ประสาใจ
สวัสดีปี เมีย
กิรดัง ได้ยินมา ตทากาเล...กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว...ในนครปารีส ยังมีสุภาพบุรุษผู้หนึ่งประสบอุบัติการณ์วิกฤติทางด้านการเงิน ซึ่งในที่สุดก็หันหน้าพึ่งพาการดำเนินการทางธุรกิจเป็นประตูทางออกสุดท้าย
เทพเจ้ายึดมั่นกับหลักการ จะช่วยเหลือมนุษย์เดินดินก็ต่อเมื่อมนุษย์คนนั้นช่วยตนเองแล้ว สุภาพบุรุษเมืองน้ำหอมรายนี้ก็เช่นกัน ที่ดวงตาสวรรค์มองเห็นการดิ้นรนช่วยตนเอง จึงประทานโชคให้
ความมั่นคงทางฐานะคืนมาภายในเวลาไม่นาน และคนเราเมื่อมีทรัพย์สินเงินทอง สังคมก็เปิดประตูต้อนรับ หน้าตาของสุภาพบุรุษกลับมาเป็นไฮโซเหมือนในอดีต
ความกลับกลอกของชีวิต สอนให้เขานึกถึงอนาคตของลูกชายคนเดียวของเขาที่ชื่อ โลดิวีโก และเขาตัดสินใจเด็ดขาดไม่ยอมให้ลูกชายเป็นพ่อค้า ดำเนินรอยตาม จัดการส่งลูกชายไปอยู่ในพระราชวัง ร่วมกับไฮโซหนุ่มคนอื่นๆ เพื่อสิ่งที่ดีงามของชีวิต
ชีวิตในพระราชวังของ โลดิวีโก เห็นแต่ขุนศึก ซึ่งไม่ใช่ "ขุนศึก" ของ "ไม้เมืองเดิม" แต่เป็นขุนศึกทั้งหลายทั้งปวงที่เผด็จศึกแล้วกลับมาสู่เหย้า พร้อมด้วยเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น
เรื่องเอกที่ขุนศึกยกขึ้นมาล่อใจคนฟังก็คือ ความงดงามของผู้หญิงในดินแดนที่ขุนศึกไปเหยียบมา หลายคน หลายเรื่อง หลายผู้หญิง แต่ผู้หญิงซึ่งสวยที่สุดคนเดียว คือ มาดามเบียทริกซ์ แห่งนครโบโลนญา
คนฟังคนเดียวที่ฟังแล้วเป็นไข้ ก็คือ โลดิวีโก เรื่องนี้จะโทษใบหู 2 ข้างของเขาก็ไม่ได้ เห็นทีต้องโทษวัยวุฒิ เนื่องด้วย โลดิวีโก กำลังเป็นหนุ่มแน่นปั๋ง พอได้ยินว่า สตรีที่สวยที่สุดในโลกอยู่ที่โบโลนญา ก็อยากเห็นด้วยตาตนเอง
ไข้จับอยู่ 2-3 วัน โลดิวีโก ก็ออกจากวังเดินทางไปยังเมืองโบโลนญา แจ้งความเท็จแก่บิดาว่า ต้องการเป็นมิชชันนารี ซึ่งบิดาได้ยินว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าซึ่งเคยมีบุญคุณช่วยประทานโชคให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ก็จำต้องอนุญาต
โลดิวีโก รักชื่อเสียงของตนเอง ต้องการไปอย่าง "โนบอดี" จัดการเปลี่ยนชื่อตัวเองใหม่ว่า อันนิชีโน ชายผู้สมถะ
ในที่สุด อันนิชีโน ก็มาถึงเมืองโบโลนญา และในคืนนั้นเองเขาก็ได้พบ มาดามเบียทริกซ์ หล่อนมาปรากฏตัวในงานพาร์ที เมื่อเห็นแล้วก็ยอมรับ ผู้หญิงคนนี้สวยยิ่งกว่าคำพูดจากปากขุนศึกร้อยเท่าพันทวี คืนนั้น เขาระทมด้วยไข้ เป็นทุกข์กิริยาของชายหนุ่ม นอนไม่หลับจนตั้งจิตมั่นว่า ถ้าเขาเอาชนะผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ ชีวิตนี้จะไม่ขอไปจากเมืองโบโลนญาเป็นอันขาด
ทางเดียวที่ โลดิวีโก หรืออันนิชีโน จะได้อยู่ใกล้ชิดนาง ก็ต้องไปอยู่บ้านหลังเดียวกับนาง อันนิชีโน จัดการสละม้าและคนรับใช้ของเขาให้เพื่อนคนหนึ่ง เสร็จแล้วก็เดินเท้าไปที่คฤหาสน์อันใหญ่โตของ เอกาโน ขอทำงานเป็นคนรับใช้
