X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
1 Feb 2013
หลากวิธีเพิ่มความสูงให้รถลุย (จบ)
จั่วหัวยั่วน้ำลายไปเล็กน้อยในฉบับที่ผ่านมา กับสไตล์การตกแต่งรถขับ 4 แบบฮาร์ดคอร์ ขีดสุดแห่งความดุดัน และสมรรถนะที่แกร่งทน แถมดูแลรักษาง่าย ฉบับนี้มาว่ากันต่อ ขอแนะนำก่อนเลยนะครับว่า "ถ้าไม่ใช่ขาลุยป่าตัวจริงละก็ งานนี้กระเป๋าแทบฉีก" แต่ผลตอบแทนที่ได้จากการปรับแต่งรับรองคุ้มสุดๆ (งานนี้ก็ต้องพิจารณาเลือกอู่ก่อนทำการชำแหละรถด้วยครับ)
เด็ดปีกนกมาคบคานแข็ง
สิ่งสำคัญ ประการแรก คือ การเลือกชุดเสื้อคานแข็งทั้งด้านหน้าและหลังที่มีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ชุดคานของ โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์ วีเอกซ์ 80 หรือไม่ก็ ปราโด ตระกูล แอลเจ รวมถึง นิสสัน ซาฟารี เนื่องจากเฟืองท้ายทั้ง 2 แบรนด์จะมีขนาดที่เหมาะสมกับการดัดแปลงวางลงในรถรุ่นต่างๆ อีกทั้งชิ้นส่วนภายในเสื้อเพลา อาทิเช่น ชุดเฟืองท้าย, แกนเพลา ฯลฯ จะมีขนาดใหญ่ แข็งแกร่ง และทนทาน ประเด็นต่อมา ต้องพิจารณาเรื่องการปรับแต่ง (พยายามมองหาตัวอย่างผลงานของรถที่ออกจากอู่นั้นๆ ประกอบการตัดสินใจ) นั่นคือ เรื่องของดีไซจ์น และการขยับมุมองศาต่างๆ ของระบบช่วงล่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะฐานล้อหน้า/หลัง, การปรับมุมองศาเสื้อเพลาให้เหมาะสมกับแนวการส่งกำลัง เพราะนั่นคือที่มาของการปรับแต่งที่ไม่จบสิ้น อีกทั้งยังไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มสปีดของรถที่ควรเป็นอีกด้วย
จอยท์ 8 ทิศ สิ่งสำคัญสำหรับรถลุย
เมื่อดัดแปลงระบบช่วงล่างเป็นแบบคานแข็ง เรื่องของเพลากลางทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และหลัง จำเป็นต้องมีการตัด/ต่อระยะการส่งกำลังใหม่ เพื่อเพิ่มความอิสระให้องศาการส่งกำลัง หลายสำนักมักนิยมเลือกทำการเปลี่ยนชุดจอยท์ หรือกากบาท มาใช้แบบ 8 ทิศ ซึ่งให้การส่งกำลังจากหมุนรอบตัวเอง เปลี่ยนแรงเป็นมุมทแยง ให้มีความอิสระจากจุดต่อที่มากยิ่งขึ้น (ของเดิมเป็นจอยท์แบบ 4 ทิศ) ข้อควรคำนึง คือ จอยท์ควรมีขนาดใหญ่เพื่อความทนทาน แต่แกนเชื่อมต่อไส้เพลาไม่ควรใหญ่กว่าเพลากลาง
เลือกระบบกันสะเทือนให้ถูกทาง
ระบบกันสะเทือนก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะเป็นเครื่องบ่งชี้สมรรถนะการขับขี่ที่เน้นสไตล์การใช้งานที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของระบบสปริง ข้อแตกต่างของสมรรถนะชุดสปริงที่นิยมเลือกปรับแต่งก็จะมี ชุดคอยล์สปริง (COIL SPRING) และระบบสปริงแบบแหนบแผ่นซ้อน (LEAF SPRING)
คอยล์สปริง ให้ความนุ่มนวล
ระบบคอยล์สปริงจะเป็นเรื่องของความนุ่มนวลในการขับขี่ ข้อด้อยที่ค่อนข้างชัดเจนของระบบคอยล์สปริง เมื่อขับขี่บนทางทุรกันดาร ซึ่งมีพื้นผิวที่ต่างระดับมากๆ ลักษณะเป็นร่องลึก การให้ตัวในช่วงจังหวะยุบจะทำได้น้อยกว่าแบบแหนบแผ่นซ้อน เนื่องจากต้องสูญเสียพื้นที่บางส่วนให้กับการขดตัวจนสุดของขดสปริง การเลือกเซทชุดคอยล์สปริงสามารถกระทำได้หลายแบบ ทั้งแบบขดเดียวค่าตายตัว หรือแบบค่า K 2 ระดับนั่งซ้อนกัน เพื่อใช้งานที่เหมาะกับแรงกดในแต่ละเส้นทาง จนถึงการเลือกใช้สปริงแบบตัวเดียว แต่มีค่า K หลายระดับ (PROGRESSIVE) แต่ราคาค่าตัวของคอยล์สปริงแบบนี้จะค่อนข้างสูงกว่าแบบอื่น
