รู้ทันเทคนิค
เทคโนโลยีคอมมอนเรล เจเนอเรชันต่อไป
ในปัจจุบันรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล มีการเผาไหม้สมบูรณ์แบบ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยน้อยลงกว่า 30 % ปล่อยควันน้อยลงกว่า 25 % เครื่องยนต์มีแรงบิดและให้พลังขับเคลื่อนมากขึ้นประมาณ 50 % เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินในรุ่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่นั้น ต้องใช้ต้นทุนในการพัฒนาและผลิตสูงกว่าเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่ากว่าเท่าตัว
ดีเซลยุคใหม่
แรงดันมหาศาล
หัวใจสำคัญของเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ คือ ระบบหัวฉีดอันทันสมัย ระบบหัวฉีดประสิทธิภาพสูง ปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ คือ ยูนิท อินเจคเตอร์ (UNIT INJECTOR) และคอมมอนเรล (COMMON RAIL) ทั้ง 2 แบบ มีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน แต่มีหลักการเดียวกัน คือ การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นฝอยละอองละเอียด ด้วยแรงดันที่สูงมาก แต่บ้านเรานั้น เทคโนโลยีคอมมอนเรลได้รับความนิยมสูงมากกว่า ซึ่งการสร้างแรงดันสูงของทั้ง 2 แบบ แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ระบบยูนิท อินเจคเตอร์นั้นจะสร้างแรงดันสูงที่ตัวหัวฉีด การสร้างแรงดันสูงจะทำโดยลูกสูบภายในหัวฉีดที่รับกำลังมาจากเพลาลูกเบี้ยว น้ำมันที่ถูกดูดมาจากถังจะเป็นน้ำมันแรงดันต่ำ
ส่วนระบบคอมมอนเรลนั้น จะมีปั๊มแรงดันต่ำ สูบน้ำมันมารอที่ปั๊มแรงดันสูง ปั๊มแรงดันสูงจะมีหน้าที่สะสมแรงดันไว้ในท่อ หรือที่เราเรียกว่า "RAIL" นั่นเอง เครื่องยนต์ดีเซลสมัยเก่า (อันที่จริงก็ไม่เก่ามากแค่ยุคปลายปี '80-'90) แรงดันของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ราว 4,000-7,000 ปอนด์เท่านั้น แต่ยุคสมัยนี้แรงดันทะลุ 30,000 ปอนด์กันไปแล้ว แรงดันที่เราพูดถึงเดี๋ยวนี้ เราจะเรียกเป็นบาร์แทน ในระบบ ยูนิท อินเจคเตอร์ และคอมมอนเรล ทั้ง 2 แบบมีแรงดันในการฉีดเชื้อเพลิงสูงมาก ระบบคอมมอนเรลปัจจุบันแรงดันการฉีดเชื้อเพลิงอยู่ที่ราว 2,150 บาร์ ขณะที่แรงดันของระบบยูนิท อินเจคเตอร์นั้น อยู่ในราว 2,250 บาร์
ในอนาคตอันใกล้นี้ ทาง โบช (BOSCH) จะมีการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ให้มีแรงดันสูงมากขึ้น ในอนาคตของเทคโนโลยีคอมมอนเรลที่มีความดันสูงถึง 2,500 บาร์ แรงอัดที่สะสมจากการฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูงเข้าสู่กระบอกสูบ การฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูงสามารถฉีดได้หลายจังหวะ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เงียบขึ้น มีอัตราเร่งที่ดี เพราะปกติแล้วน้ำมันดีเซลจะเผาไหม้ช้า จึงไม่สามารถตอบสนองในช่วงรอบเครื่องยนต์สูงได้ดีเท่าที่ควร
ในเครื่องยนต์ดีเซลยุคเก่ารอบสูง จึงมีปัญหาเรื่องของควันดำในรอบสูง การเพิ่มประสิทธิภาพการฉีดเชื้อเพลิงนอกจากจะเป็นการเพิ่มสมรรถนะแล้ว ยังช่วยลดปัญหาเรื่องการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ และแกสพิษตัวอื่นได้มาก
พิสูจน์แล้ว
เส้นทางกว่า 23,000 กม.
โบซ พัฒนาระบบไฮบริดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ที่สะอาด ปลอดภัย ประหยัด และทนทาน ผ่านการทดสอบจากการบันทึกสถิติโลก การเดินทาง 23,000 กม. จากซีกโลกใต้สุดสู่เหนือสุดเพียงแค่ 17 วัน ด้วยเทคโนโลยีดีเซล ระบบคอมมอนเรล ของ โบช
ทั้งนี้เทคโนโยลีดีเซล คอมมอนเรล ของ โบช ผ่านการพิสูจน์ความสำเร็จในระดับการบันทึกสถิติโลก ซึ่งเป็นบททดสอบความทนทานในการขับรถทางไกล 23,000 กม. โดยปราศจากปัญหาทางด้านเทคนิค จากเส้นทางการขับรถจากเมืองใต้สุดของโลก คือ เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย สู่เมืองที่อยู่เหนือสุดของโลก คือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย ภายในระยะเวลาเพียง 17 วัน ถือเป็นการทำสถิติใหม่ของโลก โดย ไรเนอร์ ซีทโล นักผจญภัยและขับรถโฟร์วีลดไรฟ ซึ่งเดินทางพร้อมเพื่อนร่วมทีม โดยรถ โฟล์คสวาเกน ตูอเรก ทีดีไอ เครื่องยนต์ดีเซล โดยเทคโนโลยีหัวฉีดดีเซลจาก โบช
การเดินทางจากเมลเบิร์น ไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นการเดินทางครั้งที่ 3 หลังการเดินทางจากอาร์เจนตินาไปยังอลาสกา ในปี 2554 และการเดินทางขึ้นภูเขาไฟ โอโจส เดลซาลาโด (OJOS DELSALADO) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในโลกในปี 2548 อย่างไรก็ตาม การเดินทางครั้งล่าสุดของเรา ถือว่าเป็นการเดินทางที่เยี่ยมยอด และเป็นบทพิสูจน์ถึงการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีดีเซลจาก โบช ที่ให้พลัง ความเร็ว และความมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพถนน และในทุกสถานการณ์
ความท้าทาย
สภาพภูมิอากาศ และคุณภาพน้ำมัน
เทคโนโลยีระบบคอมมอนเรล CRS 3-20 เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญยิ่งของเครื่องยนต์ดีเซลใน โฟล์คสวาเกน ตูอเรก ทีดีไอ ที่ประหยัด คุ้มค่าต่อการใช้งาน มากไปกว่านั้น ยังทำให้เครื่องยนต์สะอาดและทรงพลัง
เทคโนโลยีระบบหัวฉีดดีเซล ซึ่งควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์นี้ เป็นระบบที่ทันสมัย และมีความก้าวหน้า ได้รับการพัฒนามาจาก โบช ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตระบบหัวฉีดน้ำมันดีเซลชั้นนำของโลก มีความท้าทายอยู่ 2 อย่างในการเดินทางครั้งนี้ นั่นคือ ความแตกต่างของสภาพภูมิอากาศ และคุณภาพน้ำมันในแต่ละประเทศตลอดเส้นทาง แต่เทคโนโลยีคอมมอนเรลของ โบช ก็สามารถสอบผ่านได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาทางด้านเทคนิคแม้แต่น้อย จากการใช้ระบบคอมมอนเรลของ โบช ปัจจุบันการขยายตัวของตลาดเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูงในเมืองไทย ทาง โบช ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เห็นได้จากศูนย์บริการที่ขยายตัวในช่วงระยะเวลาไม่นานนัก
จากการที่ โบช ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักอย่างต่อเนื่องทุกปี และได้มุ่งเน้นที่จะพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ ทั้งในด้านพละกำลัง ประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และที่สำคัญ ต้องประหยัดพลังงาน และรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าสนใจขณะนี้ คือ เทคโนโลยีระบบไฮบริด สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งสามารถให้พลังและประหยัดมากกว่าระบบไฮบริดที่ผสมผสานเครื่องยนต์เบนซิน
เรื่องโดย : พหลฯ 30
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2556
คอลัมน์ Online : รู้ทันเทคนิค
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/88953