X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เทคนิค(car)
1 Aug 2013
UP GRADE เครื่องเสียง
จากผลตอบรับของผู้ใช้รถในเมืองไทยจำนวนมาก ที่หันมาสนใจรถประเภท ECO CAR ซึ่งเป็นรถที่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ราคาสมเหตุผล สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว ตามสภาพการจราจรที่แออัด และนอกจากนี้ยังประหยัดเชื้อเพลิง ประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่นับวันจะทวีเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีคำถามคาใจคนรักเครื่องเสียงเกี่ยวกับเครื่องเสียงรถยนต์ของบรรดาผู้ใช้ ECO CAR ที่ต้องการ UP GRADE ระบบเสียงเดิม OEM ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ควรเริ่มต้นอย่างไรดี หรือถ้าต้องการชุดเครื่องเสียงที่ราคาแพงกว่าของเดิม และให้มีคุณภาพสูงขึ้น
อันดับแรก
ถ้าต้องการเปลี่ยนลำโพงเดิมจากโรงงาน ในกรณีที่ฟังแล้วยังไม่ถูกอกถูกใจ ทีมงาน ฯ แนะนำให้เปลี่ยนลำโพงให้มีคุณภาพสูงกว่าของเดิม ที่ฟังแล้วเสียง ระรื่นหู และไพเราะอีกต่างหาก เป็นอันใช้ได้ ส่วนช่องใส่ลำโพงโดยปกติจะอยู่ที่ขนาด 5 1/2" หรือ 6 1/2" หรือเรียกว่า STOCK SPEAKER (ช่องใส่ลำโพงเดิมจากโรงงาน) แนะนำให้ใช้วัสดุซับเสียง (DAMPING MATERIAL) บุที่แผงประตูรถ เพื่อเพิ่มความหนาแน่นให้กับแผงประตู และลดเสียงรบกวนต่างๆ จากภายนอกรถ เช่น เสียงลมปะทะตัวรถ อาการสั่นสะเทือน หรือแม้กระทั่งเสียงเครื่องยนต์ ฯลฯ ที่เข้ามาภายในห้องโดยสาร จากการบุวัสดุดังกล่าว เพื่อให้ห้องโดยสาร มีความเงียบมากขึ้น ทำให้การฟังเพลงได้ยินรายละเอียดเสียง และบรรยากาศในการฟังเพลงดีขึ้น
อันดับที่ 2
สำหรับรถประเภท ECO CAR ที่จำหน่ายในบ้านเราขณะนี้ จะมีปริมาตรความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร ซึ่งขนาดของแบทเตอรีในรถ ECO CAR ส่วนใหญ่จะเป็นแบทเตอรี ที่มีค่าแรงดันไฟ 12 VDC สามารถจ่ายกระแสไฟตั้งแต่ 35-45 แอมพ์/ชั่วโมง หรือ อักษรย่อว่า 35 AH, 45 AH ซึ่งก็จะไม่เกินไปกว่านี้ ในขณะที่แบทเตอรีอาจเสื่อมจากการใช้งานตามปกติ 1-2 ปี โดยประมาณ ซึ่งในตอนนั้นเครื่องปั่นไฟ หรือไดชาร์จ ไม่สามารถอัดกระแสไฟเข้าแบทเตอรีได้ตามปกติ ในบางครั้งจะพบกับปัญหาว่า รถสตาร์ทไม่ติด ซึ่งเป็นเพราะว่า ความสามารถในการเก็บประจุกระแสไฟในตัวแบทเตอรี และการจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถนั้นลดลง ถ้าต้องการเพิ่ม เพาเวอร์แอมพ์ 60 วัตต์x2 แชนแนล RMS (กำลังขับรวมได้ 120 วัตต์ RMS) จะต้องใช้แบทเตอรีขนาดเท่าไรถึงจะเหมาะสม เนื่องจากเป็นการเพิ่มภาระให้กับแบทเตอรีลูกเดิม เพื่อที่จะจ่ายกระแสไฟให้เพียงพอกับอุปกรณ์ของระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในรถแล้ว ยังต้องจ่ายให้กับเพาเวอร์แอมพ์ที่ติดตั้งเพิ่มเข้าไปอีก เพื่อให้แบทเตอรี สามารถรับโหลดที่ต้องการได้อย่างเพียงพอ ปกติแรงดันไฟรถอยู่ที่ 12 โวลท์ DC (ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์) แทนด้วยสูตร [ TOTAL POWER (RMS)x2/VOLT DC ] ตัวอย่าง 120 คูณ 2 หาร 12 ได้เท่ากับ 20 แอมพ์ เมื่อบวกแบทเตอรีเดิมในรถ 35 แอมพ์ ผลลัพธ์ได้เท่ากับ 55 แอมพ์ ดังนั้น การเปลี่ยนแบทเตอรีเป็นขนาด 55 AH เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ในรถยนต์ รวมถึงชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่จะปรับปรุงคุณภาพเสียงรถยนต์ให้กับ ECO CAR ของคุณได้อีกมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการ และความบันเทิงของท่านเป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพื่อ การผ่อนคลายกับการจราจรที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และมีความสุขในการเดินทางครับ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/91755
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เทคนิค(car)
เทคนิค(car)
3 Dec 2015
หาค่าความถี่ CABIN GAIN เพื่อความดังเสียงอัตโนมัติ
เทคนิค(car)
2 Nov 2015
ตู้ลำโพงแบบปิด และเปิด เลือกให้โดนหูตัวเอง
เทคนิค(car)
1 Oct 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (จบ)
เทคนิค(car)
31 Aug 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (ตอน 1)
เทคนิค(car)
3 Aug 2015
เพิ่มเสียงด้านหลังให้ระบบเสียงรถยนต์
ดูต่อในคอลัมน์ เทคนิค(car)