ลับเฉพาะ
เจาะลึกเดโมคาร์ GOLDENKEY
ช่วงนี้คิวนัดหมายกลุ่มร้านติดตั้ง และศูนย์จำหน่ายติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ต่างๆ เริ่มทยอยโทรประสานงาน เพื่อขอเข้ามาทำการตรวจวัดมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อดใจรอและใจเย็นๆ สักนิดนะครับ ทีมงานเต็มใจทำให้อย่างแน่นอน ฉบับนี้ขอนำรถจากร้านดังย่านรามอินทรา คือ GOLDENKEY มืออาชีพ และฝีมือโด่งดังขึ้นชื่อมากๆ ในการจัดวางระบบ MULTIMEDIA และ AV SYSTEM และครั้งนี้จัดรถมาให้ทดสอบตรวจวัดหาค่าในรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอส 350 คันนี้
ผมเชื่อเลยว่า ถ้าเจ้าของรถทั้งหลายลองขับเข้าไปร้านเครื่องเสียงทั่วไป แล้วแจ้งความประสงค์ว่าจะติดตั้งจัดวางระบบเครื่องเสียงแบบที่กล่าวมา รับรองว่าแต่ละรายต้องส่ายหัว บอกว่าทำไม่ได้ และไม่กล้าทำแน่นอนครับ เพราะต้องร้านติดตั้งฝีมือขั้นเทพจริงๆ ที่รู้ลึกถึงระบบนี้เท่านั้น ถึงจะกล้าแตะต้อง ซึ่งฝีมือผลงานระดับ GOLDENKEY แล้วสบายใจได้เลยว่า ไม่เหลือบ่ากว่าแรงครับ เพราะที่นี่ชำนาญเรื่องระบบภาพและเสียงมาตลอด
ความอลังการสุดๆ ในแง่ของผลงานติดตั้งจัดวางระบบเครื่องเสียงรถยนต์ ความประณีต เรียบเนียน สวยงาม พร้อมโดดเด่น
ถือว่าทุกตำแหน่งลงตัวสุดๆ
เจ้าของรถกำชับว่า การติดตั้งนั้นต้องเรียบๆ ดูให้เหมือนรูปแบบเดิมๆ ว่ายังไม่ได้แต่ง แต่เสียงระดับเทพ นะครับ นี่คือ โจทย์ที่ทาง GOLDENKEY ได้รับมา เมื่อจัดการจนเสร็จสมบูรณ์ อย่างที่ท่านเห็นในภาพ ด้วยความประณีตเรียบเนียนของผลงาน ที่เน้นการใช้อุปกรณ์หลักเดิมจากโรงงาน ได้คุณภาพและประสิทธิภาพเสียงมากที่สุดเป็นหลัก ดังนั้นบริเวณแผงด้านหน้า จึงเป็นของเดิมแทบทั้งสิ้น จะเห็นแต่หน้าปัดควบคุมเล็กๆ ที่ใช้พโรเซสเซอร์ซ่อนไว้ด้านหน้านิดเดียวของ AUDISON BIT ONE เป็นอุปกรณ์ประมวลผล และปรับแต่งเสียงทั้งระบบอย่างอัจฉริยะ ในที่นี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของระบบนี้เลยครับ
ส่วนด้านหลังจะเห็นเพาเวอร์แอมพ์ตัวเล็กๆ จากค่าย ARC AUDIO รุ่น KARKAR 4100 จำนวน 2 เครื่อง บรรจุอยู่ด้านท้ายพร้อมซับวูเฟอร์ 10 นิ้ว อีก 1 ตัว ในแผงด้านท้ายได้อย่างเรียบเนียน พร้อมลำโพงชุดหน้าและหลังแบบแยกชิ้น 2 ทาง จาก HERTZ HSK165XL ใส่ที่ช่องเดิมของรถ จัดระบบง่ายๆ แต่มีความซับซ้อนมากพอสมควรในการติดตั้งครับ
ทดสอบเสียง ด้วยเครื่องมือในห้อง CAR STEREO TEST LABS
จากการวัดด้วยเครื่องมือ AUDIO SCOPE ในห้องทดสอบเสียงของเรานั้น เริ่มด้วยการนำรถเข้าจอดภายในห้องที่ควมคุมเสียงและควบคุมเสียงสะท้อนภายนอกรถ เงียบ และต่ำที่สุด เพื่อการฟังและการวัดผลที่มีประสิทธิภาพภายในห้องโดยสารจริง อีกทั้งทีมงานมีชุดเครื่องเสียงอ้างอิงเป็นชุดเครื่องเสียงบ้าน ระดับราคาราวๆ 2.5 แสนบาท ตามขั้นตอนมาตรฐานของทีมงานที่ยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอด เมื่อนำรถเข้าจอด ทำการต่อชุดท่อไอเสียไปยังช่องระบายเสียงที่ทำขึ้นพิเศษ ติดตั้งเครื่องมือวัดที่ตำแหน่งคนขับ เสร็จแล้วสตาร์ทรถเพื่อวอร์มอัพระบบเสียงให้เข้าที่ก่อนสัก 15 นาทีตามขั้นตอน
