วิถีตลาดรถยนต์
ในที่สุดก็ทำได้แค่เกือบ
ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 จากที่เคยประเมินไว้ว่าจะทำได้ดีกว่าในปี 2553 ปรากฏว่าปี 2554 ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศรวมกันทั้งหมดอยู่ที่ 794,081 คัน ขณะที่ปี 2553 อยู่ที่ 800,357 คัน ติดลบไป 0.8 % ทำได้แค่เกือบเท่านั้น ถ้าไม่มีภัยธรรมชาติถล่มญี่ปุ่นช่วงต้นปี และมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในบ้านเรา ไม่มีทางทำลายยอดจำหน่ายที่เคยทำได้ในปี 2553 อย่างแน่นอน
เฉพาะเดือนธันวาคม ที่เคยเป็นเดือนแห่งความสุข ผู้คนกระเป๋าตุงเงินทองสะพัด ปีนี้ถึงจะได้เงินซึ่งอาจจะมากขึ้นกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม แต่ก็ต้องกันเอาไว้เป็นค่าซ่อมแซมบ้านเรือน และรถที่เสียหายจากมหาอุทกภัย ออร์เดอร์ใหม่จึงไม่ค่อยมีเข้ามา ส่วนใหญ่ก็เป็นการส่งมอบของเดิมที่ค้างจองเอาไว้ ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนนี้จึงออกมาเพียงแค่ 54,575 คัน (ไม่รวม บีเอมดับเบิลยู, มีนี และเมร์เซเดส-เบนซ์ ที่ไม่ได้แจ้งยอดจำหน่าย) ลดลงกว่าเดือนธันวาคมปี 2553 ถึง 41.4 % ส่งท้ายปีกันไม่ค่อยจะสวยหรูเลย ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งจะได้แรงหนุนจากช่วงนาทีทองในงาน MOTOR EXPO ช่วงต้นเดือนก็ตามที คงจะไปได้เห็นกันจริงๆ ในช่วงต้นปี 2555 ที่ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย เดินหน้าค้าขายกันอย่างเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคมบรรดาเจ้าของตำแหน่งแชมพ์ขายดีสูงสุด ทยอยกลับเข้าสู่สถานะเดิมกันเกือบหมดแล้ว เหลือเพียง ฮอนดา ที่ยังไม่กระเตื้องขึ้นเท่าใดนัก โตโยตา กลับสู่ตำแหน่งแชมพ์ ยอดขายเดือนธันวาคม หดหายไปถึง 60.4 % เหลือเพียง 14,709 คัน แต่ก็ดีพอจะขึ้นหัวแถวอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ อีซูซุ ก็ไม่เบา ติดลบไป 52.7 % จำหน่ายได้แค่ 8,241 คัน ยังกลับมาอยู่ในอันดับที่ 2 ได้ นิสสัน เกาะหนึบอยู่ในอันดับที่ 3 ไม่เปลี่ยนแปลงด้วยยอดจำหน่าย 7,423 คัน เพิ่มขึ้น 21.1 % ส่วน มิตซูบิชิ หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ที่คุ้นเคย อย่างไรก็ตามต้องถือว่าปี 2554 นี้เป็นปีทองของ มิตซูบิชิ เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าเดือนส่งท้ายจะติดลบไปบ้าง ก็ยังดูดีอยู่ในภาพรวมทั้งปี เดือนธันวาคมจำหน่ายได้ 5,441 คัน ติดลบ 1.5 % อันดับที่ 5 เป็นของ มาซดา ที่ทุกโมเดลในปี 2554 โดนใจนักเลงรถไปหมด เดือนธันวาคมทำยอดจำหน่ายไป 4,855 คัน เพิ่มขึ้น 20.5 %
สรุปแล้วในปี 2554 โตโยตา จำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทรวมกันได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดรวม 289,439 คัน ลดลง 11.1 % มีส่วนแบ่งการตลาด 36.4 % อันดับที่ 2 ค่าย อีซูซุ 132,194 คัน ลดลง 13.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 16.6 % อันดับที่ 3 ฮอนดา ทำผลงานรวมกัน 83,952 คัน ลดลง 26.4 % ส่วนแบ่งตลาด 10.6 % อันดับที่ 4 นิสสัน ยอดจำหน่ายรวมทั้งปี 69,204 คัน ปรับตัวสูงขึ้น 26.0 % ส่วนแบ่งตลาด 8.7 % และอันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 66,002 คัน ปรับตัวสูงขึ้นถึง 63.6 % ได้ส่วนแบ่งการตลาด 8.3 %
