พิเศษ(formula)
CARS 2 มีอะไรมากกว่า "การ์ตูน"
4 ปีที่แล้ว ภาพยนตร์แอนิเมชัน เรื่อง CARS ของ พิกซาร์ แอนิเมชัน (PIXAR ANIMATION) และ วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ (WALT DISNEY STUDIO) ทำให้ใครหลายๆ คน หลงรักเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อว่า เรดิเอเตอร์ สปริงส์ (RADIATOR SPRINGS) ใน คาร์บูเรเตอร์ เคาน์ที (CARBURETOR COUNTY)
ปีนี้ทีมผู้สร้างส่ง CARS ภาค 2 กลับมาสร้างความสนุกตื่นเต้นมากกว่าเดิม ด้วยการผจญภัยครั้งใหม่ของเพื่อนซี้ ไลท์นิง แมคควีน กับ เมเทอร์ รถยกหัวลาก พร้อมเพื่อนใหม่ โดยที่เนื้อหาไม่ได้ต่อเนื่องจากภาคที่แล้วแต่อย่างไร แต่มีความสนุกสนาน และสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าแค่การ์ตูนรถยนต์ธรรมดา
CARS 2 นำเสนอในรูปแบบ DIGITAL 3D โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้ผู้ชมที่ไม่ว่าจะนั่งอยู่แถวไหนของโรงภาพยนตร์ มีความรู้สึกรวมเป็นส่วนหนึ่งของรถไปด้วย ด้วยการใช้อุปกรณ์สมัยใหม่ในการโมเดล รวมถึงการให้แสงและเงา ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของวงการภาพยนตร์ เนื้อหาในภาคนี้ จะเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปเพื่อแข่งขันเวิร์ลด์ กรองปรีซ์ (WORLD GRANDPRIX) แต่กว่าจะถึงสนามแข่ง เพื่อนซี้ เมเทอร์ กลับเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการเป็นหน่วยสืบราชการลับ ความตื่นเต้นกับภารกิจนี้ของ เมเทอร์ จะจบลงอย่างไรต้องไปติดตาม
ทีมผู้สร้าง ฯ และผู้กำกับการแสดง ยังคงเป็นทีมเดิม โดย จอห์น แลสเซเตอร์ (JOHN LASSETER) ได้เนรมิตตัวละครที่เป็นรถยนต์ทั้งหมด 145 คัน รวมถึงตัวประกอบอื่นๆ กว่า 781 คัน รถแบคกราวน์ดที่มีอยู่ 13 แบบ รวมถึงรถแบบใหม่ๆ อีกกว่า 768 แบบ นับเป็นตัวการ์ตูนใหม่สดในภาคนี้ ไม่รวมจากภาคแรกกว่า 926 คัน
ผู้กำกับศิลป์ เจย์ ชูสเตอร์ ผู้อยู่เบื้องหลัง CARS ภาค 1 มาถึงภาคนี้ ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ดูแลฝ่ายศิลป์เช่นเดิม "เขาเริ่มต้นรวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้ได้มากที่สุด หลังจากดีไซจ์นรูปแบบออกมาได้แล้ว ทีมงานก็ได้พัฒนาภาพ 3 มุมที่บรรยายถึงพื้นผิวทุกอย่าง หลังจากประเมินแบบเรียบร้อย และพยายามทำให้สัดส่วนและฐานล้อของตัวการ์ตูนให้ใกล้เคียงของจริง ทีมงานจึงเริ่มสร้างรูปทรงจริงจากแบบสเกทช์
