ชีวิตอิสระ(4wheels)
บึ่งเรือเที่ยวบึงบอระเพ็ด
"ชีวิตอิสระ" ได้เสนอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถขับเคลื่อน 4 สี่ล้อ ทั้งกระบะ เอสยูวี และพีพีวี มาโดยตลอด
ครั้งนี้จึงขอเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินทางบนผิวน้ำ ด้วยเจทสกี และเรือเร็ว ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ณ "บึงบอระเพ็ด" จ. นครสวรรค์ ติดตามได้เลยครับ
ลอยลิ่วบนผิวน้ำ
ผมรู้จัก พี่พยนต์ จันทวงศ์ เมื่อตอนไปเที่ยว จ. ตาก ได้พูดคุยถึงการท่องเที่ยว จ. นครสวรรค์ ถิ่นอาศัยของพี่ชายผู้นี้ ประจวบเหมาะกับที่เขาชื่นชอบการเล่นเจทสกีเป็นทุนเดิม เลยตกลงกันว่าจะเอาเรือไปบึ่งในบึงบอระเพ็ดดูสักครั้ง
เรามีเจทสกี ยามาฮา รุ่น เวฟรันเนอร์ 800 จำนวน 1 ลำ และได้ชักชวน มหพล ตั้งประภาพร หรือ พี่ตุ้ม เจ้าของเรือเร็ว ยามาฮา เครื่องยนต์ 80 แรงม้า ให้เข้าร่วมการเดินทางอีก 1 ท่าน เท่ากับว่า ครั้งนี้เรามีพาหนะในการท่องบึงบอระเพ็ด ถึง 2 รูปแบบ คือ เจทสกี และเรือเร็ว
ครั้นจะให้ผมขับเจทสกีด้วยตัวเองคงลำบาก เพราะอุปสรรคมากมายใต้น้ำจะทำให้เสียเวลา พี่พยนต์ และพี่ตุ้ม จึงอาสาพาผมตระเวนรอบบึงบอระเพ็ด ที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาล ให้เสร็จภายใน 1 วัน
สัมผัส "จอมบึง"
กับวิถีชีวิตริมน้ำ
เช้าตรู่ เราออกเดินทางจากที่พัก มุ่งกลับเข้าถนนสายเอเชีย เพื่อนำเรือเร็ว และเจทสกี ไปลงที่ท่าน้ำบริเวณ บ้านหัวดง ต. พระนอน อ. เมือง
บึงบอระเพ็ด เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 130,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ. เมือง อ. ชุมแสง และ อ. ท่าตะโก ชาวบ้านหรือผู้เฒ่าผู้แก่นิยมเรียกกันในนาม จอมบึง หรือ ทะเลเหนือ ภายในบึงน้ำมีสัตว์น้ำจืดอาศัยอยู่ประมาณ 140 ชนิด พันธุ์พืชประมาณ 44 ชนิด และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกหลายอย่าง รวมถึงนกน้ำนานาพันธุ์ที่อพยพเข้ามาหากินทั่วบริเวณจอมบึงแห่งนี้ เป็นพันเป็นหมื่นตัว รวมถึงสัตว์ดุร้ายอย่าง จระเข้ ที่ชาวบ้านยืนยันว่ายังมีอยู่จริง แต่จะออกมาหากินในช่วงค่ำ
บัวใหญ่ และนกน้ำ
ไฮไลท์เด่นของบึงบอระเพ็ด
หลังจากปล่อยเรือ และเจทสกี ลงจากทเรเลอร์ พาหนะทั้ง 2 ลำก็ลอยออกไปห่างจากแหล่งชุมชน เพื่อมุ่งสู่บึงบัวที่กว้างใหญ่ เราได้แวะเก็บภาพบัวธรรมชาติหลากสายพันธุ์ ทั้งบัวขาว บัวแดง บัวกระด้ง หรือบัวหลวง ซึ่งกำลังหุบดอกซ่อนเกษรหลังจากพระอาทิตย์สาดแสง ปลาเล็กปลาใหญ่ขึ้นจิบน้ำเป็นพัลวัน ทำให้รู้ว่า ความสมบูรณ์ที่สมดุล ยังมีอยู่ในบึงใหญ่แห่งนี้จริง
