ประสาใจ
เงิน, ความรัก, งาน
โลกสมัย อดัม และอีวา บังเอิญผมเกิดไม่ทัน เลยไม่รู้ว่า 2 คนนั้นมีปัญหาชีวิตในด้านไหนกันบ้าง แต่ถึงอย่างไรชีวิตระหว่างหญิงกับชาย ไม่ว่าคู่ไหนก็ไม่พ้นบทกลอน "วิวาห์พระสมุทร" พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6
"เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก เป็นผู้ชายยิ่งยากกว่าหลายเท่า"
ลำบากด้วยกันทั้ง อีวา และอดัม ซึ่งความลำบากก็วิวัฒนาการเรื่อยมาจนถึงวันนี้ ทั้งเพศที่อ่อนแอ และเพศที่แข็งแรง เจอความลำบากจากปัจจัยเหตุ 3 ประการ คือ เงิน, ความรัก, และงาน เป็นส่วนใหญ่
เหตุ 3 ประการนี้ อีวา ลำบากมากกว่า อดัม ต่อให้เธอแข็งแกร่งขนาดไหนก็ต้องมี "ณ ราตรีหนึ่ง" นอนไม่หลับ เพราะความคิดไม่นิ่ง วอกแวกอยู่กับ 3 ประเด็น ไม่เรื่องรายได้ ก็เป็นเรื่องความรัก ไม่เป็นเรื่องความรัก ก็ต้องเป็นเรื่องหน้าที่การงาน ถ้าปีนั้นดันเป็นปีชงด้วย ก็อาจจะเหมาหมดทั้ง 3 ประเด็น
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อายุ 28 ปี ร่ำรวยเพราะเฟศบุค แถมมีเมียเป็นสาวจีน-อเมริกัน กินบะหมี่เส้นเดียวกันอร่อยทุกมื้อ (แถมยังมีรอบเช้าพิเศษสำหรับวันหยุดราชการ)
เลดี กากา อายุ 26 ปี มีเครื่องบินส่วนตัว อัลบัมเพลงของเธอ 2 ปีขายทะลุ 55 ล้านชุด นิตยสารฟอร์บส์ระบุว่าเธอเป็นผู้หญิงทรงอิทธิพลของโลกอันดับที่ 7 ในปี 2010
มาร้องเพลงคืนเดียวที่เมืองไทย ดังกว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำสตรีพม่า มาพบแรงงานพม่าที่ตลาดกุ้ง มหาชัย แฟนๆ ต้องมากางเทนท์ค้างคืนอยู่สนามกีฬา เวทีเพลง รอต้อนรับ เลดี กากา
ลำพัง อดัม กับอีวา 2 รายที่ยกตัวอย่างมานี้ ก็เป็นชนวนกดดันให้คิดแล้ว คนอะไรจะ "เทพประทานพร" ขนาดนั้น
ปัญหาแบบนี้กรมสุขภาพจิตไทยจะแก้ได้หรือไม่ ก็ไม่ทราบ แต่น่าจะมีทางออก ชีวิตไม่มีทางตัน ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีใครไปถึงจุดหมายเพราะชีวิตเดินหน้าทุกวัน
ทางออกประตูใกล้ตัวที่สุด ต้องทบทวนว่า เป็นทุกข์จริง หรือเป็นเพราะการเปรียบเทียบ เอาตัวเราเข้าไปเปรียบเทียบกับเพื่อน
ถ้าทุกข์จริง ก็ระบุออกมาให้ชัดเจนไปเลยว่า 1-2-3-4 ฯลฯ ทุกข์ด้วยเรื่องอะไร และหนทางดับทุกข์จะอยู่ตรงไหน อะไรหรือที่มันจะดีแก่ชีวิตของเรา
นี่เป็นทุกข์ที่ว่า ทำไมเราอายุก็ปูนนี้แล้ว ความสำเร็จของชีวิต เทียบ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หรือเลดี กากา ไม่ได้
ถ้าเป็นทุกข์เพราะการเปรียบเทียบ ระหว่างเรากับคนอื่น ง่ายมาก-ปลงให้ตก เราไม่มีทางรู้หรอกว่า ชีวิตข้างหลังความสำเร็จที่เราเห็นนั้น แท้จริงมันยังไง
ชีวิตจริงของ ซัคเคอร์เบิร์ก หรือกากา อาจลำบากเลือดตากระเด็นยิ่งกว่าเราหลายเท่า ก็ได้...ไม่ใช่หรือ ?