แหนบแผ่น แกร่ง ทน สมชื่อ
การติดตั้งระบบแหนบแผ่นซ้อน จะให้ความรู้สึกกระด้างกว่าคอยล์สปริง เนื่องจากจุดยึดของฐานล้อหน้าจะอยู่ใกล้กับแนวกันชนหน้า ฉะนั้นแรงสั่นสะเทือนที่กระทำ จะถ่ายแรงสู่ตัวรถด้านหน้ามากกว่า ถ้าขับขี่ในทางทุรกันดารแบบโหดสุดๆ บอกได้เลยว่าเป็นพระเอก ชนิดที่เรียกว่า ช่วงยุบสุดชุดแขนเพลา สามารถบิดตัวจนแทบจะแตะกับแชสซีส์เลยทีเดียว ช่วงยืดการรักษาสมดุลก็ทำได้ดี เนื่องจากจุดยึดหูแหนบจะมี 2 ด้าน คือ หน้าและหลัง สามารถค้ำแขนแหนบให้ยุบตัว และยืดตัวได้ดี การเลือกชุดแหนบให้เหมาะกับความสูงและน้ำหนักบรรทุก ซึ่งการเพิ่มความสูงของชุดแหนบบางครั้งก็จะอาศัย "โตงเตง" เป็นตัวช่วย ปัจจุบันนี้มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งชิ้นเดียว ค่าความสูงตายตัว และแบบ 2 ชั้นนั่งซ้อน หลักการง่ายๆ ที่ให้ความมหัศจรรย์ในช่วงยืดที่มากกว่า
ชอคอับ กับความสำคัญเรื่องยืด/ยุบ
การเลือกชอคอับ ให้คำนึงถึงค่า K (ค่าความแข็ง-ยืดหยุ่น) ของระบบสปริง ระยะชักควรมีขนาดที่พอเหมาะกับความสูงและการใช้งาน ซึ่งการเซทรถโฟร์วีลดไรฟ หรือกระบะทั่วไป ที่ต้องคำนึงถึง คือ การเซทความสูงของรถ ด้านหลังควรสูงกว่าด้านหน้าเล็กน้อยไม่เกิน 1 นิ้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผื่อแรงกดที่ถ่ายแรงจากเครื่องยนต์ และน้ำหนักบรรทุกที่กระทำต่อรถจะดีที่สุด เพื่อการปรับแต่งอย่างเหมาะสมกับการขับขี่ของทุกท่าน เลือกตามใจชอบเลยครับ ข้อสำคัญ อย่ารีบร้อนที่จะเข้ารับการตกแต่งจากอู่นั้นๆ หากมิได้สืบหาข้อมูลความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ให้ลึกซึ้ง อู่บางแห่งจะชำนาญงานบริการเฉพาะด้าน และเมื่อตัดสินใจแล้ว "กรุณาอย่าเร่งรัดให้ทางอู่รีบจัดการกับรถคันโปรด ให้เสร็จเร็วไว" เพราะอาจเป็นชนวนให้คุณและอู่ผิดใจกัน อยากได้งานฝีมือ และจบปัญหาทั้ง 2 ฝ่ายแบบยิ้มได้ทั้งคู่ นั่นคือ อย่ารีบนะครับ...เดี๋ยวแจ่มเอง
อ่านต่อ
เรื่องโดย : พันทาง
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2556
คอลัมน์ Online : รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/88810
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
1 Feb 2013
หลากวิธีเพิ่มความสูงให้รถลุย (จบ)
รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
1 Oct 2012
วินซ์ ตัวช่วยของชาวลุย (จบ)
รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
1 Sep 2012
วินช์
รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
1 May 2012
กล้องมองหลัง
รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง
1 Nov 2011
ฮับลอค แมนวล
ดูต่อในคอลัมน์ รู้ลึกอุปกรณ์ตกแต่ง