ตลาดรถพิคอัพ ถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุด และมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักที่สุด เริ่มตั้งแต่ก่อนมหาอุทกภัยจนถึงสิ้นปี ในส่วนของพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ความเคลื่อนไหวสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาล 2554 ได้แก่ การโชว์ตัวพร้อมเปิดรับจองล่วงหน้าของ มาซดา บีที-50 พโร เลือดใหม่ของพิคอัพ มาซดา ในงาน MOTOR EXPO ทำเอาแฟนๆ มาซดา ถึงกับตื่นตาตื่นใจกันเป็นแถวในความงามสไตล์รถเก๋งของพิคอัพคันใหม่นี้ ถึงเวลาเปิดตัวออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2555 คงทำให้ยักษ์ใหญ่หลายค่ายต้องจับตามองไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เดือนธันวาคม พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 18,527 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีก่อนหน้า 53.4 % อีซูซุ กลับมายืนหัวแถวในเดือนนี้ ด้วยยอดจำหน่าย 6,973 คัน ลดลง 51.9 % ส่วนแบ่ง 37.6 % โตโยตา อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยยอด 4,308 คัน ลดลงถึง 72.1 % ส่วนแบ่ง 23.3 % อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 3,710 คัน เพิ่มขึ้น 12.4 % ส่วนแบ่ง 20.0 % อันดับที่ 4 นิสสัน 1,060 คัน ลดลง 62.5 % ส่วนแบ่ง 5.7 % อันดับที่ 5 มาเงียบๆ ซูซูกิ 819 คัน เพิ่มขึ้นถึง 446.0 % ส่วนแบ่ง 4.4 % อะไรจะขนาดนั้น ยอดรวมทั้งปี 2554 พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ จำหน่ายไปได้ทั้งสิ้น 318,411 คัน ลดลงจากปี 2553 ไป 4.2 %
รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ลุยน้ำท่วมได้ถึงใจพระเดชพระคุณเสียเหลือเกิน เดือนธันวาคมมียอดจำหน่ายรวม 1,366 คัน ติดลบจากเดือนธันวาคมปีก่อนหน้า 36.3 % ตลาดนี้มีกันอยู่ไม่ถึง 10 ยี่ห้อดี โตโยตา เป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 735 คัน ลดลง 53.3 % อันดับ 2 อีซูซุ 451 คัน เพิ่มขึ้น 18.4 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ 122 คัน เพิ่มขึ้นมหาศาล 1,120.0 % อันดับ 4 นิสสัน 42 คัน ติดลบ 69.8 % อันดับ 5 ฟอร์ด 8 คัน ลดลง 72.4 % รวม 12 เดือนในปี 2554 ตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 15,973 คัน ลดลง 15.6 % โตโยตา ครองตำแหน่งแชมพ์ด้วยยอด 10,480 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 22.1 % ครองส่วนแบ่งตลาด 65.6 % อันดับที่ 2 อีซูซุ 2,567 คัน ปรับตัวลดลง 21.7 % ส่วนแบ่งตลาด 16.1 % อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,293 คัน เพิ่มขึ้น 107.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.1 % อันดับที่ 4 นิสสัน 1,236 คัน เกือบได้อันดับที่ 3 ปรับตัวสูงขึ้น 28.9 % ได้ส่วนแบ่งตลาด 7.7 % และอันดับที่ 5 เป็นของ ฟอร์ด 280 คัน ลดลง 35.8 % ส่วนแบ่งตลาด 1.8 %
