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ กันชนหน้าแบบสปอร์ทชิ้นเดียวกับกระจังหน้า เน้นสัญลักษณ์ "สามเพชร" ขนาดใหญ่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถ มิตซูบิชิ รุ่นใหม่ๆ ด้านหลังกลมกลืน และโค้งมน ดูเรียบง่าย แต่เด่นที่ไฟท้ายสีแดง และเลนส์สะท้อนแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ทรงกลมคู่ ในรุ่น 2.0 เอสอีไอ มิตซูบิชิ เพิ่มสเกิร์ทข้าง และสปอยเลอร์หลัง เพื่อสร้างความแตกต่าง ภายใน กว้าง หรูหรา สบายตา คอนโซลหน้ารูปตัว "ที" (T) ลาดเอียงในแนวตั้งของ แลนเซอร์ ให้มุมมองที่ชัดเจน สวิทช์ควบคุมต่างๆ และที่วางแก้วน้ำ ติดตั้งในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และหรูหรา ด้วยวัสดุอุปกรณ์สีอ่อน ทูโทน แผงคอนโซลตกแต่งลายไม้ดูภูมิฐาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น กระจกไฟฟ้า เซนทรัลลอค วิทยุ/ซีดี/เอมพี 3 และรุ่น 2.0 เอสอีไอ นี้ พร้อมกุญแจรีโมท ไฟอ่านหนังสือ และที่เก็บแว่นตาบนแผงหลังคา เครื่องยนต์ แรงพอตัว แม้ไม่มีเทอร์โบ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว รหัส 4 จี 63 ที่ไม่มีชุดเทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 135 แรงม้า ที่ 5,750 รตน. และแรงบิด 18.0 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ซึ่งถือว่าไม่มากแต่ก็พอตัว และใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่าคู่แข่งที่ใช้ระบบวาล์วแปรผัน เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS II ที่ใช้อยู่ในรถรุ่นนี้ ทำให้ได้ความช่วงต้นจัด และสามารถตอบสนองความเร็วช่วงปลายได้ดีกว่าระบบเกียร์แบบ ซีวีที ซึ่งผู้ขับไม่ต้องใช้ความคุ้นเคย อัตราเร่งที่ตำแหน่งเกียร์ D จาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาใกล้เคียง 11 วินาที ดีเกินคาด และปลายเกิน 170 กม./ชม. ระบบรองรับ กระชับ แน่นแบบสปอร์ท ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ 4 ล้อของ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ เหมือนกันกับรุ่น 1.6 ที่แน่นแบบสปอร์ท ทั้งด้านหน้า/หลัง แต่มีเพียงขนาดของยางและล้อ ที่เปลี่ยนมาใช้ 195/60/15 เกาะถนนมากขึ้น ส่วนเรื่องเบรคนั้น ในรุ่นนี้ เป็นแบบจานทั้ง 4 ล้อ เมื่อใช้ร่วมกับระบบปรับแรงดันน้ำมันเบรค และระบบป้องกันล้อลอคแบบ 3 แชนแนล 4 เซนเซอร์ ทำงานได้ดีในช่วงความเร็ว 80-100 กม./ชม. สรุป 2.0 มีดีที่เครื่องยนต์ รูปโฉมเดิมแต่เพิ่มชุดแต่งอย่างสเกิร์ทข้าง และสปอยเลอร์หลัง ภายในห้องโดยสารหรูหรา แต่สิ่งที่ทำให้รถรุ่นนี้น่าสนใจจริงๆ คือ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รหัส 4 จี 63 และเกียร์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS II ที่ใช้งานง่าย ตอบสนองทันใจ ส่วนสนนราคาของ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ ที่ปรับลดลงมาเหลือเพียง 878,000 บาท ตามภาษีใหม่นั้น นับว่าคุ้ม ข้อมูลจำเพาะ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ ผู้แทนจำหน่าย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2906-8000 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,480/1,695/1,445 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,470/1,470 ฐานล้อ (มม.) 2,600 น้ำหนัก (กก.) 1,240 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50 เครื่องยนต์ ชนิด 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 1,997 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 85.0/88.0 อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 135/6,000 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 18.0/2,750 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 4 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟืองและตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 878,000
