ประกันภัย
ปลอมหนังสือศาล
การทำปลอม หรือของปลอม เกิดขึ้นตลอดเวลาและทั่วทั้งโลก ว่ามาอย่างนี้ท่านอาจสงสัย มันจริงไหม ผมขอยืนยันว่าจริง โดยเฉพาะการทำปลอม ซึ่งถือว่าให้ประโยชน์ ถ้าไม่มีหนังสัตว์ปลอม พรมปลอม หรือไม้ปลอม นำมาใช้ในรถยนต์ คนผลิตรถก็เหนื่อย ขายรถที่ดูสวยงาม แต่ราคาย่อมเยาไม่ได้
ของเทียมของปลอมอีกสารพัด เป็นสิ่งจำเป็น เช่น แขน/ขา หัวใจ และ ไตเทียม สตรีทั้งโลกจำนวนไม่น้อยต้องพึ่งพาของเทียม ให้เกิดความมาดมั่น ไม่งั้นลำบาก ส่วนชายใดตกที่นั่งซวยเจออึ๋มปลอม เจอวิก หรืออย่างอื่นปลอม จนเซ็งเป็ดพูดไม่ออก ใครๆ ก็ช่วยไม่ได้ ถือเป็นความประมาทส่วนตน ต้องแก้ไขหาทางออกเอาเอง
ถ้าเป็นการปรับปรุงแก้ไข โดยสาวเจ้าอุตส่าห์ยอมเจ็บ ยอมเสียเงิน อนุโลมว่าไม่ใช่ปลอม แต่อาจส่งผลภายหลังตอนมีทายาท บิดางี้มึน สำเนาไกลลิบจากต้นฉบับ หน้าตาจมูกปากได้ใคร ทำไมถึงน่าเกลียดนัก ขณะที่มาดามสวยเฉียบ
ที่เป็นปัญหาสร้างความเสียหายแก่ชาวโลกตลอด คือ ของปลอมที่ให้โทษ มีสารพัด เช่น นมผงปลอมใส่พลาสติคเมลามีน ไส้ซาลาเปาปลอมจากกระดาษกล่องของจีน ขนมจีนน้ำยาจากกระดาษฟาง ไวอกรา ปลอม (คนกินโดยเข้าใจผิดอาจได้ผล ฮา) ยาปลอม อาหารเสริมปลอม ไทยถือว่าหนักขายทางเคเบิลทั้งวันทั้งคืนได้สบาย โดนจับโทษเบาหวิว คนออกกฎหมายมันไม่เห็นความสำคัญของสุขภาพและชีวิตคนไทยว่างั้นเถอะ ทั้งๆ ที่ร้ายแรงเท่ากับการฆ่า หรือทำร้ายผู้อื่น เมื่อไรจะแก้กฎหมายเสียที
ของปลอมสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรง คือ ธนบัตร ทองหยอง เพชรพลอย หยก (ทัวร์ไปจีนไม่ระวังเจอเอาง่ายๆ แถมยาหมอแมะปลอมอีกด้วย) นาฬิกา ภาพ ของเก่า พระปลอม ไอทีปลอม จิปาถะที่ขายได้ราคาดี มีคนปลอมทั้งนั้น ข้าวหอมมะลิก็ปลอมในตลาดต่างประเทศ ในไทยก็เถอะ ขาย 10 เจ้าในห้าง เจอของแท้สักเจ้าถือว่าบุญ
ไอ้ที่ปลอมแล้วเดือดร้อนไปทั่ว ตั้งแต่ชาวบ้าน ลามไปถึง ตำรวจ อัยการ ศาล เรือนจำ คือ เอกสารปลอม ทราบว่าในแต่ละประเทศ มีขบวนการปลอมพาสสปอร์ทแทบทั้งนั้น แทบจะหาได้ทางเนทนั่นเทียว เอากะมันสิ
คดีนี้ผมลังเล จะเขียนไม่เขียน เพราะขบวนการนี้ปลอมได้แสบมาก แต่เมื่อมองว่าผู้อ่านรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องจะได้ระวัง จึงตัดสินใจนำเสนอ ณ บัดนี้
นางปลาทอง (ไม่เกี่ยวกับปูอยู่แล้ว) ก็มีสตางค์ถึงขั้นซื้อรถนั่ง ก็นั่งทั้งนั้นแหละเมื่อเป็นรถส่วนตัวด้วยเงินสด ราคาเกือบ 2 ล้านบาท จ่ายครั้งเดียวสบายๆ คือ เหยื่อการปลอมเอกสารอย่างสุดแสบจนกระทั่งวายร้ายสามารถนำรถที่มีทะเบียนเบ็ดเสร็จ จากกรมการขนส่งทางบกมาขายให้คุณเธอ ซึ่งเชื่อ 1,000 % ว่าไม่มีปัญหา
