เมืองจีน รวยกระจุก จนกระจาย

ผมมีโอกาสเดินทางไปประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประมาณ 5-6 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางในขบวนคาราวาน ป้วนเปี้ยนตามแนวตะเข็บชายแดนที่กันดารเป็นหลัก แต่ก็มีโอกาสมาเยือนมหานครเซี่ยงไฮ้ 2 ครั้งด้วยกัน   ครั้งนี้ผมกลับไปเยือนมหานครเซี่ยงไฮ้ ตามคำเชิญของบริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด ให้ไปเยือนสำนักงานที่นครเซี่ยงไฮ้ พร้อมกับชมงานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ หรือ AUTO SHANGHAI 2011  ความน่าตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้ อยู่ที่การเข้าชมงานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก บนพื้นที่จัดงานทั้งในและนอกอาคาร กว่า 200,000 ตรม.   ผมขออนุญาตนำข้อมูลที่ “"น้าชู”" ชูศักดิ์ ชมจินดา คอลัมนิสต์มือฉมัง ผู้คร่ำหวอดกับการเดินทางเพื่อชมและเก็บข้อมูลรถใหม่จากเวทีงานมหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ซึ่งแจกแจงไว้ในนิตยสาร “ฟอร์มูลา” ฉบับมิถุนายน ระบุชัดเจนว่า งานนี้มียอดผู้ชมงานกว่า 715,000 คน มีรถใหม่เปิดตัวครั้งแรกในโลก กว่า 75 คัน และยิ่งเรารู้ตัวเลขการผลิตรถยนต์ด้วยแล้ว ต้องยอมรับว่า จีนเป็นประเทศที่สุดยอดในเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ “"น้าชู"” หยิบตัวเลขมาคุยให้ฟังว่า "“ปี 2009 อันเป็นปีที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ อุตสาหกรรมรถยนต์โลก ก็ต้องเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการจารึกว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน คือ ประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยสามารถผลิตรถยนต์หลากหลายชนิดได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 13,790,994 คัน หรือเท่ากับร้อยละ 22.4 ของยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ระดับ 61.7 ล้านคัน เท่านั้นยังไม่พอ ปีเสือดุที่เพิ่งผ่านพ้นไป ยอดผลิตรถยนต์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีอาการ "ดึงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่" เพราะพุ่งพรวดพราดสู่ระดับ 18.3 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32.4 จากตัวเลขในรอบปี 2009 โดยแยกออกได้เป็นรถยนต์นั่ง 13.9 ล้านคัน และรถเพื่อการพาณิชย์ 4.4 ล้านคัน โดยที่ประมาณครึ่งหนึ่งของยอดผลิตดังกล่าวนี้ เป็นรถติดป้ายยี่ห้อจีน ส่วนที่เหลือเป็นผลงานจากความร่วมมือกับผู้ผลิตต่างชาติ เช่น โฟล์คสวาเกน (VOLKSWAGEN) มิตซูบิชิ (MITSUBISHI) เจเนอรัล มอเตอร์ส (GENERAL MOTORS) ฮันเด (HYUNDAI) นิสสัน (NISSAN) ฮอนดา (HONDA) และ โตโยตา (TOYOTA) ที่น่าสังเกต ก็คือ เกือบทั้งหมดของรถยนต์ที่ผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นรถที่จำหน่ายในประเทศ มีเพียงไม่กี่แสนคันเท่านั้นที่ส่งไปจำหน่ายนอกเมืองมังกร”"   เมืองจีนในวันนี้ ไม่ใช่ยักษ์ที่ด้อยเรื่องการพัฒนาอีกต่อไป เมื่อก่อนเราอาจจะพูดกันสนุกปากว่า สินค้าจากจีน เป็นสินค้าที่ด้อยคุณภาพ แต่สินค้าในกลุ่มรถยนต์เขาเริ่ม R&D กันมากขึ้น หน้าตารถที่เราเห็นแนวเชยๆ ตอนนี้ภาพนั้นกำลังจะถูกลบไปแล้ว หน้าตารถดูดีขึ้น สู้รถเกาหลี และญี่ปุ่น ได้สบายๆ แถมบางค่ายยังกล้าพอที่จะจ้างนักออกแบบชาวยุโรป มาช่วยงานด้านบอดีดีไซจ์น ก็มี   ผมย้ำชัดๆ อีกที ยอดผลิตปีละ 18.3 ล้านคัน คือ ตัวเลขที่ผลิตรถเพื่อใช้ในประเทศ และมีตัวเลขรถเพียงไม่กี่แสนคัน ที่ส่งออกต่างประเทศ ลองคิดเล่นๆ นะครับ บ้านเราผลิตรถปีละ 2 ล้านคัน ขายในประเทศ 7-8 แสนคัน ที่เหลือส่งออก และถ้ารถจีนถูกส่งมาขายเมืองไทยมากขึ้นละ มันอาจจะยังไม่ใช่ระยะเวลาใกล้ๆ นี้ แต่ถ้ามองกันยาวๆ 5-10 ปี ต่อจากนี้ รถญี่ปุ่น รถเกาหลี และเราคนไทยจะได้รับอานิสงส์อย่างไร ? น่าคิดอยู่เหมือนกัน…