รู้ไว้ใช่ว่า
ตัดหน้า
คำว่า "ตัดหน้า" เป็นคำที่มีความหมายทั้งเชิงลบ และเชิงบวก
ในเชิงลบ เป็นที่รู้กันว่า คนขับรถทุกชนิดกลัวที่สุด ต่างปลุกพระภาวนาสาธุ ไม่ให้เจอรถต่างๆ ตัดหน้า หรือไปตัดหน้ารถคันอื่น เพราะโดนเมื่อไหร่ หมายถึง เป็นเรื่องเป็นเลือด อาจจบชีวิต มีคดีความ เถียงกันใครผิดใครถูก ใกล้คุกตะราง เสียเงินเสียทอง รถรายับเยิน เรียกว่าเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะรวยหรือจน หน้าเหลืองทั้งนั้น
แต่การตัดหน้าใช่ว่าจะมีผลเชิงลบเสมอไป ที่เป็นบวกเราต่างต้องการ หมายถึง เป็นฝ่ายที่ช่วงชิงอะไรก็ตามได้ก่อนคนอื่น ในลักษณะฉิวเฉียด ไม่ว่าหน้าที่การงาน ธุรกิจการค้า การซื้อ/ขาย แม้กระทั่งเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ใครเป็นฝ่ายตัดหน้าเขาสำเร็จ หน้านี้บานก็แล้วกัน แน่นอนฝ่ายที่โดนตัดหน้าในแง่นี้ แม้ไม่ใช่การตัดหน้าของรถรา ก็เซ็งเป็ดเซ็งห่าน หรือนกกระจอกเทศ ขึ้นอยู่กับขนาดของสิ่งที่พลาดโอกาส ถ้าเซ็งระดับนกกระจอกเทศ หมายถึง คนตัดหน้าเราด้อยกว่า โหลกว่าเสียด้วยซ้ำ หมายถึง เสียท่าอย่างหนัก
ท่านละครับ ถ้าไม่เคยเจอรถคันอื่นตัดหน้า หรือไปตัดหน้ารถคันอื่น ถือว่าโชคเข้าข้าง บูชาโชคไว้เถิด แต่ในความเป็นจริง สไตล์ขับรถในบ้านเรา มักหนีไม่ค่อยพ้น เพียงแต่ตัดหน้าแล้วหลบได้เบรคได้หรือไม่ หนักเบาแค่ไหน ผมเองก็เจอมาแล้ว คู่กรณีเป็นรถมอเตอไซค์ซ้อนสาม กับรถอีต๋อยอย่างละหน รถเก๋งเราบุบบี้ไปบ้าง มีคนเจ็บบ้าง แต่ไม่สาหัสหรือตาย ถือว่าค่อยยังชั่ว หวังว่าจะโชคดีแคล้วคลาดตลอดไป เช่นเดียวกับท่านผู้อ่าน
ตามมาด้วยคดีความจึงจะครบเครื่อง
งานนี้เป็นเรื่องของการตัดหน้าแล้วมีคนเท่งทึง ซึ่งเป็นฝ่ายขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ พุ่งออกจากซอยหรือทางแยก ตัดหน้ารถกระบะยวดยานประจำถนนในบ้านเรา ที่มาทางตรง
"นายดีน่า" คนขับรถกระบะโดนตำรวจตั้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้นักบิด คือ "นายหวังสูง" ถึงตาย อัยการหิ้วตัวไปฟ้องที่ศาลเพื่อเอาผิด ไม่ใช่แค่นั้น นายดีน่า โดน 2 เด้ง พ่อของ นายหวังสูง คือ "นายหมายไกล" ชื่อไปกันได้ทั้งพ่อลูก ยื่นฟ้องเป็นอีกคดีหนึ่ง ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับรับฟ้องไว้ ต่อมาได้รวมคดีที่อัยการกับพ่อของ นายหวังสูง ฟ้องร้อง เข้ามาพิจารณาไปด้วยกันเป็นคดีเดียวกัน
นายดีน่า ผู้เป็นจำเลย ไม่อยากติดตะราง จ้างทนายสู้ทั้ง 2 คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณา ด้วยการนั่งหน้าเคร่งตามธรรมเนียม เพื่อให้สมฐานะตุลาการ ฟังพยานทุกฝ่ายจนพอใจแล้ว จึงตัดสินเอาผิดในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ จำคุก นายดีน่า 1 ปี ยกฟ้องคดีที่ นายหมายไกล บิดาของ นายหวังสูง ฟ้องมา ท่านผู้อ่านงงหรือสงสัยว่า ยกฟ้องด้วยเหตุอันใด ทั้งๆ ที่เรื่องราวเดียวกัน เดี๋ยวก็จะรู้
อัยการพอใจผลงาน ไม่ทำอะไรอีก นายหมายไกล พ่อของ นายหวังสูง ผู้ตาย เดินหน้ายื่นอุทธรณ์ เพื่อเข่น นายดีน่า ให้หนัก ในเมื่อลูกชายตายทั้งคน ขณะที่ นายดีน่า ก็ยื่นอุทธรณ์ เพราะไม่อยากอยู่ในคุก