เมื่อพร้อมทีมงานนำแผ่น CD ทั้ง PINK NOISE และ WHITE NOISE นำไปเปิดในระบบ แล้ววัดหาค่าความถี่ตอบสนองภายในรถว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะเห็นได้จากกราฟค่าความถี่ตอบสนองภายในรถได้ชัดเจน ผลที่ได้ รถคันนี้ปรับทูนเสียงมาเพื่อการฟังเพลงแบบสนุกสนานเพลิดเพลินครับ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากรถคันก่อนหน้านี้ ที่นำมาทดสอบ และทำเพื่อตอบสนองกับลักษณะการฟังของเจ้าของรถโดยเฉพาะ ไม่ได้เน้นปรับแต่งเพื่อเอาไปแข่งขัน ทั้งในแง่ของความต่อเนื่องของช่วงความถี่ตลอดทั้งย่าน ทำได้ดีน่าประทับใจ จะมีจุดที่ทางทีมงานสังเกตได้ คือ ย่านช่วงค่าความถี่ราวๆ 300-400 HZ นั้น จะมีระดับความดังที่สูงขึ้นเล็กน้อยกับช่วงเสียงย่าน 2.5 KHZ ที่เป็นหลุมลงเล็กน้อย แสดงว่าน่าจะมีการตั้งใจให้ย่านเสียงร้องต่ำ ออกแนวเนื้อหนาๆ อุ่นๆ จากด้านเทคนิคที่ทีมงานเห็นจากกราฟ ทำให้คาดเดาได้ว่า ระบบนี้ เป็นระบบที่เจ้าของรถให้ปรับแต่งให้เข้ากันกับแนวการฟังเพลงของเขาเรียบร้อยแล้ว
ระบบเสียงแบบนี้สามารถใช้ฟังประจำวันได้ดีครับ ส่วนย่านเสียงเบสส์ หรือความถี่ต่ำนั้น จะเห็นได้ว่า มีการยกเพื่อชดเชยระดับเสียงของเครื่องยนต์ด้วยเป็นที่เรียบร้อยราวๆ 6 DB เฉพาะแถวๆ 20-60 HZ เป้าหมายใช้ฟังในขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ครบทุกย่านความถี่เสียง
ทดสอบการฟังในรูปแบบของการแข่งขัน
โดย อาจารย์ วิชัย รุ่งเรืองโรจน์ และ อาจารย์ ภควัต เลาหวิโรจน์
อ. ภควัต เลาหวิโรจน์
(ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งเสียงและหัวหน้าผู้ตัดสินงานแข่งขันระดับโลก) แต่ละหัวข้อคะแนนเต็ม 20 คะแนน ด้านคุณภาพเสียงจากการฟังขอแยกเป็น 3 ส่วนหลัก สิ่งแรกเริ่มที่ 1. น้ำเสียง ระบบเสียงของรถคันนี้ ถือว่ามีความน่าฟัง รื่นหู 15 คะแนน ส่วนที่ 2 ในแง่ของความสมจริง 15 คะแนน ส่วนเรื่องความชัดเจนในรายละเอียดเสียงเป็นส่วนที่ 3 ได้ 19 คะแนนเลยครับ เรานำคะแนนทั้ง 3 ข้อนี้ มารวมกันหาค่าเฉลี่ย ออกมาเป็นคะแนนในส่วนของคุณภาพเสียงจากการฟังครับ ได้ 17 คะแนน ต่อมาสิ่งที่ดูจะโดดเด่นที่สุดของระบบเสียงที่เล่นแบบ FULLY ACTIVE TRI AMP SYSTEM คือ ความแม่นยำด้านเวทีเสียง และขนาดของชิ้นดนตรี ที่ผมให้ 19 คะแนน เนื่องจากการปรับทูนฟังได้หลายตำแหน่ง ไม่เหมือนรถที่ทูนเพื่อการแข่งขัน ที่ฟังได้ดีเพียงแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้นครับ
อ. วิชัย รุ่งเรืองโรจน์
(ผู้เชี่ยวชาญและให้คำปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงและผู้ตัดสินงานแข่งขันระดับโลก) แต่ละหัวข้อคะแนนเต็ม 20 คะแนน น้ำเสียง ทั้งความสมจริง อยู่ที่ระดับน่าประทับใจ แต่การปรับทูนเสียงออกจะแนวเจ้าเนื้อแบบเครื่องเสียงบ้าน เหมาะกับการฟังเพื่อความเพลิดเพลินส่วนตัว แบบเน้นๆ ฟังดูก็รู้ว่าคนวางระบบรถคันนี้ ต้องมืออาชีพ ผมให้ 16 คะแนน ในแง่น้ำเสียง ส่วนด้านความสมจริงให้ 15 คะแนน สุดท้ายเรื่องของความชัดเจนในรายละเอียดผมให้ 20 คะแนนไปเลย ส่วนเรื่องแง่มุมของการติดตั้ง คันนี้ออกแนวเรียบร้อยเหมือนมาจากโรงงาน เป็นรถที่ใช้งานประจำวัน แล้วเสียงดีด้วย แบบนี้คนฟังคงเพลิดเพลินมีความสุข"
[table]
สรุป
ชุดเครื่องเสียงใน เมร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอส 350 โดย GOLDENKEY คะแนนเต็ม 100 คะแนน
การออกแบบงานติดตั้ง, 18
รายละเอียดงานฝีมือการติดตั้ง, 20
คุณภาพเสียงจากเครื่องมือวัด, 15
คุณภาพเสียงจากการฟัง, 17
ความสมบูรณ์ของเวทีเสียงด้านหน้า ,19
รวม 89 คะแนน
[/table]
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : ลับเฉพาะ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/92610