X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
DIY...คุณทำเองได้
1 May 2011
เปลี่ยนสายพานหน้าเครื่อง ไม่ยาก ถ้าคิดจะทำ !
สตาร์ทเครื่องตอนเช้ามีเสียงดัง แต่พอเครื่องร้อนก็หาย เวลายูเทิร์นหมุนพวงมาลัยสุด
ก็ดันมีเสียง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แค่คุณเปลี่ยน "สายพานหน้าเครื่อง"
อุปกรณ์ภายในห้องเครื่องยนต์ นอกจากจะมีเครื่องยนต์แล้ว ยังมีอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ อีกมาก ที่ต้องอาศัยสายพานหน้าเครื่องในการส่งถ่ายกำลัง ไม่ว่าจะเป็น ปั๊มเพาเวอร์ ไดชาร์จ หรือแม้แต่คอมพเรสเซอร์แอร์ ย่อมต้องอาศัยแรงหมุนจากเครื่องยนต์ทั้งสิ้น ถ้าวันใดวันหนึ่งสายพานขาดไป อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นก็เป็นได้ DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ ขอนำข้อมูลเกี่ยวกับสายพานหน้าเครื่อง รวมถึงวิธีการเปลี่ยนมาฝากกัน
หน้าที่ของสายพาน
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ หรือเครื่องจักรชนิดไหน ล้วนนำสายพานมาใช้งานแทบทั้งสิ้น เนื่องจากสายพานทำหน้าที่ส่งกำลังจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างดี (เหมือนกับฟันเฟือง) และไม่เสียพลังงานระหว่างทางมากนัก สายพานมีหลายชนิด แต่ละชนิดก็เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับสายพานหน้าเครื่องยนต์นั้น มักนิยมใช้สายพานแบบลิ่ม (V-BELT) เนื่องจากมีลักษณะแบน ทำจากวัสดุเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ ห่อหุ้มด้วยยางผ่านกรรมวิธีทางเคมี จึงมีความเหนียว มีความทนทานเป็นอย่างมาก สายพานมีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มีทั้งแบบร่องเดียวและหลายร่อง (แล้วแต่ผู้ผลิตเลือกใช้) โดยมีตัวเลขบอกขนาดต่างๆ เช่น 5PK890 หมายถึง แบบ 5 ร่อง ยาว 890 มม. หรือ 9.5x975 หมายถึง แบบร่องเดียว ขนาดร่องหนา 9.5 มม. ยาว 975 มม. เป็นต้น
เส้นเดียวดีกว่าหลายเส้น
รถสมัยก่อน มักมีสายพานหน้าเครื่องหลายเส้น ระหว่างการใช้งานต้องหมั่นปรับตั้งความตึงกันบ่อยๆแถมยังมีอายุของการใช้งานที่ไม่นานนักด้วย แต่สมัยนี้ สายพานหน้าเครื่องมีเพียง 1-2 เส้นเท่านั้นสายพานแบบนี้เรียกว่า เซอร์เพนไทน์ (SERPENTINE BELT DRIVE) สายพานนี้ถูกออกแบบให้ใช้ขับเคลื่อนทุกอย่างได้ในเส้นเดียว ไม่ว่าจะเป็น ไดชาร์จ, คอมพเรสเซอร์แอร์ ปั๊มเพาเวอร์ ฯลฯ ทำให้ทำงานได้ราบเรียบไม่ซับซ้อน และยังมีลูกรอกที่สามารถปรับตั้งสายพานได้อัตโนมัติ โดยลูกรอกนี้จะปรับให้สายพานอยู่ในสภาวะที่ไม่ตึง หรือหย่อนเกินไปตลอดการใช้งาน ซึ่งสภาพการทำงานดังกล่าวนี้ทำให้สายพานมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนได้อีกด้วย
เมื่อไรควรเปลี่ยนสายพาน ?