ขี่โก้เพราะราคาขนาดนั้น รุ่นนั้น ถือว่าถูกอยู่ไม่นาน ตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ ให้เกียรติแห่มาเยี่ยมถึงบ้าน ขอเชยชมรถของ นางปลาทอง ส่องดูทุกซอกทุกมุมแล้วยึดไป อ้างว่าเป็นรถเถื่อน นำเข้าไม่เสียภาษีศุลกากร นางปลาทอง ลมใส่ ตั้งหลักได้ จึงกำเงินไปให้ทนายทำเป็นคดีแพ่งฟ้องกราวรูด โดนกันเป็นแถบ เพราะโจร 2 คน
แจงในคำฟ้องว่า นายวิบัติ เอ๊ย..อุบัติ สวมบทเป็นเจ้าของรถ นายสามาน เอ๊ย..สมาน เป็นคนขายรถเทนท์ เอารถเถื่อนมาขายให้ โดยร่วมกับรองจ่าศาลจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 ต้นสังกัด หัวหน้าของรองจ่าศาล คือ จำเลยที่ 5 ปลอมเอกสารขึ้นมาทั้งดุ้น ว่า มีการซื้อขายทอดตลาดที่ศาล มีหนังสือจากศาลลงชื่อผู้พิพากษาปลอม ส่งไปที่ขนส่งในจังหวัดนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จำเลยที่ 6 ซึ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ จดแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนให้แก่ นายอุบัติ พอได้เล่มได้ทะเบียนก็สวมรถเถื่อน แล้วให้ นายสมาน นำไปขายให้เหยื่อ คือ นางปลาทอง จ่ายสดๆ แดงๆ ไป 1,750,000 บาท น้อยอยู่หรือ เท่านั้นไม่พอตำรวจ จำเลยที่ 7 ยังมาซ้ำเติม ยึดรถไปโดยไม่มีสิทธิ เพราะหนูซื้อมาโดยสุจริต ขอให้บีบบังคับจำเลยทั้งหมด ร่วมกันจ่ายค่าเสียหายเท่ากับเงินที่เสียไปพร้อมดอกเบี้ย
โจร คือ จำเลยที่ 1, 2 มันไม่ขึ้นศาลอยู่แล้ว เมื่อถือว่าไม่สู้คดีโจทก์ได้เปรียบ ศาลไทยไม่ว่าอะไร
จำเลยอื่นๆ พากันสู้คดี อ้างว่าไม่ได้ร่วมทำผิดปลอมเอกสารกับ นายอุบัติ และ นายสมาน กรมการขนส่งทางบกก็ทำตามหน้าที่อย่างดี ตำรวจก็มีสิทธิยึดรถที่หนีภาษี จึงไม่ต้องรับผิด ให้ไปเอากับโจรที่มันได้เงินไป
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พยานหลักฐานไม่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ศาลสมคบกับโจรปลอมเอกสารจากศาล (เฮ้อ...โล่งอก) ตำรวจก็ทำตามหน้าที่ถูกต้อง จึงรอดตัวไป ส่วนโจรทั้ง 2 นั้น แน่นอนต้องรับผิดเต็มๆและกรมการขนส่งทางบก จำเลยที่ 6 ต้องรับผิดร่วมครึ่งหนึ่ง เพราะชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อ
สรุปให้ นายอุบัติ กับ นายสมาน จ่ายเต็มพร้อมดอกเบี้ย กรมการขนส่งทางบกจ่ายครึ่งของจำนวนเงินที่โดนฟ้อง นอกนั้นยกฟ้อง
