X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
DIY...คุณทำเองได้
1 Oct 2013
ทำความสะอาดภายใน
ย่างเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้ว คนรักรถที่รักความสะอาด แค่ภายนอกรถอย่างเดียวคงไม่พอ ภายในต้องสะอาดชวนมองด้วย DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ เสนอวิธีทำความสะอาดภายในรถยนต์แบบง่ายๆ มาให้ลอง
ทำไมต้องทำความสะอาด ?
ชีวิตคนเมืองสมัยนี้ มีแต่ความเร่งรีบ ทำให้ไม่มีเวลาสนใจดูแลความสะอาดภายในรถ แถมถ้ามีลูกเล็กๆ ห้องโดยสารก็ต้องรองรับน้ำ ขนม ข้าว ฯลฯ เพิ่มขึ้นอีก ซ้ำร้ายอากาศภายในรถยังหมุนวนอยู่กับที่ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเป็นระบบปิด เลยทำให้เบาะและพรมของรถ กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และเชื้อรา พร้อมกลิ่นไม่พึงประสงค์ ก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจต่างๆ วิธีง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงเชื้อโรคเหล่านี้ คือ หมั่นดูแลทำความสะอาดภายในรถอยู่เสมอ
เชื้อโรคจากฝุ่น
มีการวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรค ที่มาจากฝุ่นละอองในรถยนต์ ที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นเวลานานหลายปี พบเชื้อแบคทีเรีย 18 ชนิด เชื้อรา และอื่นๆ อีก 20 ชนิด เชื้อแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดอันตราย เช่น CRYPTOCOCCOSIS NEOFORMANS เมื่อสะสมในร่างกายจะก่อให้เกิดโรคปอด หากเข้าสู่กระแสโลหิต จะมีผลต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ระบบประสาท กระดูก และข้อ รวมถึงบริเวณผิวหนังและเยื่อบุด้วย นอกจากนั้น ยังมีแบคทีเรีย ALCALIGENES SP ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในเลือด ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ และระบบทางเดินปัสสาวะ ส่วนเชื้อ E COLI ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วง ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ไส้ติ่งอักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ แผลติดเชื้อ และโลหิตติดเชื้อ ส่วนเชื้อ PSEUDOMONAS AERUGINOSA ซึ่งเป็นเชื้อประเภทฉวยโอกาส จะทำให้เกิดโรคระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ โลหิตเป็นพิษ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบ หนองฝีต่างๆ และโรคตาอักเสบ เป็นต้น
การทำความสะอาดพรม
พรมในรถยนต์ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยปกปิดความแข็งกระด้างของโลหะตัวถังพื้นรถเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลจากการสัมผัส ทำหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันความร้อนจากเครื่องยนต์ และผิวถนนที่ถูกแสงแดดเผาในเวลากลางวัน เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสารให้คงที่ และยังช่วยซับเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย ถ้าพรมเปียก ให้ใช้ผ้าแห้งซับน้ำให้มากที่สุด แล้วนำรถไปจอดไว้กลางแดด โดยเปิดกระจกทิ้งไว้ ความร้อนจะช่วยทำให้พรมแห้งและระบายกลิ่นด้วย ถ้าหมากฝรั่งติดบนพรม ให้ใช้ก้อนน้ำแข็งประคบที่หมากฝรั่งจนแข็งตัว จากนั้นใช้ช้อนขูดออก จะทำให้หมากฝรั่งหลุดออกได้ง่ายขึ้น และควรทำความสะอาดพรมอยู่เสมอๆ [table]
เคล็ดลับขจัดคราบ โดยไม่ใช้สารเคมี
การดูดกลิ่น ให้ใช้ผงฟู หรือแป้งข้าวโพด โรยบนเบาะหรือพรม ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก แต่ถ้ากลิ่นติดแน่น ให้โรยทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วจึงดูดออก การขจัดคราบเลือด ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเช็ดเบาๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดคราบเหนียวเหนอะหนะ ใช้ผงฟูทาทับรอยเปื้อน แล้วใช้มือถูเบาๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเช็ดออก ทาซ้ำอีกถ้ารอยเปื้อนยังไม่หมด คราบไขมัน ใช้แป้งข้าวโพดทาทับรอยเปื้อน ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดออก คราบเขม่าหรือเถ้าถ่าน ให้ใช้เกลือทาทับบางๆ แล้วเช็ดออก คราบปัสสาวะเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง เช็ดด้วยน้ำธรรมดา 1 ครั้ง จากนั้นใช้น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับสบู่เหลว 1 ช้อนชา ถูบริเวณรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 15 นาที จึงเช็ดออก [/table]
อุปกรณ์
1. ก้านสำลีทำความสะอาด 2. น้ำยาบำรุงรักษาเครื่องหนัง 3. น้ำยาทำควาสะอาดพรม 4. ผ้าสะอาด 5. แปรงขนอ่อน 6. สายดูดฝุ่น (เครื่องดูดฝุ่น)
ขั้นตอนการทำความสะอาดภายในรถ
1. เลื่อนเบาะนั่งตอนหน้าไปข้างหลังจนสุด เพื่อให้ง่ายต่อการเอาถาดยางออก 2. นำถาดยางรองพื้นออกมา เทเศษฝุ่นดินที่เกาะอยู่ทิ้ง 3. เก็บเศษขยะ และสิ่งของต่างๆ ออกให้หมด 4. ใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่บนพรม และพื้นที่อับ 5. นำกระป๋องน้ำออกมา แล้วใส่น้ำสะอาด พอประมาณ 6. นำผ้าสะอาดชุบน้ำ แล้วบิดน้ำออกพอหมาดๆ 7. เช็ดบริเวณที่เป็นชิ้นส่วนพลาสติค ตั้งแต่คอนโซล ประตู ฯลฯ 8. นำก้านสำลีชุบด้วยน้ำสะอาด เช็ดบริเวณที่เป็นจุดอับต่างๆ ที่เช็ดด้วยผ้าไม่ถึง 9. ใช้น้ำยาบำรุงรักษาเครื่องหนัง เช็ดบริเวณที่เป็นหนังและพลาสติคให้ทั่ว 10. ฉีดน้ำยาทำความสะอาดพรม ลงบนพรมให้ทั่ว (พอหมาด) 11. นำแปรงขนอ่อนขัดเบาๆ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด ซับน้ำยาออกให้หมด 12. ทำความสะอาดถาดยางรองพื้นด้วยแปรง หรือเช็ดด้วยผ้า แล้วใส่คืนให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : ราชวัตร แสงจันทรา
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/92326
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
DIY...คุณทำเองได้
DIY...คุณทำเองได้
21 Jun 2023
ทำความสะอาดเบาะผ้า ด้วยเครื่องมือยุคใหม่
DIY...คุณทำเองได้
22 Mar 2023
ชาร์จรถไฟฟ้าแบบฉุกเฉิน ด้วยปลั๊กไฟบ้าน
DIY...คุณทำเองได้
17 Nov 2022
อบโอโซน ห้องโดยสารด้วยงบ 400 บาท
DIY...คุณทำเองได้
21 Oct 2022
ขัดคราบโคมเหลือง ให้ขาวสดใส
DIY...คุณทำเองได้
21 May 2022
ล้างเคลือบรถ ทำเองได้ ประหยัดด้วย
ดูต่อในคอลัมน์ DIY...คุณทำเองได้