การดูแลสายพานหน้าเครื่องนั้นง่ายมาก เนื่องจากสายพานอยู่ในตำแหน่งมองเห็นได้ง่าย ถ้าได้ยินเสียงดังจากสายพาน อันดับแรก ควรเชคระยะตึงของสายพานก่อน โดยต้องมีความตึงพอประมาณ ไม่ตึงมากจนเกินไป (ควรมีระยะฟรีเมื่อกดลงไปประมาณ 1 นิ้วเท่านั้น) เพราะถ้าตึงเกินไปก็กินกำลังเครื่องเกินจำเป็น แต่ถ้าหย่อนเกินไปก็ส่งถ่ายกำลังไม่เต็มที่ แถมยังทำให้เกิดเสียงได้จากการเสียดสีกัน ระหว่างสายพานกับพูลเลย์ได้อีกด้วย ในบางครั้งเมื่อมีการโหลดของเครื่องยนต์มากๆ เช่น หมุนพวงมาลัยสุด ก็จะทำให้เกิดเสียงได้ ดังนั้นการตั้งสายพานให้อยู่ในระยะที่พอดี เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด สายพานหน้าเครื่องโดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 50,000 กม. หรือประมาณ 2-3 ปี สายพานที่ดีต้องไม่มีรอยแตกลายงาที่เนื้อยาง ดังนั้นถ้าตรวจพบสายพานแตกเป็นบั้งๆ แล้วละก็ เปลี่ยนใหม่ได้เลยครับ
ประวัติของสายพาน
เริ่มแรกรูปแบบของสายพานเป็นแบบสายพานแบน (FLAT BELTS) ต่อมาในช่วงปี 1920-1929 เริ่มมีการใช้สายพานรูปตัววีเป็นครั้งแรก เนื่องจากการทำเป็นรูปตัววี ทำให้ความสามารถในการส่งกำลังเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นจึงได้มีการพัฒนาสายพานตัววีส่งกำลังแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานในด้านความทนทาน ป้องกันการสั่นสะเทือน หรือแม้แต่ลดเสียง
อุปกรณ์
1. ประแจเบอร์ 12 2. ประแจเบอร์ 17 3. ประแจเบอร์ 22 4. ประแจบลอคตัวทีเบอร์ 17 4. สายพานใหม่
ขั้นตอนการเปลี่ยนสายพาน
1. ใช้ประแจเบอร์ 12 ขันคลายตัวตั้งสายพาน (พูลเลย์ตัวเร่ง) ตัวที่ 1 2. นำประแจเบอร์เดียวกัน คลายตัวตั้งสายพาน (พูลเลย์ตัวเร่ง) ตัวที่ 2 3. ใช้ประแจเบอร์ 17 ขันคลายนอทตัวล่าง บริเวณใต้ไดชาร์จออก 4. เมื่อคลายนอทต่างๆ ออกแล้ว ก็ค่อยๆ นำสายพานออกมาทีละข้าง 5. ถ้าเห็นว่ามีอะไรขวางแล้วสามารถถอดออกได้ง่าย ก็ให้นำออกไปก่อน 6. นำประแจเบอร์ 22 ขันพูลเลย์อีกตัวหนึ่งออก โดยขันทวนเข็มนาฬิกา 7. ใช้ประแจบลอคตัวทีเบอร์ 17 ขันพูลเลย์ตัวเร่งออก โดยค่อยๆ คลายทีละนิด 8. พอคลายพูลเลย์ตัวเร่งได้แล้วก็ค่อยๆ นำสายพานออก 9. นำสายพานเส้นใหม่ ใส่เข้าไป โดยต้องใส่สายพานเส้นที่อยู่ในก่อน 10. เมื่อใส่ไปแล้วต้องเชคความตึง โดยใช้มือกดดู ต้องหย่อนนิดๆ ไม่ตึงมากไป 11. พอตั้งได้ระยะที่ใช้ได้แล้ว ก็ใช้ประแจขันลอคให้แน่นพอประมาณ จนครบทุกตัว 12. เชคความตึงของสายพาน และตัวลอคต่างๆ แล้วประกอบกลับให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/83007
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
DIY...คุณทำเองได้
DIY...คุณทำเองได้
21 Jun 2023
ทำความสะอาดเบาะผ้า ด้วยเครื่องมือยุคใหม่
DIY...คุณทำเองได้
22 Mar 2023
ชาร์จรถไฟฟ้าแบบฉุกเฉิน ด้วยปลั๊กไฟบ้าน
DIY...คุณทำเองได้
17 Nov 2022
อบโอโซน ห้องโดยสารด้วยงบ 400 บาท
DIY...คุณทำเองได้
21 Oct 2022
ขัดคราบโคมเหลือง ให้ขาวสดใส
DIY...คุณทำเองได้
21 May 2022
ล้างเคลือบรถ ทำเองได้ ประหยัดด้วย
ดูต่อในคอลัมน์ DIY...คุณทำเองได้