ตลาดรถเอสยูวี เดือนธันวาคมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง เดือนนี้เป็นทีของ เชฟโรเลต์ ที่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1 บ้าง ส่วนแชมพ์เดือนที่แล้ว มิตซูบิชิ หล่นไปอยู่อันดับที่ 3 ทางด้านของแชมพ์ผูกขาด โตโยตา ไปว่าการในอันดับที่ 2 โดย เชฟโรเลต์ มียอดจำหน่ายที่ 1,532 คัน เติบโตสูงขึ้นถึง 132.5 % เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี 2553 ได้ส่วนแบ่งการตลาด 36.1 % ยอดจำหน่ายของ โตโยตา อยู่ที่ 1,092 คัน ติดลบ 51.2 % ส่วนแบ่งตลาด 25.7 % มิตซูบิชิ 1,022 คัน ติดลบ 11.4 % ส่วนแบ่งตลาด 24.1 % ฮอนดา ที่เคยครองความเป็นหัวแถว หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยยอด 239 คัน ลดลง 80.0 % ส่วนแบ่งตลาด 5.6 % และฟอร์ด อยู่ในอันดับที่ 5 ขายได้ 141 คัน ลดลง 37.6 % ส่วนแบ่งตลาด 3.3 % ยอดจำหน่ายทั้งตลาด เดือนธันวาคม 4,243 คัน ลดลง 39.6 % ยอดรวมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคมของตลาดนี้ อยู่ที่ 53,433 คัน ลดลง 5.3 % แชมพ์เป็นของ มิตซูบิชิ 17,548 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2553 เท่ากับ 61.4 % ส่วนแบ่งตลาด 32.8 % ตามด้วย โตโยตา 13,083 คัน ปรับตัวลดลง 36.5 % ส่วนแบ่งตลาด 24.5 % อีซูซุ 6,553 คัน ลดลง 18.4 % มีส่วนแบ่งตลาด 12.3 % เชฟโรเลต์ 6,095 คัน ขายได้มากขึ้น 49.5 % ส่วนแบ่งตลาด 11.4 % และฮอนดา 6,019 คัน จำหน่ายได้น้อยลง 36.9 % มีส่วนแบ่งการตลาด 11.3 %
รถเอมพีวี มียอดจำหน่ายเดือนธันวาคมรวม 912 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีก่อนหน้า 43.2 % ผลงานที่โดดเด่นเป็นของ โตโยตา 541 คัน ลดลง 45.5 % ส่วนแบ่งตลาด 59.3 % ปโรตอน 145 คัน ลดลง 32.2 % ส่วนแบ่งตลาด 15.9 % ฮอนดา 127 คัน ลดลง 38.0 % ส่วนแบ่งตลาด 13.9 % เกีย 28 คัน เพิ่มขึ้น 55.6 % ส่วนแบ่ง 3.1 % และซูซูกิ 24 คัน ขายได้มากขึ้น 242.9 % ตลอดทั้งปีมียอดรวมกันที่ 12,403 คัน ลดลง 10.9 % แชมพ์ตลาดนี้หนีไม่พ้น โตโยตา 8,096 คัน เพิ่มขึ้น 20.6 % ส่วนแบ่งตลาด 65.3 % ตามด้วย ปโรตอน 1,763 คัน ลดลง 25.2 % ส่วนแบ่งตลาด 14.2 % ฮอนดา 1,018 คัน ลดลง 65.3 % ได้ส่วนแบ่งตลาด 8.2 % มิตซูบิชิ 790 คัน ลดน้อยถอยลง 39.5 % ส่วนแบ่งตลาด 6.4 % และวูลิง จากเมืองจีน 160 คัน ปรับเพิ่ม 8.1 % รับส่วนแบ่งตลาด 1.3 %
ปีแห่งความไม่ราบรื่น ไม่สมหวัง ผ่านพ้นไปแล้ว เกจิหลายท่านทำนายทายทักว่าปี 2555 ปีมังกรทอง จะเป็นปีแห่งความสว่างไสวรุ่งโรจน์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไพร่ฟ้าประชาชีจะมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ รถยนต์จะจำหน่ายขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และจะเป็นปีแรกที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ ทะลุเกิน 1 ล้านคัน จะเป็นจริงหรือไม่ประการใดกับยอดจำหน่ายเฉลี่ยตกเดือนละไม่ต่ำกว่า 80,000 คัน ทั้ง 12 เดือนของปีมังกรทองจะได้รู้กัน
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2555
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/85596