เอกาโน คงไม่มีข้อมูลว่า แรงงานราคาถูกเป็นแรงงานจากเมียนมาร์ เห็นหุ่น อันนิชีโน แล้วก็ยอมรับ ซ้ำยังให้ความไว้วางใจเป็นคนรับใช้ที่สนิทอีกต่างหาก
อันนิชีโน ขอบคุณพระเจ้าทุกคืนก่อนนอน และตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุด จนความไว้วางใจของ เอกาโน เพิ่มระดับอย่างน่าพอใจ
วันหนึ่ง เอกาโน ออกไปล่าเหยี่ยวโดยไม่ได้พา อันนิชีโน ตามไปด้วย ถึงเวลาบ่าย มาดามเบียทริกซ์ ก็เล่นหมากรุกกับ อันนิชีโน อยู่ตามลำพัง
มาดามเบียทริกซ์ คงเป็นผู้หญิงที่สวยอย่างเดียว แต่ไม่มีสัมผัสที่ 6 หารู้ไม่ว่า ฉลามหนุ่มจ้องจะงับ
ส่วนฉลามหนุ่มก็เดินหมากเรียกความพอใจจากนายสาวไม่ขาดระยะ บ่ายวันนี้ก็เหมือนกัน เขาแสร้งทำเป็นเล่นหมากแบบโง่ๆ ทำให้นางตื่นเต้นและสวยยิ่งขึ้น จนได้ที่ดีแล้วฉลามหนุ่มก็แกล้งถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เป็นอะไรหรือ อันนิชีโน ?" มาดามเบียทริกซ์ ถามเมื่อได้ยินเสียงถอนใจ "เป็นเพราะเรารุกหมาก และเจ้าเสียค่าโง่อยู่เสมอ ทำให้เจ้าเจ็บปวดกระนั้นรึ ?"
"คุณนายขอรับ" อันนิชิโน กล่าว "ผมถอนหายใจด้วยเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นขอรับ"
"บอกเรามาสิ เผื่อเราช่วยได้"
"กระผมมิกล้า เกรงคุณนายอารมณ์เสีย และเกรงว่าคุณนายจะนำเหตุอันสำคัญของกระผม ไปบอกเล่าผู้อื่น"
"ไม่...ไม่เลย...เราขอสัญญาว่าจะไม่อารมณ์เสีย" มาดามเบียทริกซ์ เสียงใส "และสัญญาด้วยว่า จะไม่เล่าต่อถึงผู้อื่นอีก เว้นแต่เจ้าอนุญาต"
อันนิชีโน นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วก็เล่าเรื่องจริงให้นางฟัง ว่าเขาคือสุภาพบุรุษผู้มาจากพระราชวังเมืองน้ำหอม ที่มาถึงโบโลนญาก็เพราะได้ยินเรื่องราวจากขุนศึกว่า มาดามเบียทริกซ์ เป็นผู้หญิงสวยที่สุดในโลก เขาเกิดความรักขึ้นมาในทุกขุมขน และเป็นเหตุผลว่า ทำไมจึงมาเป็นทาส
เมื่อเล่าแล้ว อันนิชีโน ก็ขอร้องนาง แม้นนางปฏิเสธความรักของเขาก็ไม่เป็นไร แต่ขอนางอย่านำเรื่องราวอันน่าอดสูนี้ไปเล่าสู่ผู้อื่น และขอให้เขาได้เป็นคนรับใช้ในบ้านหลังนี้ตลอดไป เขาก็จะมีความสุขสุดขั้วแล้วแห่งชีวิตที่เกิดเป็นคน (สัปดน)
มาดามเบียทริกซ์ เป็นผู้หญิงใสซื่อบริสุทธิ์อะไรยังงี้ก็ไม่ทราบ แต่ฟังแล้วก็ถอนหายใจ ยาวหรือสั้นก็พอกันกับเสียงถอนใจของฉลามหนุ่ม
"อันนิชีโน เอย" มาดามพูด "เราเคยถูกหนุ่มสังคมเกี้ยวพาราสีมากหน้า ให้ของขวัญก็แยะ ให้คำมั่นก็มาก แต่จิตใจของเราไม่เคยหวั่นไหว เพิ่งจะเดี๋ยวนี้แหละได้ยินเรื่องที่เจ้าพูด หัวใจเราก็ตกเป็นทาสเจ้าเสียแล้ว เจ้าควรแล้วที่จะได้รับความรักตอบแทนจากเรา"
อันนิชีโน ขอบคุณพระเจ้า มาดามกล่าวความสำคัญต่อไปว่า
"ก่อนสว่างคืนนี้ เวลาเที่ยงคืน จงมาที่ห้องนอนของเรา เราจะไม่ลั่นกลอนห้อง เจ้ารู้ดีไม่ใช่หรือว่าเรานอนข้างไหนของเตียง หากเราหลับไปจงปลุกให้เราตื่น เพื่อให้เจ้าได้ในสิ่งที่ปรารถนา...และเพื่อให้เจ้ามั่นใจ...ว่านี่คือผลไม้ตัวอย่างแห่งความรัก..."
