รู้ไว้ใช่ว่า
ไล่ออกแล้วจ้างเหมา
การที่คนเราพึ่งธรรมชาติล้วนๆ อย่างสิงสาราสัตว์อื่นๆ ไม่ได้ ทั้งเรื่องของที่อยู่ที่กิน แถมยังพ่วงคนในครอบครัวเข้าไปด้วย อันเป็นสัญชาตญาณรักษาเผ่าพันธุ์ การทำมาหากิน หรือประกอบอาชีพ จึงเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าพอเพียง ก็พออยู่ได้ ชักหน้าถึงหลังบ้าง ไม่ถึงบ้าง พึ่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งรู้ทั้งรู้ว่าโหดเหี้ยม ทารุณบ้าง ที่เก่งและรักดีหรือบวกเฮงเข้าไปด้วย ก็สบายหน่อย จนถึงขั้นเหลือกินเหลือใช้ ลุ้นแค่อย่างเดียว มีลมหายใจนานพอที่จะอยู่บนกองเงินกองทองได้ยาวไหม ไปสู่ที่ชอบๆ แต่ยังไงก็ไม่อยากไปเมื่อไร ที่แน่ๆ ไม่ต้องลุ้นเรื่อง "ตกงาน" เหมือนอย่างคนอยู่ตามบริษัทห้างร้าน ซึ่งรู้ๆ กัน มันเอาแน่ได้ซะเมื่อไร
อย่างนี้เอง คนไทยเราจึงหมดอาย ในการทุจริต การสอบเป็น พลตำรวจ ครู หรือส่วนราชการอื่น ถ้าหลุดผลั่วเข้าไปได้ โอ้...สวรรค์ ตำแหน่งเล็กใหญ่ ขยันไม่ขยันไม่สำคัญ ไม่ต้องกังวลเรื่องตกงาน เว้นแต่อยู่ไปแล้วกร่างหรือลืมตัว หาเรื่องเอง ให้โดนไล่ออก
นายภูเขา กับ นายทะเล เพื่อนร่วมงานวัยต่างกันพอสมควร เป็นพนักงานขับรถของ บริษัท ใหญ่ไม่เบา จำกัด ดูๆ แล้วงานน่าจะมั่นคงตามชื่อบริษัทผู้เป็นนายจ้าง ทำงานมาคนละหลายปี แล้วสิ่งที่ลูกจ้างอย่างคนทั้งสองกังวลอยู่ลึกๆ ก็เกิดขึ้น บริษัท ฯ เลิกจ้างทั้งคู่กะทันหัน เพียงแต่รักษาน้ำใจนิดหนึ่ง ให้ทำงานถึงสิ้นเดือน และจ่าย เงินค่าชดเชยตามสิทธิ ต่างเปลี่ยนชื่อบริษัทเสียใหม่เป็น บริษัทเชี้ยๆ...แบบคนบ้านเรายุคนี้ที่ปากจัดกันทั้งนั้น
คนเราเมื่อเผชิญปัญหา ควรทำอยู่ 2 อย่าง คือ อดทน และหาทางแก้ปัญหา จึงจะเป็นคนต่อไปได้ ไม่งั้นดูไม่จืด นายภูเขา และนายทะเล ชื่อไปด้วยกันได้ แก้เกม ต่างไปพึ่งศาลแรงงานกลาง เผื่อได้เงินสักก้อน (แต่ต้องรอวันที่ชนะคดี) แล้วศาลท่านรวมคดีพิจารณาร่วมกัน ในคำฟ้องอ้างว่า บริษัทใหญ่ไม่เบา ฯ แค่ชื่อก็เหลือกิน กิจการมีผลกำไรตลอด จู่ๆ เขาจ้างบริษัทอื่นมารับช่วงในการจัดหาพนักงานขับรถยนต์ แล้วเลิกจ้างพวกตน โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า บริษัท ฯ ต้องจ่ายค่าตกใจเป็นค่าจ้าง 1 เดือน ต้องจ่ายโบนัสไม่น้อยกว่า 2 เท่าของเงินเดือน เท่าที่พวกตนทำงานในปีนี้มา 10 เดือน ชดใช้ค่าเสียหายแก่ นายภูเขา ซึ่งทำงานมานานถึง 26 ปี จำนวนเฉียด 3 ล้าน 5 แสนบาท แก่นายทะเลทำงานมานาน 14 ปี จำนวน 1 ล้าน 8 แสนบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ย
ตัวเลขค่าเสียหายเรียกกันมากมายยังงี้แหละครับ หากศาลไทยเอาด้วย นายจ้างคงม้วนเสื่อ หันไปหารถเข็นขายขนมครก นี่พูดกันตามจริง แต่เวลาฟ้องทนายมักตั้งเป้าสูงไว้ก่อน ให้คนฟ้องนอนลุ้นด้วยความกระหยิ่มใจ และเผื่อฟลุค ถือว่าไม่เสียหาย