นกน้ำนานาพันธุ์ รวมไปถึงนกเป็ดน้ำฝูงใหญ่ ได้เวลาย้ายถิ่นฐานมาหลบอากาศหนาว ในช่วงเดือน พฤศจิกายน-มีนาคม ของทุกปี และมีให้เห็นนับพันๆ ตัว เนื่องจากบ้านหลังใหญ่แห่งนี้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า จึงได้มีการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"กล่ำ" กลางบึง
บ้านเอื้ออาทรของสัตว์น้ำนานาพันธุ์
การเจริญพันธุ์ของสัตว์น้ำ นอกจากจะเจริญพันธุ์ตามธรรมชาติแล้ว กรมประมงยังหาความรู้มาเติมเต็มเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำด้วยการสร้าง "กล่ำ"
ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับชาวเมืองสักเท่าไร ที่จริงแล้วมันคือ ที่อยู่อาศัยของปลา และสัตว์น้ำหลายสายพันธุ์
วิธีการสร้างกล่ำทำได้ง่ายดาย เพียงนำกิ่งไม้ใหญ่มาโยนไว้ใต้น้ำเพื่อให้เป็นที่หลบซ่อนของฝูงปลา ในครั้งนี้เราได้นำยางรถยนต์เก่า มาโยนลงน้ำ แทนการนำกิ่งไม้แห้งที่ขนย้ายลำบาก เสมือนเป็นการทำบุญไปในตัว
พี่พยนต์ ได้บอกกับเราว่า "ผมมีกลุ่มเพื่อนที่เล่นกีฬาประเภทนี้อยู่หลายคน จึงรับอาสานำยางรถยนต์พวกนี้มาปล่อยสู่กล่ำ เพื่อทำให้เป็นเสมือนบ้านปลาเอื้ออาทร ส่วนที่มาของยางรถยนต์เก่านั้นได้มาจากการบริจาคของเพื่อนฝูงที่มีถิ่นฐานอยู่ใน จ. นครสวรรค์ พวกเราจะเอายางรถยนต์เก่าๆ มาโยนไว้เป็นประจำทุกครั้ง หลังจากที่เอาเจทสกี และเรือเร็ว มาลงเล่นในบึงใหญ่แห่งนี้ เสมือนเป็นการทำสาธารณประโยชน์ไปในตัว นอกจากยางรถยนต์เก่า พวกเรายังมีน้ำดื่มมาบริจาคให้กับเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ริมน้ำทุกครั้งไป โดยทั้งหมดล้วนทำกันด้วยใจทั้งสิ้น"
ไหว้พระวัดคีรีวงศ์
วัดสูง ทำเลสวย แห่งเมืองปากน้ำโพ
หลังจากใช้เวลาอยู่บนสายน้ำที่บึงบอระเพ็ดอยู่เกือบเต็มวัน พวกเราขึ้นบกอีกครั้ง พร้อมมุ่งหน้าไปไหว้พระที่วัดคีรีวงศ์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ เขต อ. เมือง ภายในมีพระพุทธรูปจำลองที่สำคัญของประเทศไทย ไว้ให้สักการะบูชา เช่น พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธชินราช พระพุทธโสธร และพระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง วัดแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ เดินทางมาเคารพสักการะอย่างไม่ขาดสาย
"หอชมเมือง"
กับทิวทัศน์แบบพาโนรามา
หอชมเมืองแห่งนี้อยู่ติดกับวัดคีรีวงศ์ ถูกสร้างขึ้นโดยเทศบาลนครนครสวรรค์ รูปแบบเป็นอาคาร 10 ชั้น สูง 32 ม. ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 เป็นจุดประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และ OTOP ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 ในอาคารเป็นร้านอาหาร นอกอาคารเป็นที่สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว จัดกิจกรรมกลางคืน เช่น ดูดาว และชั้นที่ 10 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด จัดไว้สำหรับชมตัวเมืองนครสวรรค์ มีกล้องส่องทางไกลไว้เพื่อความชัดเจนในการชมเมือง
