ทดลองขับ(formula)
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 ใหม่
ครั้งแรกที่ มิตซูบิชิ นำเอาระบบปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์มาติดตั้งบนพวงมาลัยรถซีดานสายพันธุ์แรงที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย การทดลองขับบนเส้นทางจากกรุงเทพ ฯ - หัวหิน ครั้งนี้ นอกจากเราจะได้สัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงใน มิตซูบิชิ แลนเซอร์ (MITSUBISHI LANCER) 2.0 ใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มสมรรถนะและติดตั้งระบบปรับเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย แล้วยังมีรถ มิตซูบิชิ ปี 2006 ร่วมเดินทางไปด้วย อีก 3 รุ่น คือ สเปศ แวกอน จีที (GT) และ จีแอลเอส (GLS) กับ แลนเซอร์ 1.6 จีแอลเอกซ์ไอ ลิมิเทด (GLXI LIMITED)ครั้งแรกที่ มิตซูบิชิ นำเอาระบบปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์มาติดตั้งบนพวงมาลัยรถซีดานสาย พันธุ์แรงที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย การทดลองขับบนเส้นทางจากกรุงเทพ ฯ - หัวหิน ครั้งนี้ นอกจากเราจะได้สัมผัสกับความเปลี่ยนแปลง ใน มิตซูบิชิ แลนเซอร์ (MITSUBISHI LANCER) 2.0 ใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มสมรรถนะและติด ตั้งระบบปรับเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย แล้วยังมีรถ มิตซูบิชิ ปี 2006 ร่วมเดินทางไปด้วย อีก 3 รุ่น คือ สเปศ แวกอน จีที (GT) และ จีแอลเอส (GLS) กับ แลนเซอร์ 1.6 จีแอลเอกซ์ไอ ลิมิเทด (GLXI LIMITED) ภายนอก ไฟหน้าดำ เข้มกว่าเดิม แลนเซอร์ ใหม่ ยังคงยึดติดกับกระจังหน้าโค้งคู่ตามแบบของ มิตซูบิชิ ซึ่งใช้อยู่ในรถทุกรุ่น ทำให้ช่วง หน้ารถยาวใหญ่ที่สุดในกลุ่มรถระดับเดียวกัน สำหรับ แลนเซอร์ 2.0 ใหม่ ดูโฉบเฉี่ยวกว่ารุ่น 1.6 ด้วยโคมไฟหน้าสีดำเข้ม เสริมบุคลิกสปอร์ท และ ดูดุดันกว่าโคมไฟชุบโครเมียม พร้อมชุดแต่งแอโรพาร์ทรอบคัน สไตล์ เอโวลูชัน ล้ออัลลอยใหม่ 16 นิ้ว 5 ก้าน ดูสมส่วนลงตัวกว่ารุ่นเดิม กันชนหลังขนาดใหญ่ และไฟท้ายแบบเลนส์ใส สไตล์สปอร์ท เน้นไฟเบรคสีแดงสด ให้ดูสะดุด และส ปอยเลอร์หลังแบบยก ช่วยเพิ่มความแตกต่างจากรุ่น 1.6 ภายใน หนังแท้ สไตล์สปอร์ท ห้องโดยสารโทนสีดำ ทั้งคอนโซล แผงข้างประตู เบาะนั่ง และหัวเกียร์บุด้วยหนังสีดำ และตกแต่งแผง ควบคุมด้วยสีเงินไททาเนียม หน้าปัดสีขาว ดูดีสไตล์สปอร์ท พวงมาลัยทรงสปอร์ท 3 ก้าน รุ่นใหม่ แม้ไม่ใช่ โมโม (MOMO) รุ่นยอดนิยม แต่ก็เร้าใจกว่าเดิมด้วย ระบบบวก/ลบตำแหน่งเกียร์บนพวงมาลัย ที่หลายคนเรียกว่า แพดเดล ชิพท์ (PADDLE SHIFT) ทั้งๆ ที่ มันไม่ได้เป็นแผงหลังพวงมาลัย ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติมีบวก/ลบแบบสปอร์ท เครื่องยนต์ รหัสเก่า เพิ่มลูกเล่น แลนเซอร์ 2.0 ยังคงใช้เครื่องยนต์รหัส 4G63 ขนาด 2.0 ลิตร 135 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ อินเวคส์ ทู สปอร์ทรอนิค (INVECS II SPORTRONIC) ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไฟฟ้า ECI (ELECTRONIC CONTROL INJECTION) ควบคุมด้วย คอมพิวเตอร์ ขนาด 32 BIT ให้กำลังอย่างต่อเนื่องทุกจังหวะ รอบเครื่องไม่ตกและแรงบิดคงที่ การ ตอบสนองเร็วขึ้นด้วยการบวก/ลบตำแหน่งเกียร์ บนพวงมาลัย และแรงบิดที่มาตั้งแต่ในรอบต่ำเพียง 2,000 รตน. ระบบรองรับ ขับขี่ อย่างมั่นใจ ช่วงล่างด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังมัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ใน แลนเซอร์ 2.0 ใหม่ แน่นหนึบยิ่งขึ้นเมื่อได้ยางขนาด 195/55/16 ส่วนระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ และระบบ เอบีเอส พร้อมระบบกระจายแรงเบรคแบบอีเลคทรอนิค ยังคงให้ความมั่นใจในการเหมือนเช่นเดิม สรุป พวงมาลัยสปอร์ท