มุมมองนักออกแบบ
โวลโว เอส60 ทิ้งเหลี่ยม แต่ไม่ทิ้งลาย
บแรนด์ดังจากสแกนดิเนเวียที่มีประวัติยาวนานในประเทศไทย และเป็นเจ้าของสโลแกนตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต นั่นคือ "ทุกชีวิตปลอดภัยใน โวลโว" แต่สำหรับพื้นที่นี้ เราจะมาพิจารณาเรื่องรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในของรุ่น เอส 60 ทีมออกแบบของเขาทำการบ้านมาดีแค่ไหน ?
ฟอร์มูลา : รุ่นนี้นี่น่าจะเป็นคันสุดท้ายที่ถูกออกแบบโดย สตีฟ แมทติน (STEVE MATTIN) นะครับ
อภิชาต : ผลิตมาประมาณ 3 โมเดล เส้นสายของ โวลโว ก่อนที่ แมทติน จะเข้ามา น่าจะเป็นลักษณะของเหลี่ยมสันชัดเจน ไม่ใช่แนวออร์แกนิคเชฟอย่างตอนนี้ พอ แมทติน มาทำงาน สังเกตการออกแบบ เขาได้จาก เมร์เซเดส-เบนซ์สมัยก่อน อย่างพวกรุ่น เอ-คลาสส์/อี-คลาสส์ (ไฟกลมรุ่นแรก W210) และ เอส-คลาสส์ สำหรับผมถือว่าโอเค เขาดีไซจ์นให้ดูเพรียวขึ้น ดีไซจ์นจากคอนเซพท์ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงดูน่าสนใจ เพราะเขาได้กหัวหน้าดีไซจ์เนอร์ที่ดี คือ สามารถปรับเปลี่ยนดีไซจ์นรถ โวลโว สมัยก่อนที่เป็นทรงกล่อง ให้มีทรวดทรงองค์เอวโค้งเว้ามากขึ้น ส่วนรถต้นแบบแน่นอนว่าต้องออกแบบให้ดูน่าสนใจ พอเราเห็นตัวคอนเซพท์แล้วออกมาเป็นพโรดัคชันคาร์ ซึ่งมันตัดทอนความน่าสนใจลงไปเยอะ อาจจะถูกใจ และไม่ถูกใจบางคน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์การดูรถด้วยเหมือนกัน เพราะบางคนเห็นแล้วไม่ชอบ เพราะเป็น "เซฟที อิน เธอะ บอค" (SAFETY IN THE BOX) แต่ตัวนี้มันไม่ใช่ ทีมออกแบบ โวลโว เขาพยายามรักษาความปลอดภัยให้ยังคงอยู่ ขณะเดียวกัน รถก็มีบุคลิกดีขึ้น มากกว่าเป็นรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม
ภัทรกิติ์ : ตอนนี้คำว่า "เชฟที" ของ โวลโว มันข้ามจุดคำว่า เชพทีทรงกล่องแบบสมัยก่อนไปแล้ว สมัยก่อน คือ ถ้าชนแล้วรอด แต่สมัยนี้ต้องไม่ชน เราต้องไม่ชน ฉะนั้นรูปร่างจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ชน มันขึ้นอยู่กับที่อะไรบ้าง อาทิ 1. ออกแบบ เวลาขับจะเปลี่ยนเลน คุณมองเห็นคันข้างๆ ไหม ถ้ามองเห็น ก็ไม่ชน แต่ถ้ามองไม่เห็น ก็จะเตือน 2. ถ้าขับไปคนขับหลับใน ปลุกไหม ปลุกถ้าตื่นก็โอเค แต่ถ้าไม่ตื่น มีปลุก และเบรคให้ด้วย นี่ถือว่าเป็นรถในอนาคตแล้วนะ ฉะนั้นไม่จำเป็นจะต้องออกแบบรถให้เป็นทรงหินอีกต่อไปแล้ว รถรุ่นนี้มันเลยระดับแอดวานศ์
ฟอร์มูลา : เขาเตือนไว้ด้วยนะครับว่า คู่กรณีจะต้องเป็นรถยนต์เท่านั้น ถ้าเป้นซาเล้ง/สามล้อ หรือมอเตอร์ไซค์ ไม่นับ หรือมอเตอร์ไซค์นี่ทับแบนเลยนะครับ