ภายนอก หน้าตาหรู สไตล์ใหม่
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกันกับรุ่น 1.6 ที่เน้นจมูกใหญ่ยาวชุดไฟหน้าแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ กันชนหน้าแบบสปอร์ทชิ้นเดียวกับกระจังหน้า เน้นสัญลักษณ์ "สามเพชร" ขนาดใหญ่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถ มิตซูบิชิ รุ่นใหม่ๆ
ด้านหลังกลมกลืน และโค้งมน ดูเรียบง่าย แต่เด่นที่ไฟท้ายสีแดง และเลนส์สะท้อนแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ทรงกลมคู่ ในรุ่น 2.0 เอสอีไอ มิตซูบิชิ เพิ่มสเกิร์ทข้าง และสปอยเลอร์หลัง เพื่อสร้างความแตกต่าง
ภายใน กว้าง หรูหรา สบายตา
คอนโซลหน้ารูปตัว "ที" (T) ลาดเอียงในแนวตั้งของ แลนเซอร์ ให้มุมมองที่ชัดเจน สวิทช์ควบคุมต่างๆ และที่วางแก้วน้ำ ติดตั้งในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และหรูหรา ด้วยวัสดุอุปกรณ์สีอ่อน ทูโทน แผงคอนโซลตกแต่งลายไม้ดูภูมิฐาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น กระจกไฟฟ้า เซนทรัลลอค วิทยุ/ซีดี/เอมพี 3 และรุ่น 2.0 เอสอีไอ นี้ พร้อมกุญแจรีโมท ไฟอ่านหนังสือ และที่เก็บแว่นตาบนแผงหลังคา
เครื่องยนต์ แรงพอตัว แม้ไม่มีเทอร์โบ
แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว รหัส 4 จี 63 ที่ไม่มีชุดเทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 135 แรงม้า ที่ 5,750 รตน. และแรงบิด 18.0 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ซึ่งถือว่าไม่มากแต่ก็พอตัว และใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่าคู่แข่งที่ใช้ระบบวาล์วแปรผัน
เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS II ที่ใช้อยู่ในรถรุ่นนี้ ทำให้ได้ความช่วงต้นจัด และสามารถตอบสนองความเร็วช่วงปลายได้ดีกว่าระบบเกียร์แบบ ซีวีที ซึ่งผู้ขับไม่ต้องใช้ความคุ้นเคย
อัตราเร่งที่ตำแหน่งเกียร์ D จาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาใกล้เคียง 11 วินาที ดีเกินคาดและปลายเกิน 170 กม./ชม.
ระบบรองรับ กระชับ แน่นแบบสปอร์ท
ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ 4 ล้อของ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ เหมือนกันกับรุ่น 1.6 ที่แน่นแบบสปอร์ททั้งด้านหน้า/หลัง แต่มีเพียงขนาดของยางและล้อ ที่เปลี่ยนมาใช้ 195/60/15 เกาะถนนมากขึ้น
ส่วนเรื่องเบรคนั้น ในรุ่นนี้ เป็นแบบจานทั้ง 4 ล้อ เมื่อใช้ร่วมกับระบบปรับแรงดันน้ำมันเบรคและระบบป้องกันล้อลอคแบบ 3 แชนแนล 4 เซนเซอร์ ทำงานได้ดีในช่วงความเร็ว 80-100 กม./ชม.
สรุป 2.0 มีดีที่เครื่องยนต์
รูปโฉมเดิมแต่เพิ่มชุดแต่งอย่างสเกิร์ทข้าง และสปอยเลอร์หลัง ภายในห้องโดยสารหรูหราแต่สิ่งที่ทำให้รถรุ่นนี้น่าสนใจจริงๆ คือ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รหัส 4 จี 63 และเกียร์เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS II ที่ใช้งานง่าย ตอบสนองทันใจ
ส่วนสนนราคาของ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 เอสอีไอ ที่ปรับลดลงมาเหลือเพียง 878,000 บาท ตามภาษีใหม่นั้น นับว่าคุ้ม