ส่วนผู้กำกับภาพ เจเรมี ลาสกี ได้ให้ความเห็นว่า "อยากให้ภาพในการ์ตูน CARS 2 ให้ความรู้สึกของการแข่งขันบนท้องถนน หรือการแข่งขับรถ สูตร 1 จริงๆ ซึ่งในขณะเดียวกัน อยากให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกับไม่ได้ดูจากการแข่งขันพวกนี้ในโทรทัศน์ แต่อยากให้รู้สึกเหมือนกับว่า ผู้ชมกำลังแข่งไปกับรถพวกนี้จริงๆ"
ฮาร์ลีย์ เจสซัพ ฝ่ายสร้างสรรค์และฝ่ายศิลป์ พยายามออกแบบสถานที่ต่างๆ ที่ตัวเอก และผองเพื่อนเดินทางไปทั้งหมด ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของสถานที่นั้นๆ มีความเป็น "รถ" เข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น
ฉากในลอนดอน มีบางมุมที่วิหารเซนท์พอล มีรูปร่างเหมือนกระปุกเกียร์รถ และทีเด็ดที่สุด คือ หอนาฬิกาบิกเบน ซึ่งทีมผู้สร้างจะทำให้กลายเป็น "บิกเบนท์ลีย์" นอกจากนั้นสถานที่สำคัญที่ถูกสอดแทรกอยู่ในภาพยนตร์จะถูกแต่งเติมให้มีกลิ่นอายของรถเข้าไป เช่น กระจังหน้า และของตกแต่งบนกระโปรงรถของ เบนท์ลีย์ รวมถึงลูกสูบรถยนต์ ฯลฯ
ฉากที่ปารีส จะเป็นภาพของอนุสาวรีย์ชื่อดัง ที่ทีมผู้สร้าง เนรมิตให้มีลักษณะเป็นรถยนต์มากขึ้น ด้วยการออกแบบส่วนยอดให้มีรูปร่างเป็นบลอคเครื่องยนต์ และใช้ไฟหน้าเป็นส่วนประดับด้านหน้า และที่สะพาน ปองต์ เดส อาร์ตส์ ฉากใหญ่ฉากหนึ่งในภาพยนตร์ จะถูกสร้างให้มีรูปร่างเหมือนรถ ด้วยชิ้นส่วนปริงแผ่น แบบที่ใช้ในระบบกันสะเทือนของรถ และส่วนยอดหอคอยไอเฟลในหนัง มีรูปร่างเหมือนหัวเทียนยุค '30 โดยส่วนฐานใช้ซี่ล้อของรถฝรั่งเศส ส่วนวิหารนอร์ทเทอดาม ถูกประดับด้วยรูปปั้น คาร์กอยล์ 24 ตัว และเสาค้ำยันผนังเป็นรูปท่อไอเสีย ฯลฯ
ความน่าสนใจยังมีมาก ทีมงานผู้สร้างฯ ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการให้ตัวละครทั้งหมดออกมาดูดีที่สุด โดยมีทีมงานแอนิเมชันบางคน ลงทุนไปสมัครเรียนขับรถ เพื่อให้เข้าถึงความรู้สึกต่างๆ ขณะขับรถแข่ง แม้กระทั่งการหักเลี้ยว การเร่งความเร็ว เสมือนแข่งรถกันจริงๆ ทุกวันนี้ทีมงานยังติดตามเส้นทางการแข่งรถจริงๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งรถยนต์สูตร 1 (ฟอร์มูลา วัน)
จริงๆ หนังการ์ตูนเรื่อง CARS ภาค 2 นี้ เป็นการ์ตูนเบาสมอง แต่รายละเอียดปลีกย่อยเยอะ เด็กๆ ดูก็คงสนุกชอบใจ แต่ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ และโตมาก พอได้ไปดูภาพยนตร์นี้แล้ว จะต้องหัดสังเกตสิ่งที่เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หลังตัวเอกที่อยู่ตรงหน้าเรา ว่ามีความน่าสนใจอะไรบ้าง
แนะนำตัวละคร
ไลท์นิง แมคควีน (LIGHTNING McQUEEN)
