ใส่สีใส่สัน
LOVE STORY
ภาพยนตร์รักชีวิตเรื่อง LOVE STORY สร้างเมื่อปี 1970 หรือเมื่อ 41 ปีที่แล้ว เป็นของพาราเมาท์ พิคเจอร์ส ซึ่งเมื่อนำเข้าประเทศไทยก็เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์พาราเมาท์ ประตูน้ำ ผู้จัดการ พาราเมาท์ พิคเจอร์ส ประจำประเทศไทยในขณะนั้น คือ ชนะ ใช้กิจการผมได้รับเลือกจาก พาราเมาท์ พิคเจอร์ส ให้ดำเนินการโฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นกรณีพิเศษ ให้กับภาพยนตร์รักชีวิตเรื่องนี้ ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาที่ผมร่วมงานกับ วันชัย อรรถเวทยวรวุฒิ ทำบริษัทโฆษณา
LOVE STORY เป็นหนังลงทุนไม่มาก แต่บริษัทพาราเมาท์ ฯ ให้ความสนใจกับหนังเรื่องนี้ ต้องการเก็บรายได้ให้สูง ซึ่งก็ปรากฏว่าเรียกผู้คนไปดูกันไม่น้อย ตลอดพโรแกรม ดาราผู้แสดงนำ ไม่ใช่ดาราที่มีความสำคัญเพียงพอต่อการดึงดูดความสนใจ พระเอก คือ ไรอัน โอนีล นางเอกสาว คือ อาลี แมคกรอว์ จุดขายของเรื่องอยู่ที่เนื้อหา เป็นเรื่องราวของความรัก 2 รูปแบบ คือ ความรักระหว่างพระเอกกับนางเอก และความรักระหว่างพระเอกกับบิดาของเขา
โอลิเวอร์ บาร์เรทท์ ที่ 4 เป็นพระเอกของเรื่อง เป็นทายาทในตระกูลมหาเศรษฐี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด วันหนึ่งเขาไปใช้บริการห้องสมุดแรดคลิฟฟ์ ได้พบและเกิดความรักกับ เจนนิเฟอร์ คาวัลเลอรี นักเรียนวิทยาลัยแรดคลิฟฟ์ เจนนิเฟอร์ เป็นเด็กสาวจากครอบครัวชั้นกรรมาชีพ เมื่อสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยแล้ว ทั้งสองก็ตัดสินใจจะแต่งงานกัน ซึ่งไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อของ โอลิเวอร์
พ่อของ โอลิเวอร์ ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขาอย่างมาก ตัดขาดการช่วยเหลือทางการเงินโดยสิ้นเชิง เจนนิเฟอร์ ต้องทำงานเป็นครูโรงเรียนเอกชน เพื่อหารายได้ส่งเสียค่าเล่าเรียนของ โอลิเวอร์ ในขณะที่ต้องเช่าบ้านอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว โอลิเวอร์ ก็เป็นลูกจ้างบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งของเมืองนิวยอร์ก
เมื่อฐานะทางการเงินมั่นคง ทั้ง 2 คนด้วยวัย 24 ปี ก็วางแผนจะมีบุตร หลังจากล้มเหลวต่อการตั้งครรภ์ เจนนิเฟอร์ ก็เข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ หลังการตรวจแล้ว แพทย์ก็แจ้งให้ โอลิเวอร์ ทราบว่า เจนนิเฟอร์ ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และจะต้องเสียชีวิตลงในไม่ช้า
โอลิเวอร์ ชอคกับข่าวร้ายที่ได้รับ แต่ด้วยคำแนะนำของแพทย์ เขาจึงใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่แจ้งความจริงให้ เจนนิเฟอร์ ทราบ อย่างไรก็ตาม เจนนิเฟอร์ ก็รู้ข่าวโรคร้ายด้วยตนเอง ภายหลังที่เข้าพบนายแพทย์ เมื่อวันของคนทั้งสองใกล้ถึงกาลอวสาน โอลิเวอร์ พยายามอย่างมากต่อการบำบัดโรคร้ายของภรรยา จนเงินทองไม่เหลือ และไม่พอสำหรับการรักษาโรคต่อไป