อภิชาต : ตัวเซนเซอร์เขาทำงานเฉพาะกับของใหญ่
ภัทรกิติ์ : ฉะนั้นพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมรูปทรงถึงไม่เป็นอย่างรูปลักษณ์ในอดีตที่ผ่านมา ผมว่า โวลโว ค่อยๆ พัฒนารูปร่างไปเรื่อยๆ พอมาอยู่ในเจเนอเรชันของ สตีฟ มาทติน ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ โวลโว ดูดีที่สุดยุคหนึ่งในมุมมองของผม และรู้สึกว่ามันดูไม่เป็น โวลโว
อภิชาต : ผมว่าเป็นจุดหนึ่งของ โวลโว ที่พูดถึงเรื่องการดีไซจ์นมากที่สุด ไม่เหมือนเมื่อก่อน คำว่า "พริทที" ฟังแล้วก็งั้นๆ แต่ถ้าพูดว่า "IT'S CHIC" ผมว่ามันให้อารมณ์ที่ฟังดูได้ใจมากๆ
ภัทรกิติ์ : แต่สำหรับ เอส 60 รุ่นนี้ในความคิด ผมว่ามันยังแหม่งๆ อยู่ในบางจุด เช่น ไฟท้าย ยังไม่ลงตัว ในสายตาผม เขาน่าจะออกแบบได้สวยกว่านี้
อภิชาต : บางจุดนะที่ที่ผมดูแล้วคล้ายๆ เอส-คลาสส์ เลย เช่น บริเวณกันชน
ภัทรกิติ์ : รถยนต์ที่ผมเห็นเส้นคัดลายลักษณะนี้คันแรก คือ เอาดี เอ 6 รุ่นเก่าที่รูปโฉมมนๆ ของไฟท้ายข้างบน
อภิชาต : ภายนอก เอส 60 จากตัวคอนเซพท์คาร์ถึงตัวผลิตจริง เกือบครบ แต่มีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อย แต่มันทำให้รถดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่วนไฟท้ายก็ดูเป็นทเรนด์สมัยนี้มากขึ้น เส้นด้านข้างยาวไปถึงหลัง (อีกแล้ว) นี่ถือว่าเป็นทเรนด์อีกอย่างหนึ่งของรถยนต์สมัยนี้
ภัทรกิติ์ : เขาพยายามดึงรถให้มีความยาวเพิ่มขึ้น ทำให้รถยนต์ดูเป็นรถ 2 ตอนครึ่งมากขึ้น
อภิชาต : ผมคิดเหมือนป้องนะ
ฟอร์มูลา : สำหรับผม ชอบภายนอกนะครับ และอาจารย์ชอบกันไหมครับ ?
ภัทรกิติ์ : หน้าตาเหมือนปลามังกร อโรวานา ผมเห็นครั้งแรกรู้สึกเหมือนรถมันยุบไปหมด มันมีความน่าสนใจ แต่รู้สึกว่าสัดส่วนมันดูแปลก พอมองเป็นส่วนๆ แล้วดูยุ่งๆ โดยเฉพาะไฟท้าย ขัดหูขัดตาพิลึก อย่างโลโก โวลโว ถ้าเปลี่ยนเป็น แจกวาร์ จะดูโอเคกว่านี้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือ โวลโว รูปทรงกล่อง จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว คันนี้จัดเต็มมาแล้ว ต่อจากนี้คงต้องดูกันต่อไปว่าจะดีไซจ์นกันอย่างไร จุดเด่นๆ ที่คนใช้รถ โวลโว ที่ แมทติน ออกแบบ น่าจะเป็นภายใน และในมุมมองผมนะ โดยเฉพาะเครื่องเสียงบริเวณคอนโซลกลาง เหมือนลอยได้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะลอยไปทำไม
ฟอร์มูลา : คอนโซลแบบลอยตัว จะมีมาตั้งแต่ ซี 30 แล้ว
ภัทรกิติ์ : นับเป็นจุดเด่นของ โวลโว ได้ ซึ่งไม่เหมือนใคร แล้วก็ไม่มีใครเหมือน แต่ตอนนี้มี โตโยตา ปรีอุส มาเสมอเหมือน ซึ่งคันนี้ถือเป็นรถยนต์ที่โดดเด่นที่สุดคันหนึ่งที่ สตีฟ แมทติน ออกแบบ
