ประกันภัย
"เอาอยู่" แช่นานประกันภัยยิ่งเน่า
ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้วและฉบับก่อนๆ ที่พูดคุยกันมา หลังจากเกิดมหัตภัยน้ำท่วมใหญ่กว่า 50 จังหวัด ของประเทศไทย ที่นายกยิ่งลักษณ์บอกว่า เอาอยู่ ไม่รู้เอากันอย่างไร เล่นเอาความเสียหายของประเทศไทยปีเดียวมีมากกว่า ล้านล้านบาท (1,000,000,000,000) เท่ากับงบประงานแผ่นดินเมื่อ 3 ปีที่แล้วเลยทีเดียวเฉพาะตัวเลขในส่วนที่บริษัทประกันภัยจะต้องรับผิดชอบสรุปเบื้องต้น ข้อมูลล่าสุด ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่บริษัทประกันภัยนำส่งให้กับสำนักงาน คปภ. ณ 30 มกราคม 2555 สำหรับความเสียหายด้านการประกันภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วม ยอดค่าเสียหายรวมที่ผู้เอาประกันภัยเรียกร้องเข้ามามีจำนวนทั้งสิ้น 276,408 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเสียหายลูกค้ารายใหญ่ ประเภทโรงงานอุตสาหกรรม 266,459 ล้านบาท จำนวนโรงงานที่แจ้งเคลมเข้ามา 7,002 ราย ชดใช้แล้ว 2,459 ราย เป็นเงิน 30,874 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ 4,543 รายค่าเสียหายครัวเรือน และ เอสเอมอี ขนาดเล็ก และ ร้านค้า วงเงิน 6,772 ล้านบาท มีการแจ้ง เคลมเข้ามา 20,670 ราย ชดใช้แล้ว 9,913 ราย วงเงิน 744 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ 10,757 ราย และค่าเสียหายรถยนต์ วงเงิน 3,176 ล้านบาท รถยนต์ที่แจ้งเคลมเข้ามา 32,055 คัน ชดใช้แล้ว 15,167 คัน เป็นเงิน 1,476 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น รอคิวซ่อม เป็นต้นอีก 16,888 คัน รวมค่าสินไหมทุกประเภทที่จ่ายให้ลูกค้าแล้ว 33,094 ล้านบาท หรือราว 12 % ของยอดรวม บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ จำกัด สาขาประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทจ่ายสินไหมไปแล้ว ประมาณ 20 % เป็นหลักหมื่นล้านบาท เรียกเงินจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นทยอยจ่ายมาให้เรื่อยๆ จากการสำรวจ ความเสียหายจากน้ำท่วมที่มีการทำประกันภัยไว้ กับบริษัท ฯ น่าจะใกล้เคียงความจริงแล้ว โดยมีการสำรวจเสร็จไปประมาณ 80 % ความเสียหายใกล้แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม ที่เคยประมาณการไว้ที่ประมาณ 70,000 กว่าล้านบาท ด้านบริษัท โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย จำกัด แจ้งว่า ได้มีการจ่ายสินไหมไปแล้วประมาณ 10 % ของค่าความเสียหายจากน้ำท่วม ที่เคยประมาณไว้ เมื่อปลายปีก่อนราว 81,000 ล้านบาท บริษัท สมโพธิ์ เจแปน ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จ่ายสินไหมไปแล้วประมาณ 10 % ของความเสียหายประมาณ 50,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้สำรวจความเสียหายเบื้องต้นเสร็จแล้ว ตั้งเป้าหมายภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะต้องจ่ายค่าเสียหายให้ได้ไม่ต่ำกว่า 75 % จะเห็นได้แค่เพียง 3 บริษัทในกลุ่มญี่ปุ่น ยอดค่าเสียหายรวมประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท แล้วอีก 60 กว่าบริษัท ค่าเสียหายรวมของกลุ่มบริษัทประกันภัยไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านบาทแน่นอน เพราะตัวเลขของบริษัทขนาดใหญ่ อย่างเช่น กรุงเทพประกันภัย ฯ ทิพยประกันภัย ฯ ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย ฯ และ เทเวศประกันภัย ฯ แต่ละบริษัทตัวเลขความเสียหายเกิน 50,000 ล้านบาทต่อบริษัท แม้แต่บริษัทขนาดกลาง อย่าง นวกิจประกันภัย ฯ ผู้เขียนได้รับการยืนยันจากผู้บริหารบริษัท ฯ ว่า ค่าเสียหายที่ต้องรับผิดชอบมากกว่า 30,000 ล้านบาท สาเหตุสำคัญที่ความเสียหายมาก