มาซดา 3 ฟูลล์โมเดลเชนจ์ หรือ ซูเพอร์ไมเนอร์เชนจ์

มาซดา 3 เปิดตัวครั้งแรกในบ้านเราเมื่อปลายปี 2550 และประสบความสำเร็จ ด้วยยอดขายถล่มทลายกว่า 240 % ของยอดขาย เป็นเหตุให้ส่งมอบรถไม่ทัน จนการซื้อ-ขายใบจอง ด้วยราคาที่สูงมาก ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม ทันสมัย ทั้งภายนอก และภายใน มาวันนี้ มาซดา ได้ฤกษ์เปิดตัว มาซดา 3 เจเนอเรชันใหม่ เราจึงไม่พลาดที่จะนำมาวิจารณ์กัน   ภัทรกิติ์ : ญี่ปุ่นออกมาตั้งนานแล้ว บ้านเราคงรอเวลาเปิดตัวอยู่ ถึงจะออกมานานแล้ว แต่ไม่เห็นวิ่งในญี่ปุ่นเลย น่าแปลกใจอยู่ คุณากร : ผมว่าไม่แตกต่างจากตัวเก่าเท่าไร ดูแล้ว เฉยๆ ครับ ภัทรกิติ์ : ไม่ได้ดีกว่าในเชิงหวือหวา แต่ภายในผมว่ากินขาดนะครับ ฟอร์มูลา : บอดียังคงใช้รุ่นเดิมใช่ไหมครับ ? ภัทรกิติ์ : ครับ ทรงเดิม แต่เซอร์เฟศใหม่ อภิชาต : ตามคอนเซพท์ มาซดา พแลทฟอร์มตัวเดิม คุณากร : เป็นซูเพอร์ไมเนอร์เชนจ์ การที่เอาพแลทฟอร์มตัวเดิม ทำให้รู้สึกว่ามันย้วยๆ ผมว่า ปากมันใหญ่มาก สัดส่วนดูไม่ลงตัว เส้นระหว่างไฟหน้ากับช่องดักอากาศตรงกลาง ดูไม่หนักแน่นพอ ติดป้ายทะเบียนไปแล้ว เหมือนเป็นฟันหนูยังไงไม่รู้ ภัทรกิติ์ : ดูบวมๆ มากกว่าครับ ตัวเดิมน่าจะดีกว่า คันนี้ก็ฮือฮานะ ผมว่าร้อยละ 90 คนมองว่าใหม่ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรที่ดูออกเลย นอกจากโครงกระจกกับหลังคา ผมว่าคนทั่วไปดูไม่ออกครับ มองภาพรถ เราเห็นอย่างหนึ่ง แต่ถ้าดูรถของจริง จะเห็นอีกอย่างหนึ่งนะครับ ฟอร์มูลา : อาจารย์บอกว่า ตัวเก่าสวยกว่าหรือครับ ? ภัทรกิติ์ : ผมไม่ได้พูดว่าคันนี้ไม่สวย แต่มันต้องอาศัยเวลาในการมองนิดหนึ่ง ถ้ามองไปนานๆ จะเห็น เพราะฟอร์มมันไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน มันมีของที่เกิดขึ้นก่อน และของที่ใส่ใหม่ มันจึงยังไม่เป๊ะพอดี ในเรื่องความแข็งของเส้นสายบางเส้นมันยังอยู่ ในขณะที่เซอร์เฟศใหม่มันบวมไปหมดทั้งคัน แต่ของเดิมมันยังเก็บอยู่ ก็เลยดูขัดแย้งกันเอง ฟอร์มูลา : เรียกว่ามันเป็นข้อจำกัดของการใช้ชิ้นส่วนเดิมได้ไหม ภัทรกิติ์ : ได้ครับ ผมว่าน่าจะมาตั้งนานแล้ว เพราะยอดขายของมาซดา 3 มันซบเซาจนปลุกผีไม่ขึ้นแล้ว