X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ใส่สีใส่สัน
1 Aug 2012
AN AMERICAN IN PARIS
ภาพยนตร์ฮอลลีวูดยุคทศวรรษที่ 50 อัดแน่นด้วยภาพยนตร์เพลง วิวัฒนาการของภาพยนตร์เพลง และการเต้น โครีกราเฟอร์ของหนังมีความสำคัญเท่ากับผู้กำกับการแสดง และผู้เขียนบท จนถึงนักแสดงที่มีความสามารถเฉพาะตัว AN AMERICAN IN PARIS เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้ดูที่โรงหนังศรีเยาวราช ซึ่งค่อนข้างจะเป็น HOME OF GENE KELLY ทั้ง "ระบำสายฝน" (SINGIN' IN THE RAIN) และ "สามทหารเสือ" (THREE MUSKETEERS ปี 1948) เป็นของพระเอกหน้าทะเล้น จีน เคลลี ดนตรีที่ถูกนำมาใช้กับภาพยนตร์เพลงเรื่องนี้ เป็นผลงานของ จอร์จ เกิร์ชวิน โดยชุดเอกของเขาก็คือ เพลง AN AMERICAN IN PARIS เป็นเพลงสุดท้ายของเรื่อง กินความยาวในการฉายถึง 16 นาที จอร์จ เกิร์ชวิน มีพ่อเป็นยิวเชื้อสายยูเครน แม่เป็นคนรัสเซีย ลี้ภัยการเมืองเข้ามาอยู่ที่สหรัฐ ฯ เกิดที่สหรัฐ ฯ อายุสั้นแค่ 39 ปี เป็นทั้งนักประพันธ์เพลง และนักเพียโน ผลงานดังๆ ของเขา นอกจาก AN AMERICAN IN PARIS แล้วยังมี RHAPSODY IN BLUE และโอเปราเรื่อง PORGY AND BESS สไตล์เพลงของ จอร์จ เกิร์ชวิน ได้รับอิทธิพลมาจากการดนตรีฝรั่งเศส ซึ่งเขาไปศึกษาที่ปารีสมาระยะหนึ่ง และใช้เวลาในตอนนั้นเขียนเพลง AN AMERICAN IN PARIS จากนั้นกลับมาเขียนอีกหลายเพลงให้กับภาพยนตร์ในฮอลลีวูด ก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยโรคเนื้องอกในสมอง จอร์จ เกิร์ชวิน ตายเมื่อปี 1937 แต่ภาพยนตร์ที่ จีน เคลลี แสดงนำในเรื่อง AN AMERICAN IN PARIS เป็นการสร้างและจำหน่ายในปี 1951 หลังจากการมรณกรรมของเขา 14 ปี จีน เคลลี พอใจกับผลงานมาก เพราะรับหน้าที่เป็นโครีกราเฟอร์เอง ซึ่งนอกจากเพลงในชื่อเดียวกับภาพยนตร์แล้ว ยังมีเพลงฮิทในยุคนั้นอีกหลายเพลง รวมทั้ง I GOT RHYTHM, I'LL BUILD A STAIRWAY TO PARADISE, S WONDERFUL และ OUR LOVE IS HERE TO STAY ลำพังฉากสุดท้ายเพลง AN AMERICAN IN PARIS บริษัทต้องลงทุนสร้างเป็นเงินไม่น้อยกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ ฯ จีน เคลลี รับบท เจอร์รี มัลลิแกน-หนุ่มทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน ตั้งใจไปขุดทองด้วยการเป็นช่างเขียนภาพริมแม่น้ำในกรุงปารีส เช่าห้องอยู่กับนักเพียโนวงคอนเสิร์ทชื่อ อดัม ซึ่งมีเพื่อนอีกคนเป็นนักร้องอาชีพ ชาวฝรั่งเศส ชื่อ อองรี โบเรล สาวไฮโซแสนเหงาคนหนึ่งชื่อ ไมโล รอเบิร์ทส ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แต่มีปัญหาหัวใจ เกิดชอบพอ เจอร์รี ลงทุนซื้อภาพเขียนของเขาที่ข้างถนน 2 ภาพ แล้วก็ปั้นเรื่องว่า สนใจงานเขียนภาพของเขา พยายามสนับสนุนโดยไม่สนใจว่าจะต้องลงทุนเป็นเงินเท่าไร เจอร์รี เป็นศิลปินหยิ่งยโสโอหังไปตามเรื่อง รู้ดีว่าไฮโซคนนี้ต้องการอะไรจากเขา