รถยนต์ลูกผสมระหว่าง เชฟโรเลต์ คอร์เวทท์ ซี 6 กับ ดอด ไวเพอร์ รุ่น เอสอาร์ที 10 คูเป นักแข่งหน้าใหม่จาก เรดิเอเตอร์ สปริงส์ ในภาคนี้ เขาจะต้องลงแข่งขันระดับโลกอีกครั้ง หลังจากเพื่อนตัวดีอย่าง เมเทอร์ จัดแจงให้เสร็จสรรพ แต่สิ่งที่พิเศษกว่าภาคที่แล้ว คือ การยกเครื่อง ทำสีใหม่ ใส่ไฟหน้า ก่อนจะเดินทางมุ่งหน้าสู่การแข่งขัน และจากจุดเริ่มต้นตรงนี้ คือ การพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ของ แมคควีน
เมเทอร์ (MATER)
รถลากสนิมเขอะ เชฟโรเลต์ พิคอัพ เพื่อนซี้ของ ไลท์นิง ตัวการที่ทำให้ ไลท์นิง เข้าสู่การแข่งขันระดับโลกอย่าง เวิร์ลด์ กรองด์ปรีซ์ เป็นคนรักเพื่อนฝูง หลังเข้าโหมดเดินทางทำให้เขาได้รู้ว่าโลกภายนอกไม่ได้สวยงามอย่างที่เขาคาดคิด
แซลลี (SALLY)
รถ โพร์เช 911 คาร์เรรา สีน้ำเงิน หวานใจ "เจ้าสติคเกอร์" (ฉายาที่ แซลลี เรียก แมคควีน) ที่หลงใหลคลั่งไคล้การแข่งขันรถยนต์สูตร 1 ถึงจะถูกปล่อยให้เหงาอยู่ที่ เรดิเอเตอร์ สปริงส์ แต่ แซลลี ก็ยังคงสนับสนุนนักแข่งคนเก่งของเธออยู่ดี
ลุยจิ (LUIGI)
รถยนต์ เฟียต 500 เจ้าของร้านยางที่มีความชำนาญเรื่องยางมากที่สุดประจำ เรดิเอเตอร์ สปริงส์ หนึ่งในทีมช่างฝีมือของ แมคควีนที่ เวิร์ลด์ กรองด์ปรีซ์ หลงใหลความเป็นอิตาลี โดยเฉพาะรถแข่ง แฟร์รารี
ฟรานเซสโก แบร์โนลลี (FRANCESCO BERNOULLI)
นักแข่งตัวเต็งจากยุโรป ประสบความสำเร็จในการลงแข่งระดับมือสมัครเล่นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นแชมเพียนฟอร์มูลาระดับโลก ถือเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของไลท์นิง แมคควีน
ชู โตโดโรคิ (SHU TODOROKI)
นักแข่งตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น ตัวเล็กแต่ดุดัน แชมเพียนจากสนามแข่งซูซูกะ รูปร่างเพรียวลม ประดับด้วยลายมังกรริ้วสีแดงเพลิง เป็นรถญี่ปุ่นเพียงตคันเดียวที่เคยคว้าชัยจากสนาม เลอ มองส์ คู่แข่งที่น่ากลัวของไลท์นิง แมคควีน เช่นกัน
ฟินน์ แมคมิสไซส์ (FINN McMISSLE)
สายลับผู้ดีขั้นเทพ ที่มีเสน่ห์ แต่ความสามารถในการสะกดรอยตามที่เฉลียวฉลาดต่างหากที่ทำให้เขาสามารถหลบหลีกการโจมตีที่คาดไม่ถึงจากพวกเหล่าร้าย
ฮอลลีย์ ชิฟท์เวลล์ (HOLLEY SHIFTWELL)
เจ้าหน้าที่สำนักงานสาวสวย ผู้ผันตัวเองมาเป็นสายลับฝึกหัด ประจำการอยู่ที่โตเกียว เธอรักการอ่านจนทำให้รู้ซึ้งถึงกลเม็ดในการเป็นสายลับ แต่ด้วยความที่เป็นเด็กจบใหม่ ทำให้ขาดประสบการณ์ มีความรู้แค่เพียงในตำรา ทำให้ ฟินน์ แมคมิสไซส์ ต้องการใช้ความชำนาญด้านเทคนิคของ ชิฟท์เวลล์ ในการทำงาน จนได้มาพบกับ เมเทอร์ ด้วยความใสซื่อ เธอรู้สึกถูกชะตากับเพื่อนใหม่คันนี้เหลือเกิน
เรื่องโดย : ปาร์จารีย์ ทัศนชลีจิระโชติ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/84208