อดัม กับอีวา ไม่มีปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบ เพราะไม่ได้ลงทุนทำมาหากินอะไร ไม่ต้องเช่าพื้นที่ตลาดยิ่งเจริญขายของ ผักผลไม้ที่กินเข้าไปทุกวันก็ไม่ต้องซื้อ และไม่ต้องเพาะปลูก
คุณไม่ใช่ อีวา ไม่ใช่ บียองเซ วัย 30 ปี หรือเลดี กากา ปัญหาหนี้สินไม่ว่าในระบบ หรือนอกระบบ มันนำทางคุณไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงลูกเดียว หลอกตัวเองไม่ได้
แต่ถ้าคุณจัดการกับปัญหานี้ได้ ต้องปรบมือให้ตัวเอง 3 ครั้ง เพราะนั่นหมายความว่า คุณก้าวขึ้นสู่ทำเนียบนักบริหารแล้ว
"หนี้สิน" คือ ดอกเบี้ย ท่องไว้ทุกวัน วันละ 3 มื้อหลังอาหาร และก่อนนอน
สมมติคุณเป็นหนี้ 1,000 บาท คุณชำระหนี้รายเดือน เดือนละ 25 บาท กว่าจะพ้นหนี้อาจจะนานเกินกว่า 10 ปี ขึ้นอยู่กับว่าคุณเสียดอกเบี้ยเท่าไร
แต่ถ้าคุณกลั้นใจชำระเพิ่มอีกเท่าตัว เป็นเดือนละ 50 บาท 2 ปีเศษคุณก็อาจหมดหนี้แล้ว คำนวณอัตราดอกเบี้ยเท่ากับระยะเวลา 10 ปีที่ว่าเมื่อตะกี้
ลูกหลานผมซื้อบ้านราคา 6 ล้านบาท ทำสัญญาผ่อนส่งเดือนละ 30,000 บาท จะ 10 ปีแล้ว เงินต้นก็ยัง 6 ล้านเหมือนเดิม ที่ส่งไปทุกเดือนเป็นค่าดอกเบี้ยทั้งหมด
กับงานที่ทำ ผมเห็นคนหนุ่มสาวมักใจร้อน ชอบเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของ อดัม และอีวา ที่มีความเชื่อมั่นตัวเองสูง
เมื่อมั่นใจก็หลงตัวเองว่า อยู่ตรงไหนก็ได้ ซึ่งก็ไม่ผิดกติกา แต่ข้อสำคัญ คุณต้องคิดให้เป็นว่า รายได้จากหน้าที่การงานของเราตรงนี้ กับที่ใหม่ มีความแตกต่างกันอย่างไร หรือไม่ ?
ถ้าเราต้องไปขึ้นต้นใหม่ เราก็ควรอยู่มันที่เก่านั่นแหละดีกว่า นี่ไม่ใช่เพราะคุณยังหนุ่มยังสาว อายุเท่าไร ถ้าเปลี่ยนงานได้ดีกว่า ก็เปลี่ยนได้ไม่ว่ากัน
ถ้าคุณตกลงใจต้องเปลี่ยนงาน คุณก็ต้องวางแผนให้ดี ตัดความกังวลให้หมด และก่อนอื่นเราต้องท่องให้ได้ อย่าให้ปัญหาในเรื่องเงินเดือนมาเป็นอุปสรรค
สมัยก่อน เมื่อผมทำงานมักเป็นเรื่องของความพอใจ ไม่เคยเสนอเงินเดือนของตัวเองกับนายจ้าง ให้เท่าไรผมก็ทำถ้าพอใจในงานที่ทำ เพราะถ้าผมพอใจ ชีวิตมันก็สนุกกับงานที่เราทำ เรื่องอะไรเราต้องเป็นทุกข์กับเงินเดือนที่เราได้รับ
อย่าไปเพิ่มผลกำไรให้กับยานอนหลับ รู้บ้างไหม มันมียอดเพิ่มการผลิตทุกปี ปีๆ หนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 %
"นี่เรากำลังอยู่กับใคร ?"