"เขาหน่อ-เขาแก้ว"
บ้านค้างคาวล้านตัว
สถานที่สุดท้ายในการเที่ยวเมืองนครสวรรค์ เรามุ่งสู่ ถ. พหลโยธิน เพื่อไปยังเขาหน่อ-เขาแก้ว ห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กม. ช่วงนครสวรรค์-กำแพงเพชร ในท้องที่ ต. บ้านแดน อ. บรรพตพิสัย ที่นี่เป็นที่อยู่ของค้างคาวนับล้านตัว พวกมันออกหากินตอนช่วงพลบค่ำ เริ่มต้นออกจากถ้ำ จนถึงตัวสุดท้าย ใช้เวลาหลายสิบนาที เคยมีนักสำรวจได้ตามเส้นทางการบินของค้างคาวฝูงนี้ ได้ระบุว่า พวกมันบินหากินไปไกลถึงประเทศศรีลังกา และจะบินกลับเข้าถ้ำช่วงเช้ามืดของทุกวัน
ผมใช้เวลาคอยมันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน จนเวลาล่วงเลยไป คิดว่าจะโดนค้างคาวเบี้ยว แต่มันก็ออกมาจริง และใช้เวลานานกว่าจะหมดฝูง นับด้วยสายตาคร่าวๆ น่าจะเกิน 1 ล้านตัวแน่นอน เสียดายอย่างเดียว คือ ไม่มีแสงพอที่จะเก็บภาพมาฝากทุกคน
ทริพนี้ผมใช้เวลา 2 วัน 1 คืน กับ 1 บึง 1 วัด และ 1 ถ้ำ ใน 1 จังหวัด รสชาติการเดินทางครั้งนี้ถือว่าหลากรูปแบบแต่ไม่ลำบากนัก หากใครมีเวลาพักน้อย นครสวรรค์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่นักเดินทางไม่ควรพลาด
ที่พัก+ที่กิน
ที่กิน
ร้านอาหารในตัวเมืองมีหลากหลาย แต่หากเป็นร้านแบบคอมพเลกซ์ครบวงจร มีทั้งอาหาร และห้องคาราโอเกะขนาดใหญ่ เชิญได้ที่ร้านบ้านอีสาน เมนูเด็ด ได้แก่ ปลาช่อนเผา ส้มตำไข่เค็ม แกงคั่วหอยขมยอดมะพร้าวอ่อน เป็นต้น
ที่นอน
ที่พักใน อ. เมือง หาไม่ยาก มีโรงแรมเก่าที่ตกแต่งใหม่ ชื่อว่า ไม้หอม ห้องพักอลังการ ที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย สาธารณูปโภคครบ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ กับสนนราคาไม่ถึงพันบาทต่อหนึ่งคืน
ชิลล์ๆ กับ ฮอนดา ซีอาร์-วี
ในระยะทางสบายๆ เพียง 200 กว่ากม.
การเดินทางครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนรถ ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.4 ไอ วีเทค อีแอล จากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นพาหนะในการเดินทาง ใช้เส้นทางสายเอเชีย เพื่อมุ่งหน้าสู่ จ. นครสวรรค์ กับระยะทางไป-กลับประมาณ 500 กม. ลองขับโดยใช้โหมด อีคอน พบว่าประหยัดมาก ไป/กลับกินน้ำมันเพียง 1 ถังเศษ
เรื่องโดย : ณัฐเทพ เผ่าจินดา
ภาพโดย : ราชวัตร แสงจันทรา
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2556
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/88832