เนื่องจากน้ำที่เข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรม ที่บริษัทประกันภัยรับประกันไว้ส่วนใหญ่ขังนาน ไม่ได้ท่วมแล้วไปทันที ทำให้ทรัพย์สินในโรงงานต่างๆ เสียหายมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องจักร "ตอนแรกไม่คิดว่าน้ำจะอยู่นานขนาดนี้ จึงไม่คิดว่าทรัพย์สินจะเสียหายเยอะ พอน้ำขังนานทำให้เครื่องจักรที่แช่น้ำนานๆ เสียหนักกว่าเก่า ตัวเลขความเสียหายเพิ่มทุกวัน ทุกบริษัทประกันภัยที่เจอสภาพแบบนี้ ก็มีการคุยกัน น้ำไปแช่นานกว่าที่คิดทำให้ความเสียหายเยอะ สำหรับบริษัทประกันภัยขนาดเล็ก และบริษัทที่ป่วยเรื้อรังอยู่แล้ว เจอมรสุมครั้งนี้ออกอาการหนัก หลายบริษัทยังจัดกระบวนทัพไม่ได้ ผู้บริหารโยกย้ายอพยพหนี สัญญารีอินชัวรันซ์ (ประกันต่อ) เซ็นไม่ได้ เรียกเพิ่มทุนไม่สำเร็จ กองทุนสำรองหรอยหรอ รอสำนักงาน คปภ. เชือด บริษัท ฟีนิกซ์ ประกันภัย ฯ เป็นบริษัทแรกในรอบปี 2555 ที่สำนักงาน คปภ. (คณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ได้มีคำสั่งที่ 1/2555 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 เรื่อง ให้บริษัท ฟีนิกซ์ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ด้วยบริษัท ฟีนิกซ์ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด ดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด และมีทรัพย์สินน้อยกว่าหนี้สิน ทั้งจัดสรรทรัพย์สินหนุนหลังไม่เพียงพอต่อหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญา ประกันภัย ไม่ส่งรายงานการดำรงเงินกองทุน และงบการเงินรายไตรมาสตามที่กฎหมายกำหนด และมีเรื่อง ร้องเรียนเกี่ยวกับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวนมาก ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะที่ อาจเป็นเหตุ ให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัย หรือประชาชน สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามพฤติกรรมบริษัท ฯ อย่างใกล้ชิดมาเป็นเวลาพอสมควร ทั้งได้ให้บริษัท ฯ ดำเนินการแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินงาน แต่บริษัท ฯ ก็ไม่สามารถดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไป บริษัท ฯ จะต้องเร่งดำเนินการ ให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนตามที่กฎหมายกำหนด จัดสรรสินทรัพย์หนุนหลังให้เพียงพอ สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นรายงานประจำเดือน รายงานการดำรงเงินกองทุน และงบการเงินรายไตรมาสที่บริษัทมีหน้าที่ต้องส่งให้ถูกต้องและครบถ้วน จ่ายค่าสินไหมทดแทน ที่ร้องเรียนกับสำนักงาน คปภ. ให้แล้วเสร็จ และจัดให้มีระบบงานและบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความพร้อม ในระบบบัญชีการเงิน ระบบการเสนอขาย ระบบการพิจารณาการรับประกันภัย ฯลฯ ผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัท ที่มีความคุ้มครองอยู่ก่อนคำสั่งหยุดรับประกันภัย เป็นการชั่วคราวนี้ ยังคงได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขแห่งสัญญาประกันภัยทุกประการ ส่วนประชาชนที่ยังไม่ได้ทำสัญญาประกันภัยกับบริษัท จะต้องใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบ อย่างเข้มงวด หากมีปัญหาข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามไปยัง สำนักงาน คปภ. โทร. 0-2515-3999 หรือ สำนักงาน คปภ. จังหวัด หรือ สายด่วนประกันภัย 1186 หรือ www.oic.or.th
เรื่องโดย : กฤชกมล นิติธรรมโกศล
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2555
คอลัมน์ Online : ประกันภัย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/85926