สิ้นคำ นางก็จุมพิตชายหนุ่มแบบสุดเสน่หา...1 ครั้ง
คืนนั้น เวลาเที่ยงคืนช่างล่าช้า ส่วน เอกาโน ไปล่าเหยี่ยวกลับมาก็เหน็ดเหนื่อย กินข้าวกินปลาขึ้นเตียงได้ก็หลับสนิทกรนสบาย
ถึงเวลามิดไนท์เลิฟ ฉลามหนุ่มก็เข้าห้องนอนของ เอกาโน เดินไปข้างเตียงที่ มาดามเบียทริกซ์ นอนอยู่ วางมือไปบนหน้าอกภูเขาไฟของนาง และนางก็ตะปบมือของเขาไว้ เชิงบอกว่าฉันยังไม่หลับค่ะ
จากนั้นนางปลุกสามี "สามีจ๋า" นางเปล่งเสียง "ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้ระหว่างที่คุณกินข้าวเพราะเห็นคุณกำลังเหนื่อยล้า แต่ตอนนี้ฉันจะพูดละ...ไหนลองบอกมาสิ บรรดาคนใช้ของคุณทั้งหมด คุณไว้ใจใครที่สุด ?"
"โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร" เอกาโน บ่น "เธอก็รู้นี่นา ฉันรักและไว้ใจ อันนิชีโน มากที่สุด"
อันนิชีโน ตัวสั่น คิดไม่ถึงว่ามาดามจะปูดเรื่องให้ เอกาโน ฟัง พยายามดึงมือออกแต่ถูกนางจับไว้มั่น
"ตอนแรกฉันก็คิดอย่างคุณ" มาดามบอกสามี "กระทั่งวันนี้ เขาทรยศเรา 2 คนเสียแล้ว คุณรู้ไหมขณะที่คุณออกไปล่าเหยี่ยว เขาเกี้ยวพาราสีฉัน และฉันมีความคิดต้องการให้คุณได้สัมผัสเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จึงแสร้งบอกเขาว่า หลังเวลาเที่ยงคืนจงลงไปพบฉันในสวน...ฉันไม่ออกไปพบเขาแน่ แต่คุณเป็นสามี จงปลอมตัวให้คล้ายฉัน คลุมหน้าไว้ ลงไปในสวนเดี๋ยวนี้ ด้วยแผนการนี้ คุณจะได้รู้เองว่าคำพูดฉันถูกต้องเพียงไร"
"ฉันไปแน่" เอกาโน ร้องเสียงดัง ปลอมตัวเสร็จก็ออกไปจากห้องนอนพร้อมด้วยตะพด
สามีไปแล้ว ที่เหลืออยู่ในห้อง คือ สวรรค์ชั้น 7 ของฉลามหนุ่ม กับมาดามเบียทริกซ์ หลังสงครามกามเทพแล้ว มาดามเบียทริกซ์ หัวใส ก็บอกชายหนุ่ม
"ที่รัก...หาตะพดดีๆ สักอัน ลงไปพบผัวฉันในสวน พูดกับเขาเป็นทำนองว่า คุณต้องการลองใจฉันเท่านั้น แล้วจงหวดเขาด้วยตะพด"
อันนิชีโน ไม่รู้เรียนจบวิชาสาขาอะไร ทำตามที่ มาดามเบียทริกซ์ บอกทุกขั้นตอน หวดตะพดไปที่ เอกาโน พร้อมกับตะเบ็งเสียง
"แหม...นางกากี...นี่เจ้าลงมาเพื่อให้เราทรยศต่อนายของเรากระนั้นรึ ? ผู้หญิงอะไร...แพศยาสิ้นดี..."
โดนหวดหลายยก เอกาโน ทนไม่ไหวกระโจนออกจากพุ่มไม้นัดพบ ขึ้นเรือน เสียง อันนิชีโน ยังตะโกนตาม
"พระเจ้าจะลงโทษแก...พรุ่งนี้ ฉันจะบอกท่าน อีกาโน...เตรียมตัวรับกรรม"
เอกาโน เดินอิดโรยเข้ามาในห้องนอน เมียถามก็เล่าให้ฟัง เมียฟังแล้วถอนใจกับสามี กล่าวว่า
"ขอบคุณสวรรค์ ที่เขาพิสูจน์ข้าด้วยคำพูด และพิสูจน์ท่านด้วยตะพด ความซื่อสัตย์ที่เขาแสดงคืนนี้ คุณควรตกรางวัลเขาบ้างนะ...อีกาโน"
"จริง" เอกาโน คราง "จริงทีเดียว..."
เรื่องราวเป็นดังนี้ เอกาโน จึงมีความสุขเพราะหลงเข้าใจว่า มีเมียแสนซื่อ และมีคนรับใช้อันมีสัจจะ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนสองคนทุกคืน...อันนิชีโน ผู้ซึ่งจะอยู่โบโลนญานานเท่าไรก็ได้ และอีกคน คือ มาดามเบียทริกซ์ ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก...!!!
เรื่องโดย : ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : ประสาใจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/93605