คุณากร : เห็นว่าจะนำตัว 3 เข้ามาก่อน แต่รอไว้ ภัทรกิติ์ : แต่การตลาดเขาทำถูกแล้ว ที่นำ 2 มาก่อน เพราะ 2 ทำตลาดได้ดีกว่า อีกประเด็นที่ผมรู้สึก ผมว่าหน้ามันเยอะไป บริเวณตัวถัง ฟอร์มูลา : อาจารย์ว่า ด้านหน้าดูเยอะไปไหมครับ อภิชาต : ไม่นะ ผมเห็นต่าง เขาพยายามทำให้ตัวคอนเซพท์ เข้ามาอยู่ในตัวพโรดัคชันมากขึ้น แต่สไตล์แล้วแต่คนชอบ ตัวไฟหน้า มองเรื่องดีไซจ์นก่อน มันดูนิ่ง พยายามพรีเซนท์ความเป็น มาซดา ให้มากที่สุด แต่ยังไม่สุด รถที่ดูแล้วใหม่ มันจะดูแปลกๆ อยู่ช่วงหนึ่ง สักพักจะชินไปเอง ผมมองว่าเซอร์เฟศนิ่งไป แต่ดูไฟท้ายออกแบบได้ต่างจากของเดิม ฟอร์มูลา : เขามีเส้นซ้อนกันอยู่ อภิชาต : มันมีข้อจำกัดบางประการอยู่ในการออกแบบ มาทีหลัง แต่ก็โอเคอยู่นะ ฟอร์มูลา : ภายในเป็นอย่างไรบ้างครับ ? ภัทรกิติ์ : สำหรับผม เทใจให้เลยครับ มีเนวิเกเตอร์ติดมาด้วย มาซดา เป็นรถยนต์ที่ทำภายในได้น่าสนใจเวลามอง แต่เวลาไปใช้จริงแล้ว วัสดุดูไม่เฉียบขาดเท่าที่ควร มองภาพรวมแล้วดูดีครับ คุณากร : ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ที่เป็นโค้งๆ 2 จอมาติดกัน อภิชาต : เขาทำมาเพื่อพวงมาลัยทั้งซ้ายและขวา กลุ่มตลาดเขามีแฟนประจำอยู่แล้ว ก็ดูดี แต่อาจดูไม่มีมิติเท่าไร ผมยังเชื่อลึกๆ ว่า ฟอร์ด กับ มาซดา ยังใช้พแลทฟอร์มเดียวกัน เอ...ห้องโดยสารดูอึดอัดไปหรือเปล่า คุณากร : ภายในไม่ชอบเลยครับ บริเวณโค้งใหญ่ ซึ่งผมเคยเห็นในภาพสเกทช์ เขาพยายามจะทำให้มันโค้งหันหน้าหาคนขับ พอมาผลิตจริง แล้วเจอแดชบอร์ดที่ต้องกลับด้าน ตรงกลางเลยไม่ได้ มองตรงๆ มันจะหักมากไป ทำให้ไม่สวย ฟอร์มูลา : โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบช่องแอร์ซ้ายขวากลม แต่ตรงกลางเหลี่ยม มันไม่น่าอยู่ด้วยกัน ภัทรกิติ์ : ผมชอบห้องเกียร์อัตโนมัติของเขานะ สวยดี เก๋ มีสไตล์ เป็นไมเนอร์เชนจ์ ที่เรียกความน่าสนใจได้ดีมาก เหมือนฟูลล์โมเดลเชนจ์ เพราะพื้นฐานการขับขี่ของ มาซดา 3 โดยรวมเป็นรถที่โอเค ผมว่าในเรื่องดีไซจ์น ชาวบ้านน่าจะตื่นตาตื่นใจ คุณากร : ถามว่าสวยไหม ก็สวย แต่มันมีอะไรแตกต่าง ฉีกออกไป ผมว่ายังอีกไกล แต่ก็ถือว่าทำดีที่สุดในเกณฑ์ของมัน