นั่นอาจเป็นอีกปัญหาหนึ่ง ถ้าคุณหมายถึง คนที่นอนอยู่ข้างตัวเรา เป็นคนเดียวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเรามากที่สุด
"เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก" ก็เรื่องนี้แหละสำคัญที่สุด ลำบากที่สุด ไม่ต้องฟังเสียงผู้ชายที่สวนกลับมาว่า "เป็นผู้ชายยิ่งยากกว่าหลายเท่า"
ก่อนอะไรอื่น อีวา ต้องถามตัวเองว่า อดัม ของเรายังเป็นผู้เกี่ยวข้องกับชีวิตของเราอยู่หรือเปล่า ? ถ้ายังเกี่ยวข้องจริง เราก็ต้องทบทวนตัวเราเองถึงความเป็นไปได้ ต่อการ-ไปด้วยกัน ไปได้ไกล
วิธีทบทวนที่ได้ผล น่าจะเริ่มต้นด้วยการยกประเด็นสำคัญขึ้นเป็นโจทย์ เช่น เส้นทางแห่งอนาคต
แผนการสำหรับคนเรามักอยู่ในหลักการเดียวกัน "ชีวิตพรุ่งนี้ ต้องดีกว่า"
วันและเวลาที่ผ่านไป เป็นคำตอบที่เป็นความจริงมากที่สุด คุณค่าแห่งความสัมพันธ์ และเป้าหมายแห่งวันข้างหน้า มากับวันเวลาที่ผ่านไป และมันเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมสำหรับเราที่จะเป็นผู้กำหนด
เข้ากันไม่ได้ เป็นปัญหาใหญ่ มากกว่าปัญหาที่ว่า เราเป็นเมีย ทำยังไงจะ "เอาอยู่" เจ้าประคุณสามีของเราได้
เรื่องนี้เป็นปัญหากับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีคู่ครองเป็นคนดัง เช่น ในต่างประเทศเราจะเห็นตัวอย่างอยู่บ่อยๆ หรือในบ้านเมืองของเราเรื่องเตียงคนดังหักแล้วหักอีก ก็มีให้เห็นอยู่เสมอ
และคงไม่ใช่เป็นเพราะความหึงหวง เหตุผลใหญ่น่าจะมาจากครอบครัว มีทั้งพ่อ แม่ และลูก ทุกชีวิตอยู่ในความรับผิดชอบของเรา
อดัม และอีวา มีลูกหลานเยอะมาก ไม่รู้ว่าฮอร์โมนของ อีวา แรงขนาดไหน แต่การมีลูกนั้น ฝรั่งบอกว่าต้องควบคุมน้ำหนัก อย่าให้น้ำหนักเป็นศัตรูกับสุขภาพของคุณ
และฝรั่งก็สั่งมาด้วยว่า อย่าไปกินเลี้ยงบ่อย ยิ่งบุหรี่ด้วยแล้วควรหนีให้ไกล บุหรี่ทำให้กระแสการไหลเวียนของโลหิตไม่งดงาม
แอลกอฮอล ไม่ต้องพูดถึง มีผลกระทบกับการมีบุตร สูตรฝรั่งแจกแจงว่า ผู้หญิงที่ดื่มไวน์อาทิตย์ละ 5 แก้ว มีลูกไม่ทันผู้หญิงที่ดื่มน้อยกว่า
กลับมาที่รายได้ของเรา เงินคงมีความหมาย ถึงเราจะไม่ใช่คนที่บูชาเงินเป็นพระเจ้าก็ตาม ตราบใดที่เรามีงานทำ เราก็คงมีปัญหาไม่มาก ยิ่งเป็นเงินเดือนก็ยิ่งมั่นคงด้วย ประกันสังคมที่ถูกหักไปทุกเดือน ถือเป็นการออมทรัพย์
การออมทรัพย์ของคนเราทุกวันนี้ ค่อนข้างหายาก เพราะค่าครองชีพกดดันอย่างรุนแรง คนไทยสมัยก่อน งานที่ดีที่สุด คือ งานข้าราชการ เพราะมั่นคง ออกแล้วก็มีเบี้ยหวัดให้ งานในภาคเอกชน ออกแล้ว-ออกเลย อย่างดีก็มีเงินเดือนชดเชยก้อนเล็กๆ
ถ้างานของเราอยู่กับองค์กรการค้าที่มีความมั่นคง และมีขนาดใหญ่ มีสาขาข้ามชาติก็ไม่เป็นปัญหามาก แต่ถ้าอยู่กับบริษัทเล็กๆ หรือองค์กรที่เป็นงานเฉพาะกิจ ก็มีปัญหาแน่ อย่างน้อยก็เป็นปัญหาเรื่องบำนาญ
ประกันสังคมในบ้านเราถือว่าโอเค เงินประกันของคุณจะได้รับคืนเมื่อคุณอายุ 55 ปี และยังมีชีวิต คุณขอคืนได้ หากเริ่มตอนอายุ 30 ปี ก็เป็นเงินไม่น้อย
เงิน, ความรัก, งาน...ปัญหาของคุณ อยู่ตรงไหน ? และคุณบริหารจัดการกับมันอย่างไร ?
เรื่องโดย : ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : ประสาใจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/86856