ถึงตอนนี้ โอลิเวอร์ ก็เข้าตาจน จำเป็นต้องแบกหน้าไปขอเงินพ่อ นายบาร์เรทท์ ที่ 3 พ่อของ โอลิเวอร์ ถามลูกชายว่า ที่ต้องมาขอเงินพ่อครั้งนี้เพราะลูกชายไปทำอะไรให้ผู้หญิงมีปัญหายังงั้นใช่ไหม ซึ่ง โอลิเวอร์ ก็ตอบว่าใช่ แต่ไม่ได้บอกไปตามตรงว่า เจนนิเฟอร์ ป่วยด้วยโรคร้ายลูคีเมีย ขณะที่ เจนนิเฟอร์ นอนสิ้นเรี่ยวแรงอยู่บนเตียงคนไข้ เธอพูดกับพ่อของเธอถึงเรื่องการฌาปนกิจศพ แล้วก็ออกปากขอร้อง โอลิเวอร์ ให้เขาหยุดตำหนิตัวเอง และขอให้เขากอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจ ภาพที่เหลืออยู่ให้แฟนหนังเห็นต่อมา ก็คือ ภาพคนทั้งสองนอนเคียงร่างกันและกันอยู่บนเตียงคนไข้ เมื่อ นายบาร์เรทท์ เริ่มเข้าใจเรื่องราวและเหตุผลที่บุตรชายเข้ามาขอเงิน หลังจากรู้ข่าวว่า เจนนิเฟอร์ ป่วยด้วยโรคร้าย เขาก็รีบเดินทางเข้านิวยอร์คทันที แต่เมื่อเขามาถึงโรงพยาบาล เจนนิเฟอร์ ก็เสียชีวิตแล้ว
ผู้เป็นพ่อขอโทษลูกชายด้วยคำพูดว่า "IM SORRY." และลูกชายก็บอกพ่อด้วยข้อความตามที่ เจนนิเฟอร์ เคยพูดกับเขาว่า "หากจะรัก ต้องรู้จักลืมคำว่าเสียใจ"
"LOVE MEANS NEVER HAVING TO SAY YOURE SORRY." ประโยคเดียวของ เอริค ซีกัล ผู้ประพันธ์ ที่ทำให้ผมกับบริษัท ประสบความสำเร็จในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ สำหรับผู้แสดง นอกจาก ไรอัน โอนีลและอาลี แมคกรอว์ แล้วยังมี เรย์ มิลแลนด์ ร่วมรับบทเป็น พ่อของ โอลิเวอร์ และจอห์น มาร์เลย์ รับบทเป็นพ่อของ เจนนิเฟอร์ ผู้กำกับการแสดง ได้แก่ อาร์เธอร์ ฮิลเลอร์ ความยาวในการฉายภาพยนตร์ 99 นาที เริ่มฉายเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี 1970 ด้วยงบลงทุนสร้าง 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ แต่ทำรายได้ 106 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
พาราเมาท์ พิคเจอร์ส ในสหรัฐ ฯ บริหารจัดการเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ LOVE STORY เป็นกรณีพิเศษเช่นกัน ได้มีการขอร้องให้ เอริค ซีกัล ผู้ประพันธ์ ให้เขียนนิยายรักเรื่องหนึ่ง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ก่อนจะออกฉาย เอริค ก็เขียนเรื่อง VALENTINES DAY ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี และมีส่วนช่วยประชาสัมพันธ์ LOVE STORY ไปตามความต้องการของบริษัท
นอกจากนี้ เพลงเอกของภาพยนตร์ WHERE DO I BEGIN ซึ่งขับร้องโดย แอนดี วิลเลียม ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง สร้างรายได้ให้กับบริษัทแผ่นเสียง แอนดี วิลเลียม มหาศาล งานประกาศรางวัลออสการ์ประจำปี 1970 ภาพยนตร์เรื่อง LOVE STORY ได้รับไป 1 รางวัล สาขาดนตรียอดเยี่ยม ประเภทดั้งเดิม ไม่ใช่ดัดแปลง โดยฝีมือของ ฟรานซิส ไล ในขณะที่การประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำได้ไปถึง 5 รางวัล
ได้ทั้งภาพยนตร์ชีวิตยอดเยี่ยม, กำกับการแสดงยอดเยี่ยม, ผู้แสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ครับ...หากจะรัก ต้องรู้จักลืมคำว่าเสียใจ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/84427