น่าใช้ รูปร่างหน้าตาภายนอกเรียบง่ายคล้ายรุ่นเดิม แต่เปลี่ยนไฟหน้าเข้ม ไฟท้ายแบบสปอร์ท ชุดแต่งรอบ คัน ไม่น่าสนใจเท่ากับระบบควบคุมตำแหน่งเกียร์บนพวงมาลัย แต่เมื่อมองภาพรวมยังเป็นคู่แข่งอยู่ ในเรื่องความสดใหม่ แม้จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 900,000 บาท ซึ่งถูกกว่านับแสนบาท ข้อมูลจำเพาะ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 2.0 ผู้จัดจำหน่าย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2908-8000 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,595/1,695/1,445 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,470/1,470 ฐานล้อ (มม.) 2,600 น้ำหนักรถ (กก.) 1,265 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 1,997 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 85.0/88.0 อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 18.2/4,500 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 4 มีบวก/ลบ ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟืองและตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 900,000
ภายนอก ไฟหน้าดำ เข้มกว่าเดิม
แลนเซอร์ ใหม่ ยังคงยึดติดกับกระจังหน้าโค้งคู่ตามแบบของ มิตซูบิชิ ซึ่งใช้อยู่ในรถทุกรุ่น ทำให้ช่วงหน้ารถยาวใหญ่ที่สุดในกลุ่มรถระดับเดียวกัน
สำหรับ แลนเซอร์ 2.0 ใหม่ ดูโฉบเฉี่ยวกว่ารุ่น 1.6 ด้วยโคมไฟหน้าสีดำเข้ม เสริมบุคลิกสปอร์ท และ ดูดุดันกว่าโคมไฟชุบโครเมียม พร้อมชุดแต่งแอโรพาร์ทรอบคัน สไตล์ เอโวลูชัน ล้ออัลลอยใหม่ 16 นิ้ว 5 ก้าน ดูสมส่วนลงตัวกว่ารุ่นเดิม
กันชนหลังขนาดใหญ่ และไฟท้ายแบบเลนส์ใส สไตล์สปอร์ท เน้นไฟเบรคสีแดงสด ให้ดูสะดุด และสปอยเลอร์หลังแบบยก ช่วยเพิ่มความแตกต่างจากรุ่น 1.6
ภายใน หนังแท้ สไตล์สปอร์ท
ห้องโดยสารโทนสีดำ ทั้งคอนโซล แผงข้างประตู เบาะนั่ง และหัวเกียร์บุด้วยหนังสีดำ และตกแต่งแผงควบคุมด้วยสีเงินไททาเนียม หน้าปัดสีขาว ดูดีสไตล์สปอร์ท
พวงมาลัยทรงสปอร์ท 3 ก้าน รุ่นใหม่ แม้ไม่ใช่ โมโม (MOMO) รุ่นยอดนิยม แต่ก็เร้าใจกว่าเดิมด้วย ระบบบวก/ลบตำแหน่งเกียร์บนพวงมาลัย ที่หลายคนเรียกว่า แพดเดล ชิพท์ (PADDLE SHIFT) ทั้งๆที่ มันไม่ได้เป็นแผงหลังพวงมาลัย ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติมีบวก/ลบแบบสปอร์ท
เครื่องยนต์ รหัสเก่า เพิ่มลูกเล่น
แลนเซอร์ 2.0 ยังคงใช้เครื่องยนต์รหัส 4G63 ขนาด 2.0 ลิตร 135 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะอินเวคส์ ทู สปอร์ทรอนิค (INVECS II SPORTRONIC)
ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไฟฟ้า ECI (ELECTRONIC CONTROL INJECTION) ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ขนาด 32 BIT ให้กำลังอย่างต่อเนื่องทุกจังหวะ รอบเครื่องไม่ตกและแรงบิดคงที่ การตอบสนองเร็วขึ้นด้วยการบวก/ลบตำแหน่งเกียร์ บนพวงมาลัย และแรงบิดที่มาตั้งแต่ในรอบต่ำเพียง 2,000 รตน.
ระบบรองรับ ขับขี่ อย่างมั่นใจ
ช่วงล่างด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังมัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ใน แลนเซอร์ 2.0 ใหม่ แน่นหนึบยิ่งขึ้นเมื่อได้ยางขนาด 195/55/16
ส่วนระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ และระบบ เอบีเอส พร้อมระบบกระจายแรงเบรคแบบอีเลคทรอนิคยังคงให้ความมั่นใจในการเหมือนเช่นเดิม
สรุป พวงมาลัยสปอร์ท น่าใช้
รูปร่างหน้าตาภายนอกเรียบง่ายคล้ายรุ่นเดิม แต่เปลี่ยนไฟหน้าเข้ม ไฟท้ายแบบสปอร์ท ชุดแต่งรอบคัน ไม่น่าสนใจเท่ากับระบบควบคุมตำแหน่งเกียร์บนพวงมาลัย แต่เมื่อมองภาพรวมยังเป็นคู่แข่งอยู่ในเรื่องความสดใหม่ แม้จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 900,000 บาท ซึ่งถูกกว่านับแสนบาท