โลกติดล้อ
เดินทางด้วยรถไฟไฮสปีด
คนไทย (รวมทั้งตัวผู้เขียนเอง) มักอ้างว่าจะให้เดินไปไหนต่อไหน โดยไม่ขึ้นรถมันไม่ไหวนา เพราะอากาศร้อน สงสัยว่าถ้าหากอากาศในเมืองไทยกลับตาลปัตร กลายเป็นหนาวขึ้นมา คนไทยก็คงจะอ้างอีกแหละว่า "เดินไม่ไหว ขืนเดินก็แข็งตาย ต้องนั่งรถไป"
ในยุคที่น้ำมันแพง การขับรถไปไหนคนเดียว ก็ทำเอาเรารู้สึกผิดได้บ่อยๆ เหมือนกัน ว่ากำลังทำอะไรฟุ่มเฟือย บางครั้งถ้าเรายอมลำบากสักนิด เดินจากบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้า ก็จะได้เวลากลับมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน เพราะสามารถไปได้รวดเร็ว ไม่ต้องผ่านการจราจรที่ติดขัด การเดินทางไปไหนต่อไหน ถ้าเป็นระยะทางไม่ไกล ก็เหมาะที่จะใช้ขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้า รถใต้ดิน และรถเมล์ ถ้าไกลหลายร้อย กม. ก็ต้องเลือกนั่งเครื่องบินกัน เพราะเร็วกว่ารถ หรือรถไฟ
แต่เดี๋ยวนี้หลายประเทศในโลก หันมาพัฒนารถไฟความเร็วสูง เป็นทางเลือกในการเดินทางเป็นร้อยๆ กิโลเมตร แทนการนั่งเครื่องบิน เพราะประหยัด ปลอดภัยกว่า และถ้าพูดถึงความเร็ว ยิ่งพัฒนาไป ก็ยิ่งไปได้เร็วยิ่งขึ้น มีตัวอย่างให้เห็น อย่างเช่นในจีน หรือในสเปน เป็นต้น
เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ถึงกับติดใจเมื่อได้เห็นว่าสเปนนั้นกำลังสร้างรถไฟไฮสปีดไขว้กันไปมาหลายสายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ถึงกับสั่งให้กันงบประมาณไว้ 3.8 แสนล้านบาท (13 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ) เพื่อไว้สร้างในสหรัฐอเมริกาบ้าง ถ้าอ่านใจท่านให้ทะลุก็คงเป็นเพราะท่านเป็นคนประหยัด เห็นว่าคนอเมริกันน่าจะประหยัดเงินจากการเดินทางด้วยเครื่องบิน หันมาใช้รถไฟไฮสปีดกัน
ลองนึกภาพว่า ถ้าเมืองไทย มีใครบ้างบ้านอยู่หาดใหญ่ ต่อไปจะกลับบ้านก็นั่งรถไฟดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสนามบิน คอยที่สนามบิน เชคกระเป๋า และนั่งคอยเครื่องบินออก
ผู้โดยสารคนหนึ่งซึ่งต้องเดินทางจากบาร์เซโลนาไปมาดริดเป็นประจำ เขาบอกว่าช่วงหลังนี่ เขาเลือกใช้รถไฟไฮสปีดแทนเครื่องบิน และพบว่ามัน "เจ๋ง" ทีเดียว
บริการรถไฟไฮสปีด AVE ของสเปน เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2551 เป็นรถไฟที่ทันสมัย ใช้เวลาเดินทางระหว่างมาดริดถึงบาร์เซโลนา 2 ชั่วโมงครึ่ง จากที่เคยใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ด้วยรถไฟแบบเก่า ผู้โดยสารไม่ต้องผ่านขั้นตอนของการเดินทางไปสนามบินที่อยู่ไกล เข้าแถวเชคอิน ตรวจกระเป๋า รถไฟ AVE ของสเปนเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟซูเพอร์เร็วของยุโรปที่เป็นที่อิจฉาของคนอเมริกันที่ยังไม่มี
ผู้เขียนจำได้ว่าสมัยไปเรียนหนังสืออยู่ที่ฟลอริดา ปิดเทอมทีก็เดินทางจากฟลอริดาซึ่งอยู่ทางใต้ขึ้นเหนือมาหาเพื่อนที่วอชิงทัน ดีซี ความที่เป็นนักศึกษาก็ต้องประหยัดเงินไปใช้บริการรถโดยสารกเรย์ฮาวน์ด ต้องใช้เวลาในรถนานถึง 24 ชั่วโมง กว่าจะถึงก็เกือบเพี้ยน ต่อจากนั้นถ้าต้องขึ้นเหนืออีก ก็กัดฟันเก็บเงินซื้อตั๋วเครื่องบินเอา
รถไฟของ AVE มาจากบริษัท SIEMENS ของเยอรมนี ส่วนสายที่แล่นจากมาดริดไปเซวิลล์นั้น ใช้เทคโนโลยีของฝรั่งเศส จากบริษัท ALSTOM