อภิชาต : ภายในผมว่ามันโอเคอยู่แล้วนะครับ แต่เหตุผลที่จะทำให้ผมซื้อรถคันนี้ คงเป็นเอกลักษณ์ของ โวลโว ที่ไม่เปลี่ยนไปมากกว่า จำพวกการตกแต่งแนวเส้นสาย ลายไม้ต่างๆ ทำให้รถดูมีรสนิยมมากขึ้น และผสมผสานทุกอย่างได้ลงตัว
ภัทรกิติ์ : รถยนต์แบบนี้ นั่งแล้วสบายจริง ดีเลิศ อีกต่างหาก แค่ไปทดลองนั่งก็จะหลับคาที่แล้วครับ
ฟอร์มูลา : แต่อารมณ์การขับขี่ จะสู่พวกเยอรมันไม่ได้
ภัทรกิติ์ : นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ซื้อแล้วไม่เป็นไร พูดถึงอารมณ์ตอนแรก
ฟอร์มูลา : เขาพยายามสร้างบแรนด์ ให้เทียบเท่าพวกเยอรมัน แต่ทำไม่ได้สักที
อภิชาต : แต่รถ โวลโว มันสามารถขายตัวมันเองได้นะ มันเลยดูมีมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้นในตัว เป็นอะไรที่มากกว่ารถ มันมีคาแรคเตอร์ มันเป็นวอลุม มันคือ การดีไซจ์นเส้นสายที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป การเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร มันให้อารมณ์ที่แตกต่าง
ภัทรกิติ์ : โวลโว เป็นเจ้าแรกที่เอาวัสดุสีอ่อนมาทำเป็นคอนโซล ซึ่งดูเป็นวัสดุราคาถูก แต่ โวลโว กล้าที่จะนำมาใช้ เพราะสมัยก่อนคอนโซลจะเน้นโทนดำๆ เข้มๆ ไว้ก่อน แต่ โวลโว เขาเลือกสีสว่าง มาทำเป็นคอนโซล กล้าเปลี่ยนเพื่อความแตกต่าง เปลี่ยนโลก มีรสนิยมมาก และทำให้ภายในห้องโดยสารดูสว่างไสว โวลโว เปลี่ยนโลกไปเลย การออกแบบ เพื่อแก้ข้อผิดพลาดบางอย่างของ โวลโว ที่ดูไม่ดีพอ เรามองสวย แต่ยอดขายไม่พุ่ง...นี่คือข้อสงสัย โวลโว ยุคหลังๆ อาจจะไม่มีจุดขายที่ชัดเจนมากนัก รถยนต์ที่ไปตามทเรนด์ มักจะขายไม่ออก ไปไม่รอด จะต้องมีแนวทางชัดเจน ซึ่งตรงนี้ โวลโว พยายามหาจุดขายที่ชัดเจน และจริงจัง
อภิชาต : มีจุดเด่นหลายอย่างที่มาประกอบกัน โชว์รูม โบร์ชัวร์ ฯลฯ การที่ลูกค้าเดินเข้ามาในโชว์รูม นั่นมีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้าองค์ประกอบต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกมีจุดเด่น ย่อมปิดการขายทำได้ไม่ยาก
ภัทรกิติ์ : การออกแบบของเขา ดูดี...แต่ไม่มีเอกลักษณ์ เราต้องรอดูว่า คอนเซพท์ตัวใหม่ จะดีไซจ์นอะไรใหม่ๆ ออกมา จะเรียกเรทิงให้ โวลโว ได้เหมือนเดิมหรือไม่
อภิชาต : น่าเสียดายที่ สตีฟ แมทติน ร่วมงานอยู่ด้วยไม่นาน ดีไซจ์เนอร์ น่าจะร่วมงานอยู่กับค่ายรถยนต์อย่างน้อย 5 ปี แต่เขาอยู่ไม่ถึง
ภัทรกิติ์ : ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของ สตีฟ แมทติน ถึงจะสั้น แต่ก็เป็นที่จดจำตลอดไป
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/86073