หลังเสร็จจากชมงาน มหกรรมยานยนต์ปารีส ผมก็บินไปสมทบกับคณะสื่อมวลชนไทยที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อร่วมเดินทางไปเมืองเวโรนา ชมกิจการของกลุ่ม มีดี ยุโรป (MIDI EUROPE) ผู้จัดจำหน่ายรถกระบะ อีซูซุ ดี-แมกซ์ ในอิตาลี ฝรั่งเศส สวิทเซอร์แลนด์ และสเปน
แต่ก่อนจะถึงเวโรนา ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ฯ เจ้าภาพของทริพนี้ พาพวกเราไปทำสปาทรีทเมนท์กันที่ เวลเนส เซนเตอร์ อะควาเรีย (WELLNESS CENTER AQUARIA) เมืองเซอร์มิโอเน (SIRMIONE) ซึ่งทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ว่า
เศษผ้ารูปทรงแปลกๆ ที่เขาแจกให้ก่อนเริ่มพิธีการ ใช้นุ่งแทนกางเกงใน ไม่ใช่ใช้คาดปาก !
และเมื่อสปาแล้ว ต้องอาบน้ำอาบท่าเพื่อล้างคราบน้ำโคลนออกให้หมด ไม่ใช่แต่งตัวออกไปกินข้าวทั้งคราบ และกลิ่นโคลนอย่างผม
ที่เวโรนา เราได้ไปเยี่ยมชมกิจการของกลุ่มบริษัทมีดี ยุโรป ของตระกูล มิรันโดลา ซึ่งนำเข้ารถกระบะ อีซูซุ ดี-แมกซ์ ทั้งคันจากบ้านเราไปจำหน่ายให้ฝรั่งหลายประเทศ นอกจากนี้ ยังสั่งชิ้นส่วนรถบรรทุก อีซูซุ ไปประกอบขายอีกด้วย โดยรถทุกประเภทของ อีซูซุ ที่จัดจำหน่ายโดยมีดี มียอดจำหน่ายสูงน่าพอใจติดต่อกันหลายปี
วันนั้นถือเป็นโชคดีของผม ที่นอกจากจะได้ชมกิจการของมีดีแล้ว ยังได้ไปลองของดีด้วย
ของดีที่ว่าคือ นม ของ จูเลียตแฟนของพ่อหนุ่มโรเมโอ ครับ
โรเมโอ แอนด์ จูเลียต เป็นนวนิยายอมตะของ นายเขย่าหอก วิลเลียม เชคสเปียร์ ซึ่งมีฉากหลังเป็นเมืองเวโรนา ดังนั้น ชาวเมืองเลยถือโอกาสบูรณะโรงเตี๊ยมเก่าขึ้นเป็นบ้านของจูเลียต (CASADI GIULIETTA) แล้วเปิดให้เข้าชม กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองไปเลย
แน่นอน ในบ้านหลังนี้ต้องมีรูปปั้นของจูเลียต อยู่ด้วย และกิจกรรมที่พวกนักท่องเที่ยวทั้งชายและหญิงนิยมกัน คือ จับนมอีหนูจูเลียต จนส่วนนั้นของเธอเป็นมันแผล็บ โดยว่ากันว่าจะช่วยให้สมหวังในความรัก
นี่แหละครับ ของดี ที่ผมก็ไม่พลาดเช่นกัน !
วันรุ่งขึ้น เราออกจากเวโรนา บินไปยังเมืองดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นอดีต 1 ใน 6 รัฐที่เคยถูกนายพลตีโต (TITO) จับรวมกันเป็นประเทศยูโกสลาเวีย ก่อนจะเกิดสงครามรบพุ่งกันเองหลังสิ้นนายพลจอมเผด็จการ ในปี 1980 จนที่สุดทั้ง 6 รัฐ ก็แตกออกเป็นประเทศเอกราชอีกครั้ง
เรามีเวลาอยู่ในดูบรอฟนิคไม่นาน แต่ก็ได้ไปเดินชมย่านเมืองเก่า ซึ่งยังมีร่องรอยการสู้รบให้เห็นอยู่มากมาย
อีกประเทศที่แตกออกมาพร้อมๆ กัน คือ มอนเตเนโกร ซึ่งเราได้ไปเยือนต่อจากโครเอเชีย
จากเมืองบุดวา (BUDVA) ในมอนเตเนโกร เราไปรับประทานอาหารกลางวันที่เกาะสเวติ สเตฟาน (SVETI STEFAN) ซึ่งเจ้าของร้านสามารถทักทายเราเป็นภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะเคยต้อนรับคนไทยสัญชาติมอนเตเนโกรบ่อยครั้ง
ไม่ต้องสงสัย คนที่คุณก็รู้ว่าใคร นั่นแหละครับ
เทียบกันระหว่าง โครเอเชีย ซึ่งจะเข้าเป็นสมาชิกอียู ในปี 2013 กับ มอนเตเนโกร ชาวโครแอท ร่ำรวยและใจดี ส่วนชาวมอนเตเนโกรออกจะใจดำและเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนมาก ขนาดคณะเราไปขอเข้าห้องน้ำยังถูกปฏิเสธจากร้านค้า เพราะไม่ยอมซื้อสินค้าของเขา
และก็เป็นธรรมดาที่คนขี้งกมักจะถูกหลอกง่าย แค่ใครสักคนหลอกว่าจะเข้าไปลงทุน ก็รีบประเคนสัญชาติและพาสสปอร์ทให้เขาแล้ว ซึ่งแปลเป็นภาษาเฟศบุคได้ว่า โง่จุงเบยนะตะเอง
(ขอขอบคุณบริษัท ตรีเพชรอีซูซูเซลส์ จำกัด ที่มอบประสบการณ์น่าประทับใจให้แก่เราในครั้งนี้)
Model | Start Price (THB) |