แต่บังเอิญเขาไม่มีหัวใจให้ คืนหนึ่งในร้านอาหาร เขาพบสาวฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อ ลิซา (รับบทโดย เลสลี คารอง) กลายเป็นรักแรกพบ เป็นกำแพงกั้นอาการเถลไถลของหัวใจเข้าไปหาสาวไฮโซ และลิซา ก็ไม่ได้รังเกียจ เจอร์รี ทั้งๆ ที่เธอเป็นคู่หมั้นของ อองรี ด้วยความจำเป็นเกี่ยวกับการอยู่รอดสมัยสงคราม ความลับกันและกันถูกเปิดเผย เมื่อพระเอก เจอร์รี ชวนสาวไฮโซมาในงานพิเศษประจำปีของเหล่าศิลปิน ทุกคนในงานนี้จะสวมชุดสีเดียวกัน คือ ดำกับขาว ลิซา เต้นรำกับ อองรี ส่วน เจอร์รี ก็เต้นรำกับ ไมโล ในที่สุด ไมโล ก็รู้ว่าความปรารถนาของเธอไม่ใช่ความฝันที่เป็นจริง อองรี ก็รู้ในนาทีสุดท้ายว่า ลิซา กับเจอร์รี รักกัน ลิซา จาก เจอร์รี ไปขึ้นรถ อองรี เพื่อการแต่งงานในวันรุ่งขึ้น เจอร์รี อยู่กับเพลง AN AMERICAN IN PARIS เมื่อเพลงจบแล้ว เขาได้ยินเสียงแตรรถกังวานขึ้น อองรี พา ลิซา กลับมาสู่อ้อมกอดของ เจอร์รี เลสลี คารอง เป็นนางเอกประเภทลูกเป็ดขี้เหร่ แต่ก็มีเสน่ห์แฝงในตัวอย่างน่ารัก ไปอีกรูปแบบหนึ่ง แตกต่างจาก ลานา เทอร์เนอร์ หรือ ออเดรย์ เฮพเบิร์น การพบกันและความรักระหว่างคนทั้ง 2 รวดเร็วตามแบบฉบับคนอเมริกัน แทบจะไม่ทันรู้จักชื่อเสียงก็ตกหลุมรักไปแล้ว จีน เคลลี มีหลายเพลงสำหรับแฟนภาพยนตร์ของเขา รวมทั้งเพลง I GOT RHYTHM ซึ่งแสดงร่วมกับเด็กๆ เป็นฉากที่น่ารัก นอกเหนือจากคไลแมกซ์สุดท้ายที่กินความยาวในการฉายถึง 16 นาที ใครที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ คงเทียบฉากนี้ได้กับฉากเพลง บรอดเวย์ บัลเลต์ ในหนังเรื่อง SINGIN' IN THE RAIN ในปี 1952 ภาพยนตร์เพลงส่วนใหญ่จะมาจากค่ายเมโทร แล้วก็มาแบบเหลือกินเหลือใช้ ประเคนใส่แฟนหนังอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ฟังกันให้เต็มอิ่มไปเลย คุณค่าทาง STORY หาไม่ค่อยพบ อาศัยความน่ารักน่าเอ็นดู และเพลงที่ฟังได้ ประกอบกับการเต้นที่ได้บรรยากาศกับเพลง สมัยนี้ ภาพยนตร์เพลงประเภทนี้กลายเป็นตำนานไปหมดแล้ว วินเซนต์ มิลเนลลี ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง ในสาขาผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม และการลำดับภาพ เป็นอีก 1 รางวัลที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง AN AMERICAN IN PARIS ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขา "ภาพยนตร์เพลงยอดเยี่ยมประจำปี" ถือเป็นภาพยนตร์เพลงที่ไม่ธรรมดาครับ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/87329
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ใส่สีใส่สัน
ใส่สีใส่สัน
9 Apr 2014
คนเหล็กอาร์โนลด์
ใส่สีใส่สัน
13 Mar 2014
เพื่อคนทั้งโลก
ใส่สีใส่สัน
4 Dec 2013
THE LUCKY ONE
ใส่สีใส่สัน
1 Nov 2013
อาลัย สายัณห์
ใส่สีใส่สัน
1 Oct 2013
ปริยังกา โจปรา
ดูต่อในคอลัมน์ ใส่สีใส่สัน