ตั้งแต่สเปนมีบริการรถไฟความเร็วสูง สายการบินประจำชาติ คือ IBERIA หรือสายการบินราคาประหยัดของสเปน ก็ออกอาการเหงาหงอย โดยเฉพาะสายการบินประหยัดที่งอกราวกับดอกเห็ดเมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ทันเก็บเกี่ยวผลกำไรสักเท่าไร รถไฟไฮสปีดก็มาตักตวงเอาผู้โดยสารไปกว่าครึ่ง โดยเฉพาะบนเส้นทางบาร์เซโลนา และมาดริด
ไม่น่าแปลกใจ มันเป็นเช่นนี้เพราะรถไฟไฮสปีดให้ความสบายแก่ผู้โดยสาร ถ้าคุณตีตั๋วประหยัดบนเครื่องบิน คุณก็ต้องนั่งเบียดกัน ที่ยืดขาก็แทบไม่มี แต่นี่เป็นรถไฟ มีที่ว่างให้ยืดขาตั้งเยอะ แถมมีทีวีจอแบนให้ดูทั้งขบวน หรืออยากฟังวิทยุก็เอาแจคเสียบข้างที่นั่ง เดี๋ยวเดียวพนักงานก็เข็นรถอาหารที่มีอาหารให้เลือกเพียบมาแล้ว
คนสเปน มีนิสัยให้บริการที่ดีกว่าคนชาติยุโรปอื่นๆ ด้วยกัน เมื่อเทียบกันแล้ว รถไฟสเปนจึงกินเรียบ
รถไฟยูโรสตาร์ของฝรั่งเศส ที่วิ่งระหว่างลอนดอนและเมืองอื่นๆ ในยุโรปที่มีมานานแล้ว อะไรๆ ก็ไม่ทันสมัยใหม่เอี่ยมเท่า
และใครจะเป็นรายต่อไปที่มีรถไฟความเร็วสูง ก็ต้องชาติที่กำลังร่ำรวยเศรษฐกิจโตปีละ 10 % อย่างจีนไงค่ะ จีนเป็นชาติที่ต้องการรถไฟความเร็วสูงมากที่สุด เพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ทั้งตะวันออกไปตะวันตก จากเหนือไปใต้ คนก็มาก แต่ละเมืองของจีนมีประชากรไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ขนส่งมวลชนแบบไหนจะตอบสนองชีวิตได้ดี ก็ต้องเป็นรถไฟความเร็วสูงสิค่ะ
จีนจะใช้เทคโนโลยีของฝรั่งเศสจากบริษัท ALSTOM SA โดยจะใช้งบประมาณ 22 ล้านล้านบาท (732 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ) ภายในปี 2020 ทีนี้ละ จะแข่งกับสายการบินกันสนุก เพราะภายในปี 2020 อีกเหมือนกันที่จีนจะสร้างเครื่องบินอีกเป็นร้อยๆ ลำ
ALSTOM เป็นบริษัทสร้างรถไฟที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่สามารถสร้างรถไฟที่มีความเร็วมากที่สุดในโลก คือ มีความเร็ว 360 กม./ชม. รถไฟของค่ายนี้จะเรียกกันว่า AGV ซึ่งย่อมาจาก AUTOMOTRIC A GRANDE VITESSE จีนกะว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะต้องสร้างเส้นทางรถไฟให้ถึง 120,000 กม. ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นไฮสปีดทั้งหมด จะเป็นไฮสปีดเพียง 18,000 กม.
ตอนนี้ ALSTOM ก็นอนตีพุงได้แล้ว เพราะนอกจากจะต้องมีรถไฟวิ่งระหว่างเมืองใหญ่ๆ แล้ว ยังต้องมีสายย่อยที่เชื่อมเมืองรองมายังเมืองใหญ่อีกด้วย ขณะนี้ ALSTOM ก็กำลังมองหาหุ้นส่วนจากท้องถิ่นอยู่ จะได้ขยายงานได้ทันใจ
ALSTOM นั้นไม่ใช่หน้าใหม่ในจีน ตั้งแต่ปี 2550 มาแล้วที่บริษัทนี้เป็นผู้ให้บริการรถไฟไฮสปีด รุ่น CRH5 ร่วมกับผู้ร่วมทุนจีน คือ CHANGCHUN RAILWAY VEHICLES CO., LTD. วิ่งรถไฟเชื่อมระหว่างปักกิ่งกับเมืองด้านทิศเหนือ เช่น เชินหยาง และฮาร์บิน
จีนกำลังจะสร้างรถไฟไฮสปีด อย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยหลายๆ บริษัทต่างเข้ามาแบ่งสันปันส่วนกัน เช่น BOMBARDIER ได้สัญญามูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ สร้างรถไฟไฮสปีด 80 ขบวน ข้างฝ่าย SIEMENS AG กับหุ้นส่วนจีนก็จะได้สัญญามูลค่า 3 หมื่นล้านบาท (1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ) สร้างรถไฟ 100
ขบวน
ไปเที่ยวเมืองจีนคราวหน้า หากไม่ได้ลองนั่งรถไฟไฮสปีดของจีน ก็เห็นทีจะไปไม่ถึงเมืองจีนแล้วละค่ะ
เรื่องโดย : เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2556
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/90086