ศาลอุทธรณ์นั่งอ่านสำนวนที่ห้องทำงาน ไม่ต้องเห็นใคร ไม่ต้องดึงหน้าให้เคร่งเข้าไว้อย่างศาลชั้นต้น อ่านจนทั่วถึงแล้วเล็งเห็นว่า งานนี้ นายหวังสูง นักบิดมอเตอร์ไซค์ประมาทด้วย จึงเป็นผลดีแก่ นายดีน่า คนขับรถกระบะ จึงเบามือลง พิพากษาแก้ ลงโทษปรับ นายดีน่า 1 หมื่นบาท โทษจำคุกที่มีอยู่ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี มีการคุมประพฤติบ้างตามสมควร หมายถึง นายดีน่า รอดจากตะราง ร้องว่าดีๆๆ ลงจากศาลด้วยความดีใจ
นายหมายไกล พ่อของ นายหวังสูง ไม่คาดหมายว่า นายดีน่า จะหลุดจากตะรางไปได้ ขณะที่ นายดีน่า ได้คืบจะเอาศอก อยากหลุดไปเลย เพื่อให้พ้นภาระทางแพ่ง ต่างร้องขอให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีนี้เซ็นรับรองให้เล่นเกมยาว คดีจึงไปสู่ศาลฎีกา ให้ผู้พิพากษาที่อายุเยอะและงานล้นมือ ยิ้มไม่ออก กัดฟันคว้าสำนวนคดีนี้มาเล็งดูด้วยความชำนาญ แล้วชี้จนขาดออกมาว่า
ข้อเถียงของ นายดีน่า ที่อ้างว่าหลบหลุม พร้อมกับ นายหวังสูง ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากทางแยก ตัดหน้า จึงเป็นเหตุให้รถเฉี่ยวชนกัน ตนไม่ได้ประมาทนั้น ศาลฎีกาดูจากรูปภาพแล้ว หลุมมีอยู่ข้างถนน นายดีน่า แก้ตัวแบบนี้ฟังไม่ขึ้น และได้ความว่าขับรถเร็วตั้งร้อย โดยดูจากกันชนด้านขวาของรถกระบะยุบไปเยอะ และดูจากระยะเบรคถือว่า นายดีน่า ขับรถประมาทตามฟ้อง
ขณะเดียวกันหันมามองทางฝ่าย นายหวังสูง ซึ่งทำให้พ่อของตนสิ้นหวังนั้น ได้ความจากพยานปากหนึ่งที่กำลังจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากปากซอยเช่นเดียวกับ นายหวังสูง แต่ยั้งไว้เพราะกลัวรถทางตรงจึงรอด พยานปากนี้เห็น นายหวังสูง ไม่ระวัง บิดรถอย่างแรงพุ่งออกไปจากทางแยก เลยเละตุ้มเปะ พยานงี้เสียวไส้ไม่หาย ยังงี้ศาลฎีกามองว่า นายหวังสูง ขับรถตัดหน้ารถกระบะ มีส่วนประมาทด้วยอย่างเห็นๆ แสดงว่าประมาททั้งคู่ การเอาโทษ นายดีน่า ของศาลอุทธรณ์ถือว่าเหมาะแล้ว ไม่เล่นหนักอย่างที่พ่อของ นายหวังสูง ลุ้นมาตลอด
ไม่ใช่แค่นั้น เมื่อฟังว่า นายหวังสูง คนขี่มอเตอร์ไซค์ประมาทด้วย นายหวังสูง จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ส่งผลให้ นายหมายไกล ผู้เป็นพ่อ หมดสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องเอาเรื่อง นายดีน่า ในคดีนี้อย่างชัดเจน และไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ฎีกา การที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องของ นายหมายไกล ด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้ชอบแล้ว
ศาลฎีกาจึงยอมเมื่อยอีกจนได้ พิพากษายืนตามที่ศาลอุทธรณ์ว่าไว้
ไม่ว่าผลทางคดีจะออกมาอย่างไร ไม่สนุกกันทุกๆ ฝ่าย การพารถออกจากทางแยก ตรอก หรือซอย ต้องใจเย็นสักหน่อย ไม่งั้นร้อนใจ ไปโรงพยาบาล หรือไปวัดได้ทั้งนั้น อย่าล้อเล่น
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287288/2554
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2556
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/89868