บริษัท ใหญ่ไม่เบา จำกัด ค้าขายอะไรไม่รู้ สู้คดี ให้การว่า ก่อนเลิกจ้างได้บอกล่วงหน้าตอนต้นเดือน แล้วให้หยุดงานตอนสิ้นเดือน บริษัท ฯ ได้จ่ายค่าชดเชยให้ด้วย สำหรับเงินโบนัสเป็นกรณีภายในตามเงื่อนไขเป็นสิทธิ์ของบริษัท ฯ คนทั้งสองไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง บริษัท ฯ จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ทำให้ขนาดเล็กลง จึงวางแผนบุคลากรใหม่ ต้องเลิกจ้าง นายภูเขา และนายทะเล เพื่อปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางออกนั่งพิจารณาคดีนี้อย่างเคร่งขรึม ตามสไตล์ของสายงาน ไม่ใช่แนวบันเทิง แล้วตัดสินให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหาย 340,000 บาท และ 70,000 บาท แก่นายภูเขา และนายทะเล ตามลำดับ พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ฟ้องจนกว่าจะเสร็จ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกฟ้อง
จำเลย คือ บริษัทใหญ่ไม่เบา ฯ ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกา ตามลักษณะของคดีแรงงาน สองยกจบ เพื่อเอาชนะจะได้ไม่ต้องจ่ายสตางค์
ศาลฎีกาหยิบคดีนี้ที่มาถึงคิวอย่างอ่อนล้า กัดฟันส่องดูจนถ้วนทั่วแล้วชี้ขาดออกมา
การที่บริษัท ฯ เลิกจ้าง นายภูเขา และนายทะเล ไปนั้น เอาเข้าจริงๆ บริษัท ฯ ยังต้องมีคนทำหน้าที่ขับรถเช่นเดิม แล้วไม่มีข้อเท็จจริงใดสำแดงให้เห็นว่า ขืนไม่เลิกจ้างคนทั้งสอง กิจการของบริษัท ฯ จะไม่รอด ไม่ปรากฏหลักฐานหรือตัวเลขที่แสดงว่า บริษัท ฯ ได้ปรับลดค่าใช้จ่ายไปมากน้อยเท่าไรจากการเลิกจ้างคนทั้งสอง แล้วไปจ้างเหมาบุคคลภายนอกมาทำหน้าที่แทน งานนี้เป็นไปตามนโยบายและวัตถุประสงค์ของบริษัท ฯ เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของบริษัท ฯ เท่านั้น ไม่มีเหตุผลความจำเป็นเพียงพอ นายภูเขา และนายทะเล ไม่มีความผิด หรือข้อบกพร่องใดๆ ด้วยนะเอ้อ ศาลล่างตัดสินมานั้นเหมาะสมแล้วละ
ศาลฎีกาต้องทนเมื่อยอีกหน พิพากษายืนตามที่ศาลแรงงานกลางว่าไว้
ครับบริษัทห้างร้านรวมทั้งหน่วยงานราชการ เดี๋ยวนี้เขาหันมาใช้วิธีจ้างเหมา ให้คนนอกมาทำโน่นนี่ เพื่อลดภาระในการดูแลบุคลากร หรือพนักงาน ซึ่งต้องรับผิดชอบจิปาถะตามที่กฎหมายและกฎหมู่บังคับไว้ ลดความยุ่งยากปวดหัวลงพอสมควร แต่ถ้าไปปลดคนเก่าออก อย่างเช่นพนักงานขับรถของบริษัทใหญ่ไม่เบา ฯ ก็อาจโดนฟ้องแล
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16044-16034/2553
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์ 4
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/91508