เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเค-คลาสส์

เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเค-คลาสส์ สายพันธุ์ล่าสุด เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งที่หรูอย่างมีระดับ ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่ทันสมัยมาให้ครบครัน เครื่องยนต์สมรรถนะสูง และประหยัดเชื้อเพลิง ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในตลาดเอสยูวี ขนาดคอมแพคท์ ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่ทั้งหมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง ให้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่น่าประทับใจ ระบบความบันเทิงให้มาเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเครื่องเสียงแบบทวินทูเนอร์ จอภาพขนาด 14 ซม. ใช้งานร่วมกับ เอมพี 3, ยูเอสบี, บลูทูธ ฯลฯ จีแอลเค-คลาสส์ มีการควบคุมบังคับที่ดี ให้ความปลอดภัยสูง และให้ความสะดวกสบายสูงสุดในการขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีรุ่นขับเคลื่อนเฉพาะล้อคู่หลังด้วย ส่วนในรุ่น 4 แมทิค จะมาพร้อมระบบ ออลล์วีลดไรฟ แบบตลอดเวลา ให้การขับขี่ที่ดีทั้งบนทางเรียบและทางฝุ่น ในสไตล์ ออลล์ เทอร์เรน รูปทรงภายนอกยังมีเค้าโครงของ จีแอลเค-คลาสส์ รุ่นเก่า ที่แฝงไว้ด้วยความคลาสสิคอยู่บ้าง การออกแบบมีความกลมกลืนทั้งคัน ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายรถ โอเวอร์แฮงหน้าสั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลุยโดยไม่ติดสิ่งกีดขวาง เสาหลังคาไม่หนาเทอะทะ กระจกหน้าอยู่ในแนวตั้ง เส้นแนวหลังคาขนานไปกับพื้น การออกแบบตัวรถค่อนข้างโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มุมปะทะและมุมจาก รวมไปถึงความสูงของตัวรถจากพื้นดินเหมาะกับการขับขี่ในเส้นทางทุรกันดาร ทัศนวิสัยโดยรวมทำได้ดี ตำแหน่งเบาะนั่งเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ให้ความสบายในการขับขี่ ทุกรุ่นติดตั้งไฟแอลอีดี ส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยในช่วงกลางวัน กระจังด้านหน้าอยู่ในรูปทรงเดียวกันกับรถเก๋งในตระกูล เมร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นปัจจุบัน แรคหลังคาออกแบบใหม่ กันชนท้ายแบบสปอร์ท เครื่องยนต์เบนซิน แบบบลูเอฟฟิเชียนซี ติดตั้งระบบสตาร์ท/สตอพ เพื่อความประหยัดเชื้อเพลิงเมื่อนำมาใช้งานในเมือง ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล แบบบลูเทค มีระบบควบคุมปริมาณไอเสียให้อยู่ในระดับมาตรฐานยูโร 6 ถูกติดตั้งในรถเอสยูวี เป็นครั้งแรก จีแอลเค 250 บลูเทค 4 แมทิค ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.2 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคท์อินเจคชัน ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 51.0 กก.-ม. ผ่านล้อทั้ง 4 มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 6.1-6.5 ลิตร/100 กม. ค่าปริมาณไอเสีย 159-169 กรัม/กม. เป็นค่าที่ใกล้เคียงกับ จีแอลเค 220 บลูเทค 4 แมทิค ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง มี จีแอลเค 200 ซีดีไอ และจีแอลเค 220 ซีดีไอ ใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราการสิ้นเปลืองทำได้ 5.5-5.6 ลิตร/100 กม. ซึ่งจะดีขึ้นกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนในรุ่นสูงสุดของเครื่องยนต์ดีเซล ได้แก่ จีแอลเค 350 ซีดีไอ 4 แมทิค ใช้เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ให้แรงบิดสูงถึง 63.2 กก.-ม. มาตั้งแต่รอบต่ำ ส่วนเครื่องยนต์เบนซินในรุ่น จีแอลเค 350 4 แมทิค จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดของ PIEZO เข้าไปสู่เครื่องยนต์ วี 6 สูบ 3.5 ลิตร ให้กำลัง 302 แรงม้า แรงบิด 37.6 กก.-ม. ระบบรองรับอิสระ ด้านหน้าแบบสตรัท เหล็กกันโคลง พร้อมคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ เหล็กกันโคลง รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดีในทุกสภาพ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางบนไฮเวย์ หรือทางฝุ่นแบบลุยๆ ระบบช่วยเหลือติดตั้งมาให้มากมาย ทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไข นอกจากนี้ยังติดตั้ง ACTIVE PARKING ASSIST ช่วยผู้ขับเข้าจอดและออกจากที่จอดได้อย่างคล่องแคล่วโดยอัตโนมัติ มีกล้องวงจรปิดติดตั้ง 4 จุดรอบคัน เพื่อส่งภาพแบบ 360 องศา มาให้ผู้ขับขี่ที่จอบนแผงหน้าปัด เพื่อรับรู้สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวรถ ระบบ BLIND SPOT ASSIST ลดมุมบอดขณะเปลี่ยนช่องทางวิ่ง จีแอลเค-คลาสส์ รุ่นใหม่นี้ น่าจะมีผลทำให้ยอดขาย เมร์เซเดส-เบนซ์ ในส่วนของรถเอสยูวี เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน จากความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีที่ติดตั้งลงในรถรุ่นนี้   คุณรู้หรือไม่ ? จีแอลเค-คลาสส์ มีชุดแต่งจาก เอเอมจี เพื่อเอาใจเจ้าของรถที่รักความสปอร์ท ประกอบไปด้วย ชุดแต่งตัวรถเพิ่มความสวยงามและสปอร์ทมากยิ่งขึ้น กันชนหน้า/หลังแบบ เอเอมจี กระจังหน้าใหม่ตกแต่งด้วยโครเมียม ล้อแมกลาย 5 ก้าน น้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว พร้อมระบบรองรับแบบสปอร์ท