นางปลาทอง โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ ไม่ให้ยกฟ้องใครเลย เพราะเห็นชัดว่าได้จากกรมการขนทางบกส่งครึ่งเดียวคือ 8 แสนกว่าบาท ที่เหลืออีกครึ่งอย่าไปหวังจากโจร มันคงหายหัวไปไหนไม่รู้ ตามธรรมเนียมบ้านเรา ส่วนกรมการขนส่งทางบก จำเลยที่ 6 ยื่นอุทธรณ์ เถียงว่าคนของตนไม่ผิด ต้องยกฟ้อง ไม่ต้องจ่าย
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืนตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้
นางปลาทอง ยังเซ็งไม่หาย เมื่อเห็นท่าว่าจะได้เงินที่เสียไปไม่ครบ และกรมการขนส่งทางบกซึ่งยังไม่สิ้นสงสัย ต่างยื่นฎีกาขึ้นไป
ศาลฎีกาเหล่ดูจนได้ที่ แล้วชี้ขาดออกมาว่า
จำเลยในส่วนที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ศาลนั้น พยานหลักฐานไม่ได้ชี้ว่า ร่วมกันปลอมเอกสารการซื้อขายทอดตลาดรถ จึงต้องยกฟ้อง (เฮ้อ...ถ้าขืนร่วมกันปลอมทั้งๆ เป็นเจ้าหน้าที่ก็เวรละนะ)
ส่วนตำรวจเมื่อชัดว่ารถนำเข้าหนีภาษี ต้องโดนยึดไปดำเนินคดีตามกฎหมายศุลกากร จะต้องโดนริบ แม้นางปลาทอง ซื้อรถจากผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายรถ เจ้าหน้าที่ขนส่งจดทะเบียนโอนให้ นางปลาทอง ก็ไม่มีสิทธิครอบครอง ไม่ได้กรรมสิทธิ์ จึงเรียกค่าเสียหายจากตำรวจไม่ได้
กรณีของกรมการขนส่งทางบก ชัดว่าหนังสือจากศาลซึ่งปลอมทั้งดุ้นไม่เนียน ระบุว่ารถที่ขายทอดตลาดสภาพชำรุด ไม่มีป้ายทะเบียน ขายทอดตลาดแค่ 2 แสนบาท แต่รถที่โจรมันนำมาตรวจสภาพค่อนข้างใหม่ราคาขายได้เกือบ 2 ล้านบาท จึงแตกต่างจากเอกสารซะไม่มี แต่เจ้าหน้าที่หลับตาจดทะเบียนโอนให้ จึงประมาทอย่างหนัก กรมการขนส่งทางบกดิ้นไม่หลุด แต่เห็นว่าโจรมันได้เงินไปหมด ให้กรมการขนส่งทางบก เสียค่าโง่ครึ่งหนึ่งเหมาะแล้ว
ศาลฎีกาจึงยอมเมื่อยอีกเช่นเคย พิพากษายืนตามที่ศาลล่างว่าไว้
เห็นหรือยังว่า ทุจริตชนมันทำทุกอย่างเพื่อเอาเงินเหยื่อ ปลอมหนังสือของศาล มันก็กล้าทำ แล้วได้ผลซะด้วย เป็นใบเบิกทางอย่างดี เจ้าหน้าที่ขนส่งเห็นปุ๊บเชื่อทันที คนซื้อรถได้เห็นหนังสือปลอมก็ต้องเชื่อ
ถามว่าเอกสารต่างๆ ปลอมยากไหม ไม่ยากเลย ปลอมได้ทั้งนั้น เคยมีการปลอมคำตัดสินของศาล แล้วนำไปใช้ เล่นเอายุ่งกันใหญ่
สิ่งที่ได้จากคดีนี้ คือ ใครก็ตาม ถ้าเจอเอกสารแล้วต้องเข้าไปเกี่ยวข้องมีทางได้เสีย ควรติดเบรคยั้งไว้สักนิดแล้วตรวจสอบที่มาที่ไปซะหน่อย เดี๋ยวนี้ทำได้ไม่ยาก การคมนาคม การสื่อสาร สะดวก ก็จะรู้ว่าจริงหรือโจรมันทำออกมา จะได้ปลอดภัยด้วยประการทั้งปวง ไม่โดนเหมือนอย่าง นางปลาทอง นั่นแลเอย
เรื่องโดย : "จอมยุทธ"
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : ประกันภัย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/83892