X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
โลกติดล้อ
1 Oct 2013
ตลาดรถอินเดียปีนี้ไม่สดใส
อินเดียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เศรษฐกิจลุ่มๆ ดอนๆ ก่อนหน้านี้อินเดียเกาะติดจีน การเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเอเชีย ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นที่จับตามอง แต่ดูเหมือนว่าในปีที่ผ่านมาและครึ่งปีแรกของปีนี้ เศรษฐกิจอินเดียกลับไม่สดใสเท่าที่ควร เข้าใจว่าหลายสาเหตุ อาทิ กฎหมายแรงงาน นโยบายรัฐบาล ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนที่ทำให้สังคมไม่สามารถก้าวไปด้วยกัน การแก้ปัญหาสังคมของอินเดียก็เป็นเรื่องยากเย็น เนื่องจากปัญหาชนชั้นวรรณะเก่าๆ ในขณะที่ประเทศจีนก้าวไปอย่างมั่นคง จีนยุคใหม่ตระหนักว่าแนวคิดแบบ "ขงจื๊อ" ไม่เอื้อต่อความเจริญทางเศรษฐกิจ จึงปรับความคิดให้เป็นไปแบบโลกตะวันตก เราจะเห็นสังคมจีนเป็นแบบเสรีนิยม (LIBERAL) มากขึ้น ส่วนทางอินเดียนั้น คนที่รวยก็ร่ำรวยมหาศาล คนจนก็ไม่เปลี่ยนสถานะ และด้อยการศึกษา ตัวเลขเศรษฐกิจของอินเดียมีระดับต่ำลง ส่วนหนึ่งมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเห็นได้ชัดจากยอดขายรถยนต์ ในปี 2555 ยอดขายรถยนต์ผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะลดลงถึง 7 % และในครึ่งแรกของปีนี้ ก็ยิ่งลดต่ำลงอีก ปี 2553-2554 ยอดขายรถยนต์ในอินเดียเติบโตถึง 30 % แล้วจู่ๆ ก็ลดลงไป 7 % ในปี 2555 มันเกิดอะไรขึ้น ตลาดรถอินเดียไม่เคยย่ำแย่ขนาดนี้ ในอดีตอินเดียอยู่ในอันดับที่ 6 ของโลก สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์นั่ง และรถเพื่อการพาณิชย์ โดยที่มียอดผลิตเมื่อปี 2554 มากกว่า 3.9 ล้านคัน แซงหน้าบราซิล และแซงหน้าประเทศที่เคยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกอย่าง เบลเยียม อังกฤษ อิตาลี แคนาดา เมกซิโก รัสเซีย สเปน และ ฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 2552 อินเดียได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกรถยนต์นั่งอันดับ 4 ของทวีปเอเชีย ตามหลังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศไทย ต่อมาในปี 2553 อินเดียแซงหน้าไทยขึ้นอันดับ 3 ของผู้ผลิตรถยนต์นั่งในทวีปเอเชีย ที่ตลก คือ อินเดียขนานนามเมืองเชนไน ซึ่งเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ว่า ดีทรอยท์แห่งเอเชีย มาถึงวันนี้ ทั้งไทยและอินเดียก็คงไม่อยากเรียกตัวเองว่า ดีทรอยท์แห่งเอเชียกันแล้ว หลังจากที่ดีทรอยท์ล่มสลาย ตัวเลขในปี 2553 ระบุว่าอินเดียมีรถยนต์ทั้งสิ้น 40 ล้านคัน ในปีนั้นยอดผลิตรถยนต์เท่ากับ 3.7 ล้านคัน ทำให้อินเดียเป็นตลาดยานยนต์ที่มีการเติบโตรวดเร็วเป็นอับดับ 2 รองจากจีน แต่ในปีที่แล้วและปีนี้ ยอดผลิตรถยนต์คาดว่าจะลดลงมาเหลือ 3.23 ล้านคัน ยอดขายในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีที่แล้วลดลง 9 % ยอดขายรถยนต์มีเพียง 183,468 คัน สาเหตุของยอดขายตกลงนี้มีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การที่ธนาคารกองทุนแห่งอินเดียได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากค่าเงินรูปีที่อ่อนค่าลงในรอบหลายปีที่ผ่านมา และการที่รัฐบาลอินเดียยกเลิกกองทุนสนับสนุนน้ำมันดีเซล อินเดีย เคยเป็นตลาดรถยนต์ที่เติบโตในอัตราที่รวดเร็วเช่นเดียวกับจีน แต่ทั้ง 2 ตลาดก็มีการเติบโตที่ไม่แท้จริง เนื่องจากเจ้าของรถยนต์มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงของน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลอุดหนุนอยู่ ทันทีที่รัฐบาลเลิกอุดหนุน ตลาดจึงตกฮวบนับเป็นการตกที่มากที่สุดในรอบ 16 ปีที่ผ่านมา [table] COMPANY,MAY 2012,MAY 2013 ,% CHANGE,2012 SHARE,2013 SHARE MARUTI SUZUKI,89478,77821,-13.0,44.4,42.4 HYUNDAI MOTORS INDIA,32010,32102,0.3,15.9,17.5 TATA MOTORS,20503,11134,-45.7,10.2,6.1 MAHINDRA & MAHINDRA,21154,22244,5.2,10.5,12.1 TOYOTA KIRLOSKAR,15501,10023,-35.3,7.7,5.5 GENERAL MOTORS,6079,8500,39.8,3.0,4.6 FORD INDIA,6036,4002,-33.7,3.0,2.2 RENAULT INDIA,438,6300,1338.4,0.2,3.4 HONDA CARS INDIA,10334,11342,9.8,5.1,6.2 TOTAL,201533,183468,-9.0 [/table] อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ธนาคารกองทุนแห่งอินเดีย (RESERVE BANK OF INDIA) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมาก ก็เป็นที่คาดหวังกันว่า สิ้นปีนี้ยอดขายรถยนต์จะกระเตื้องขึ้น เพราะ 80 % ของรถยนต์ในอินเดียมีบริษัทไฟแนนศ์ให้การสนับสนุน ดังนั้นการลดอัตราดอกเบี้ย น่าจะทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น และคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 3-5 % ภายในปีงบประมาณ 2556 ที่จะสิ้นสุดในเดือน มีนาคม 2557 อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลอินเดียยกเลิกกองทุนสนับสนุนน้ำมันดีเซล กับการลดอัตราดอกเบี้ยก็ยังเป็น 2 ปัจจัย ที่ดึงกันไปดึงกันมาว่าจะทำให้ตลาดรถยนต์อินเดียกระเตื้องขึ้นแค่ไหนเพียงไรในอีก 12 เดือน ข้างหน้า
อ่านต่อ
เรื่องโดย : เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/92587
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
โลกติดล้อ
โลกติดล้อ
29 Mar 2018
รถครอบครัว
โลกติดล้อ
7 Mar 2018
จีพลุยน้ำ
โลกติดล้อ
30 Jan 2018
รถ เวสปา อีกหนึ่งดีไซจ์นจากอิตาลี
โลกติดล้อ
9 Jan 2018
พิพิธภัณฑ์รถยนต์ที่ยุโรป
โลกติดล้อ
1 Dec 2017
WOW...นี่แหละรถคนรวยจริง
โลกติดล้อ
1 Nov 2017
รถไฟสายทรานส์-ไซบีเรียน
โลกติดล้อ
1 Oct 2017
ผู้ชายเบื้องหลัง งานดีไซจ์นของ ฟอร์ด
ดูต่อในคอลัมน์ โลกติดล้อ