ทดลองขับ(formula)
นิสสัน ฟรอนเทียร์ YD-DI เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์
หลังจาก บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ปล่อยตัวกระบะพันธุ์โหดอย่าง นิสสัน ฟรอนเทียร์เซดดี 30 และ ทีดี 27 มาสร้างความฮือฮาได้ระยะหนึ่ง ให้เป็นที่ถูกอกถูกใจ สิงห์ดีเซลกันถ้วนหน้าและแล้ว ฟรอนเทียร์ เจเนอเรชัน ใหม่ก็คลอดตามออกมาเขย่าวงการด้วยเครื่องยนต์รหัสร้าย YD-DIเทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์หลังจาก บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ปล่อยตัวกระบะพันธุ์โหดอย่าง นิสสัน ฟรอนเทียร์ ZD30 และฟรอนเทียร์ TD27 ออกมาสร้างความฮือฮาได้สักระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจ สิงห์ดีเซลกันถ้วนหน้า และแล้ว นิสสัน ฟรอนเทียร์ เจเนอเรชันใหม่ ก็คลอดตามออกมาเขย่าวงการ ด้วยเครื่องยนต์รหัสร้าย YD-DI เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ภายนอก อนุรักษ์พิมพ์นิยม หน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบสปอร์ทไททาเนียม โคมไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยว และไฟตัดหมอกเล่น แบบโทนใส สไตล์มัลทิรีเฟคเตอร์ เพิ่มทัศนวิสัยยามขับขี่ที่ดีขึ้น เสริมความแข็งแกร่งบึกบึนด้วยการ์ด กันชนหน้าพร้อมลุยเต็มพิกัด และสิ่งที่ทำให้ นิสสัน ฟรอนเทียร์ YD-DI ตัวนี้ดูสปอร์ทขึ้น คงจะอยู่ที่ ฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบช่องดักอากาศเว้าลงล่าง แตกต่างจากสกูพดักอากาศของรถกระบะทั่วไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่อินเตอร์คูเลอร์ให้ระบายความร้อนได้อย่างเต็มที่ ด้านข้างยังคงเอกลักษณ์เหลี่ยมสันความเป็น นิสสัน ฟรอนเทียร์ รุ่นก่อน ครบทุกประการ ด้วยบานประตูขนาดใหญ่ และช่วง CAB ที่กว้างขวางนั่งสบาย กระบะหลังยาวเน้นบรรทุกของตามคอนเซพท์ นิสสัน แต่ถ้าเป็นรุ่น 4 ประตู กระบะก็จะสั้นลง แต่เพิ่มความสะดวกสบายยามขึ้น/ลงของผู้โดยสาร ด้านท้ายเพิ่มลูกเล่นใหม่ ด้วยสีแนวกันชนด้านข้างซ้าย/ขวา เป็นสีเดียวกันกับตัวรถ เพิ่มความกลมกลืน ได้ไม่น้อย แต่มีเฉพาะรุ่น เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์ เท่านั้น ไฟเบรคหลังดวงที่ 3 ร่วมสมัยด้วยหลอด LED เพื่อความปลอดภัยแก่รถตามหลัง ภายใน เพิ่มลูกเล่นใหม่ เน้นหรู ภายในของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ YD-DI นี้ ถ้าเป็นรุ่นทอพอย่าง เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์ เพิ่มความหรูหรา ด้วยเบาะหนังแท้ หัวเกียร์หุ้มหนัง มาพร้อมกับพวงมาลัยทรงสปอร์ท 4 ก้าน ที่มีดีไซจ์นโฉบเฉี่ยวคล้ายๆ กับรถร่วมค่ายอย่าง นิสสัน เอกซ์-ทเรล แต่ยังไม่ลืมเพิ่มความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย (AIR BAG) เพื่อความมั่นใจแก่ผู้ขับขี่ และเป็นการยกมาตรฐานวงการรถกระบะ คอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมแผงลายไม้สีด้าน ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เพิ่มความรื่นรมย์ยามขับขี่ ด้วยเครื่องเสียงวิทยุ/CD/MP3 สวิทช์ควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมใช้งานสะดวก กระจกไฟฟ้ารอบคัน กระจกมองข้างสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง เครื่องยนต์ แรงสุดขั้ว ถึงแม้จะไม่ใช่ระบบหัวฉีด คอมมอนเรล ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เพราะลำพังเครื่องยนต์ ขนาด 2,500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ DOHC ทวินแคม 16 วาล์ว รหัส YD-DI ที่มีแรงม้าติดมาให้ควบ เล่นถึง 129 ตัว ที่ 4,000 รตน. มาพร้อมกล่องสมองกล ECCS ที่ควบคุมการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ให้สัมพันธ์กับปริมาณอากาศ ก็สามารถวิ่งทะลุ 190 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ ซึ่งถือว่าทีมวิศวกรออกแบบมาได้ดี ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ พร้อมเฟืองท้ายอัตราทดใหม่ขนาด 3.90 ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ส่งผลให้อัตราเร่งและการตอบสนองของเครื่องยนต์ลงตัวที่สุด และเมื่อลองทดสอบอัตราเร่งจากเกียร์หนึ่งไปจนถึงเกียร์สุดท้าย ต้องบอกว่าแรงจริงๆ ถ่ายทอดแรงม้าลงพื้นได้ดี การเร่งแซงตอบสนองทันใจ ไม่ต้องเชนจ์เกียร์ต่ำเพื่อเรียกรอบ คงเป็นเพราะการทำงานของเทอร์โบ สัมพันธ์กับเครื่องยนต์ แรงบิดมาเร็วในรอบต่ำ เรียกได้ว่า ดึงหลังติดเบาะทุกเกียร์ ระบบรองรับ แข็งกระด้างเน้นบรรทุก เป็นเอกลักษณ์ไปแล้วสำหรับแชสซีส์เหล็กกล้า ซูเพอร์เฟรม 2 ชั้นของ ฟรอนเทียร์ ด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ ทอร์ชันบาร์ พร้อมชอคอับ และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบเพลาแข็ง พร้อมแหนบและชอคอับ นี่ขนาดทีมวิศวกรลดความแข็งของระบบรองรับลงแล้ว ยังกระด้างจนรู้สึกได้ คงเป็นเพราะออกแบบมา สำหรับบรรทุกของมากกว่านั่งขับเพื่อความสบาย ในย่านความเร็วสูง รถมีอาการร่อนนิดหน่อยพอให้เสียวบ้าง แต่ก็เป็นธรรมชาติของรถกระบะ เพราะ จุดประสงค์หลักคือ ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกของ และใช้ความเร็วที่พอเหมาะ ผู้ใช้ต้องแยกให้ออก ระหว่างรถกระบะ กับรถเอมพีวี ระบบเบรคด้านหน้า มั่นใจด้วยคาลิเพอร์แบบ 2 พอท ทำงานควบคู่กับระบบเอบีเอส จานเบรคหน้า มีช่องระบายความร้อน ด้านหลังระบบดุมเบรคแบบปรับระยะผ้าเบรคอัตโนมัติ พร้อมวาล์วปรับแรงดัน น้ำมันเบรค (LVS) ซึ่งจากการทดลองเกือบทุกสภาพถนนถือว่าทำงานได้อย่างดีเยี่ยม แม้เบรคในระยะ กระชั้นชิด ตัวรถไม่ส่งให้เสียอาการแต่อย่างใด สรุป บวก ลบ คูณ หาร ดูแล้วน่าเป็นเจ้าของสักคัน ถึงแม้ว่ารูปทรงอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนสักเท่าไร แต่ขุมพลังรหัส YD-DI 2,500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ก็ให้อัตราเร่งแซงที่ถือว่าเป็นสุดยอดของเครื่องดีเซล แต่เสียดายมีให้เลือกเล่นแต่ระบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลังเท่านั้น ราคาถือว่าเรียกความสนใจได้ไม่น้อย รุ่น คิง แคบ 2.5 เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์ (เอบีเอส/แอร์แบก) อยู่ที่ 609,500 บาท ส่วนรุ่น ดับเบิล แคบ 2.5 เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์ (เอบีเอส/แอร์แบก) 718,500 บาท ข้อมูลจำเพาะ นิสสัน ซันนี ฟรอนเทียร์ YD-DI 2,500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ผู้แทนจำหน่าย บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด โทร. 0-2215-0830-50 มิติและน้ำหนัก กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 1,690/5,160/1,645 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,395/1,390 ฐานล้อ (มม.) 2,950 น้ำหนัก (กก.) 1,580 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 60 เครื่องยนต์ ชนิด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ความจุ (ซีซี) 2,488 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 89.0x100.0 อัตราส่วนกำลังอัด 18:1 กำลังแรงสุด (แรงม้า/รตน.) 129/4,000 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 294/2,000 ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ปั๊มแรงดันสูง ควบคุมด้วยระบบ ECCS ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ธรรมดา (จังหวะ) 5 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 ล้อหลัง ระบบรองรับ หน้า อิสระ แบบปีกนกคู่ ทอร์ชันบาร์ ชอคอับ และเหล็กกันโคลง หลัง เพลาแข็ง พร้อมแหนบ และชอคอับ ระบบบังคับเลี้ยว ลูกปืนหมุนวนบนร่องเกลียว ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส คาลิเพอร์ 2 พอท หน้า จาน แบบมีช่องระบายความร้อน หลัง ดุม แบบปรับระยะผ้าเบรคอัตโนมัติ ราคา (บาท) 609,500
ภายนอก อนุรักษ์พิมพ์นิยม
หน้ารถ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบสปอร์ทไททาเนียม โคมไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกเล่นแบบโทนใส สไตล์ มัลทิรีเฟลคเตอร์ เพิ่มทัศนวิสัยยามขับขี่ที่ดีขึ้นเสริมความแข็งแกร่งบึกบึนด้วยการ์ดกันชนหน้าพร้อมลุยเต็มพิกัด และสิ่งที่ทำให้ นิสสัน ฟรอนเทียร์ YD-DI ตัวนี้ดูสปอร์ทขึ้นอยู่ที่ ฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบช่องดักอากาศเว้าลงล่างที่แตกต่างจากสกูพดักอากาศของรถกระบะทั่วไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่อินเตอร์คูเลอร์ให้ระบายความร้อนได้อย่างเต็มที่
ด้านข้างยังคงเอกลักษณ์เหลี่ยมสันความเป็น นิสสัน ฟรอนเทียร์ รุ่นก่อนครบทุกประการ ด้วยบานประตูขนาดใหญ่ และช่วง (CAB) ที่กว้างขวางนั่งสบายกระบะหลังยาวเน้นบรรทุกของตามคอนเซพท์ นิสสัน แต่ถ้าเป็นรุ่น 4 ประตู กระบะจะสั้นลงแต่เพิ่มความสะดวกสบายยามขึ้น/ลงของผู้โดยสาร
บั้นท้ายเพิ่มลูกเล่นใหม่ด้วยสีแนวกันชนด้านข้างซ้าย/ขวา สีเดียวกันกับตัวรถเพิ่มความกลมกลืนได้ไม่น้อย แต่มีเฉพาะรุ่น เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์ เท่านั้น ไฟเบรคหลังดวงที่ 3 ร่วมสมัยด้วยหลอด LED เพื่อความปลอดภัยแก่รถตามหลัง
ภายใน เพิ่มลูกเล่นใหม่ เน้นหรู
ภายในของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ YD-DI นี้ ถ้าเป็นรุ่นทอพอย่าง เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์ จะเพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหนังแท้ หัวเกียร์หุ้มหนัง มาพร้อมกับพวงมาลัยทรงสปอร์ท 4 ก้าน ที่มีดีไซจ์นโฉบเฉี่ยวคล้ายๆกับรถร่วมค่ายอย่าง เอกซ์-ทเรล แต่ยังไม่ลืมเพิ่มความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย (AIR BAG) เพื่อความมั่นใจแก่ผู้ขับขี่ และเป็นการยกระดับมาตรฐานวงการรถกระบะ
คอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมแผงลายไม้สีด้าน ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เพิ่มสุนทรียภาพยามขับขี่ด้วยเครื่องเสียงวิทยุ ซีดี เอมพี 3 สวิทช์ควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมใช้งานสะดวก กระจกไฟฟ้ารอบคัน อีกทั้งกระจกมองข้างสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง
เครื่องยนต์ แรงสุดขั้ว
ถึงแม้จะไม่ใช่ระบบหัวฉีด คอมมอนเรล ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เพราะลำพังเครื่องยนต์ ขนาด 2,500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ DOCH ทวินแคม 16 วาล์ว รหัส YD-DI ที่มีม้าติดมาให้ควบเล่นถึง 129 ตัว ที่ 4,000 รตน. พร้อมกล่องสมองกล ECCS ที่ควบคุมการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ให้สัมพันธ์กับปริมาณอากาศ ก็สามารถวิ่งทะลุ 190 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ
ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ พร้อมเฟืองท้ายอัตราทดใหม่ขนาด 3.90 ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ส่งผลให้อัตราเร่งและการตอบสนองของเครื่องยนต์ลงตัวที่สุด และเมื่อลองทดสอบอัตราเร่งจากเกียร์หนึ่งไปจนถึงเกียร์สุดท้าย ต้องบอกว่าแรงจริงๆถ่ายทอดแรงม้าลงพื้นได้ดี
การเร่งแซงตอบสนองทันใจ ไม่ต้องเชนจ์เกียร์ต่ำเพื่อเรียกรอบ คงเป็นเพราะการทำงานของเทอร์โบสัมพันธ์กับเครื่องยนต์ แรงบิดมาเร็วในรอบต่ำ เรียกได้ว่าดึงหลังติดเบาะทุกเกียร์
ระบบรองรับ แข็งกระด้างเน้นบรรทุก
เป็นเอกลักษณ์ไปแล้วสำหรับแชสซีส์เหล็กกล้า ซูเพอร์ เฟรม 2 ชั้น ของ ฟรอนเทียร ด้านหน้าใช้ปีกนกคู่อิสระ ทอร์ชันบาร์ พร้อมชอคอับและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเพลาแข็ง พร้อมแหนบและชอคอับ นี่ขนาดทีมวิศวกรลดความแข็งของระบบรองรับลงแล้ว ยังกระด้างจนรู้สึกได้คงเป็นเพราะออกแบบมาสำหรับบรรทุกของมากกว่านั่งขับเพื่อความสบาย
ในย่านความเร็วสูง รถมีอาการร่อนนิดหน่อยพอให้เสียวบ้าง แต่ก็เป็นธรรมชาติของรถกระบะเพราะจุดประสงค์หลัก คือ ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกของ และใช้ความเร็วที่พอเหมาะผู้ใช้ต้องแยกให้ออกระหว่างรถกระบะกับรถ เอมพีวี
ระบบเบรคด้านหน้ามั่นใจด้วยคาลิเพอร์แบบ 2 พอท ทำงานควบคู่กับระบบ เอบีเอส จานเบรคหน้ามีช่องระบายความร้อนด้านหลังระบบดุมเบรคแบบปรับระยะผ้าเบรคอัตโนมัติพร้อมวาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรค (LVS) ซึ่งจากการทดลองเกือบทุกสภาพถนนถือว่าทำงานได้อย่างดีเยี่ยม แม้ต้องทำการเบรคในระยะกระชั้นชิด ตัวรถไม่ส่งให้เสียอาการแต่อย่างใด
สรุป คุ้มค่า น่าเป็นเจ้าของสักคัน
ถึงแม้ว่ารูปทรงอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนสักเท่าไร แต่ขุมพลังรหัส YD-DI 2,500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ก็ให้อัตราเร่งแซงที่ถือว่าเป็นสุดยอดของเครื่องดีเซล น่าเสียดายตรงที่มีให้เลือกเล่นแต่ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังเท่านั้น ขณะที่ราคาถือว่าเรียก ความสนใจได้ไม่น้อย รุ่น คิง แคบ 2.5 เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์ (ABS/AIRBAG) อยู่ที่ 609,500 บาท ส่วนรุ่น ดับเบิล แคบ 2.5 เอเอกซ์-แอล ซูเพอร์(ABS/AIRBAG) 718,500 บาท