ยุทธศาสตร์ของ โฟล์คสวาเกน ในเอเชีย

ประเทศไทยพลาดโอกาสในการดึง โฟล์คสวาเกน เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย และในที่สุดเราก็ได้พบว่า โฟล์คสวาเกน ตัดสินใจเข้าไปตั้งโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซียแทน   วิธีตัดสินใจของ โฟล์คสวาเกน ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะถือว่าสมเหตุสมผลอย่างยิ่งที่ โฟล์คสวาเกน เลือกตั้งโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยเหตุผลที่ว่าอินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนประชากร 240 ล้านคน ในขณะที่ประชากรไทยมี 80 ล้านคน   ยุทธศาสตร์ของ โฟล์คสวาเกน แจ่มชัดอย่างยิ่ง อินโดนีเซีย กำลังเติบโต ตลาดรถยนต์ย่อมมีขนาดใหญ่ ถ้าติดตามความเคลื่อนไหวของ โฟล์คสวาเกน ก็จะพบว่าบแรนด์เยอรมนีรายนี้ เลือกโฟคัสไปที่ตลาดขนาดใหญ่ยักษ์อย่างประเทศจีน โดยมีการเปิดโรงงานเพิ่มขึ้นถี่ยิบ   เห็นได้ชัดว่าในเมื่อ โฟล์คสวาเกน มีเป้าหมายจะไต่อันดับขึ้นเป็นอันดับ 1 ในโลก ก็ย่อมจะต้องเลือกตลาดที่โตที่สุดอย่างประเทศจีนและประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตลาดเหล่านี้ คือ ตัวเร่งอัตราการเติบโตนั่นเอง   โฟล์คสวาเกน เข้าสู่ตลาดจีนก่อน โตโยตา เปรียบเสมือนการสร้างพื้นฐานไว้ดี เมื่อ 20 ปีก่อน ประเทศจีนยังไม่มีวี่แววว่าจะกลายเป็นตลาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แต่เมื่อ ณ วันนี้ประเทศจีนกลับกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนั่นย่อมเป็นโอกาสของผู้ที่เข้าตลาดนี้ได้ก่อนอย่าง โฟล์คสวาเกน   ทำไปทำมาในปัจจุบันนี้ จีนกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ โฟล์คสวาเกน ไปแล้ว ซึ่งใหญ่กว่าตลาดยุโรป และสหรัฐอเมริกา   โฟล์คสวาเกน เปิดโรงงานใหม่ในประเทศจีน ที่เมืองเทียนสิน พร้อมกันกับเปิดโรงงานแห่งแรกในประเทศอินโดนีเซีย   โรงงานที่เทียนสิน จะเป็นโรงงานผลิตระบบส่งกำลัง ซึ่งจะมีกำลังการผลิต 450,000 ชิ้น/ปี จะสร้างงานให้ชาวจีน 1,500 คน ใช้เงินลงทุน 230 ล้านยูโร และจะพร้อมผลิตในปลายปี 2557 เมืองเทียนสิน แห่งนี้เป็นเมืองใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งของจีน โดยอยู่ห่างจากปักกิ่ง 150 กิโลเมตร   การเปิดโรงงานแห่งใหม่ ทำให้ความใกล้ชิดระหว่าง โฟล์คสวาเกน กับประเทศจีน แนบแน่นยิ่งขึ้น และ โฟล์คสวาเกน ก็ลงทุนในโรงงานด้วยมาตรฐานที่สูงเยี่ยม รวมทั้งเน้นเรื่องประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร และการดูแลสิ่งแวดล้อม   สิ่งที่น่าสนใจสำหรับโรงงานที่เทียนสิน คือ โฟล์คสวาเกน ได้จับมือกับโรงเรียนอาชีวะที่ดีที่สุดในประเทศจีนหลายแห่ง และเปิดศูนย์สมรรถนะสำหรับเทคโนโลยีเครื่องมือ เพื่อฝึกอบรมครู ให้ทันกับความต้องการ บุคลากรผู้มีทักษะ และความชำนาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นแผนงานระยะปานกลาง การฝึกอบรมจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่ใช้ในประเทศเยอรมนี   สถิติการขายของรถยนต์ โฟล์คสวาเกน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว โฟล์คสวาเกน ได้ส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าชาวจีนถึง 2.26 ล้านคัน และใน 7 เดือนแรกของปีนี้ ได้ส่งมอบรถไปแล้ว 1.51 ล้านคัน   สำหรับประเทศอินโดนีเซีย โฟล์คสวาเกน เปิดโรงงานผลิต อีโคคาร์ ซึ่งได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีมากมาย โรงงานแห่งนี้อยู่ทางตะวันตกของเกาะชวา เป็นโรงงานที่ครบวงจร โดยการปรับปรุงจากโรงงานเดิมที่เคยร่วมทุนกับกลุ่มอินโดโมบิล ซึ่งผลิตรถยนต์กึ่งนอคดาวน์ของรถทรานสปอร์เตอร์และมีนีแวน   ปลายปีนี้จะมีการแถลงข่าว และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดีคาดว่าเงินลงทุนจะอยู่ในระดับ 200 ล้านยูโร ก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเกน ได้ทำการวิจัยตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค คู่แข่ง การกำหนดราคาที่เหมาะสม และมั่นใจว่าพร้อมแล้วที่จะลงสนามแข่งในประเทศอินโดนีเซีย   นอกจากนี้ยังเป็นที่คาดกันว่า โฟล์คสวาเกน จะเข้าร่วมกับโครงการรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล ได้แก่ โครงการรถไฮบริด ที่รัฐบาลได้กำหนดให้รถที่มีอัตราการปล่อยมลพิษต่ำ จะได้รับการลดภาษีอยู่ระหว่าง 25-50 เปอร์เซนต์   ว่ากันว่าความฝันของ โฟล์คสวาเกน ที่จะเป็นอันดับ 1 ในโลกจะเป็นความจริงไปไม่ได้ หากมองข้ามอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโต และความจริงอีกประการหนึ่ง คือ ภูมิภาคนี้เป็นอาณาจักรของ โตโยตา เมื่อ โฟล์คสวาเกน ครองตลาดในจีนได้แล้ว ที่เหลือ คือ อาเซียน โฟล์คสวาเกน จึงจำเป็นต้องใช้รถราคาประหยัดที่ขายในปริมาณมากมาสู้กับรถจากค่ายญี่ปุ่น   ขณะนี้ในอาเซียน โฟล์คสวาเกน มีโรงงานผลิตในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่น ในอีก 5 ปีข้างหน้า โฟล์คสวาเกน ตั้งเป้าการขายไว้ที่ 10 ล้านคัน และขณะนี้แยอดขายของ โฟล์คสวาเกน เป็นอันดับ 3 ด้วยยอดขาย 9.07 ล้านคัน รองจากอันดับ 2 คือ ค่ายจีเอม ที่มียอดขาย 9.29 ล้านคัน และอันดับ 1 คือ ค่ายญี่ปุ่น ที่มียอดขาย 9.75 ล้านคัน   เรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว