สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
วิชชุดา ลีนุตพงษ์
บริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ กลุ่ม ดีเอดี ยนตรกิจ ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำจากต่างประเทศ เป็นบริษัทที่มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่มีความทันสมัย และตอบโจทย์แก่ผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลายตามนโนบายของแม่ทัพหญิง วิชชุดา ลีนุตพงษ์ รองประธานกรรมการบริหาร ซึ่งจบการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์ และไม่เคยคิดจะทำอะไรเกี่ยวกับรถยนต์ แม้จะอยู่ในแวดวงรถยนต์มาตั้งแต่เด็ก ความต้องการของเธอคือ การได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กๆ เพราะไม่ชอบธุรกิจแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อได้สัมผัสแล้วก็ไม่ยาก แถมยังเป็นความท้าทายอีกแบบหนึ่งของชีวิต
ฟอร์มูลา : บริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ฯ ดำเนินธุรกิจด้านใดบ้าง ?
วิชชุดา : หลังจากที่จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาดำเนินธุรกิจนำเข้า เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วย
ฟอร์มูลา : ปัจจุบัน บริษัท ฯ เป็นผู้นำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อะไรบ้าง ?
วิชชุดา : ซีตรอง/โฟตอน/เอมทีเอม/เซอัต/สโกดา/สปีดอาร์ท และ สไปเคอร์ สำหรับ เอมทีเอม เป็นรถที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ยนตรกิจ ตั้งแต่เริ่มแรก ส่วนรถ ซีตรอง เป็นรถที่ วิเชียร ลีนุตพงษ์ คุณพ่อรัก และรู้สึกว่ามีความผูกพัน เพราะได้บริหารมาเป็นเวลานาน ส่วนบแรนด์อื่นๆ เลือกเพราะว่ามีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง เช่น สโกดา และเซอัต เป็นรถที่ให้ความประหยัด และคุ้มค่าอย่างมาก ด้าน สปีดอาร์ท สไปเคอร์ เอมทีเอม เน้นความมีเอกลักษณ์ ที่เป็นกลุ่มนิช มาร์เกท
ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด จึงเลือกนำเข้าและจัดจำหน่ายรถ โฟตอน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ?
วิชชุดา : โฟตอน เป็นบแรนด์รถยนต์จากกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศจีน ภายใต้ชื่อกลุ่มบริษัท ฝู่เทียนเป่ยซี หรือ BEIQI FOTON MOTOR ซึ่งเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2539 และมีชื่อเสียงเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อันดับต้นๆ ของจีน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ รถพิคอัพ รถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ตลอดจนรถโดยสาร และรถไถทางการเกษตร โดยช่วงแรก บริษัท ฯ เลือกนำรถตู้ โฟตอน วิว ขนาด 11 และ 14 ที่นั่ง เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยรุ่นแรก เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งแก่ผู้บริโภค โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจรถตู้โดยสาร หรือขนส่งสินค้า มีราคาเริ่มต้นเพียง 600,000 กว่าบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า
ส่วนรถรุ่นใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ว่าจะนำรุ่นใดเข้ามาจำหน่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องดูความต้องการของตลาด
ฟอร์มูลา : คุณมีแนวทางและนโยบายการบริหารรถแต่ละบแรนด์อย่างไร ?
วิชชุดา : กลุ่ม ดีเอดี ยนตรกิจ มุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถในการนำเสนอนวัตกรรมที่มีความทันสมัย และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะที่ต้องการความพิเศษ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รวมถึงยังมีนวัตกรรมที่หลากหลาย ตอบสนองทุกรสนิยม และไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นความโฉบเฉี่ยวสำหรับคนรุ่นใหม่ ความโก้หรูสำหรับผู้บริหารระดับสูง หรือแม้แต่ครอบครัวที่ต้องการพื้นที่และความปลอดภัยเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังจะเน้นการบริการรูปแบบใหม่ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาบริการหลังการขาย ที่จะสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า
ฟอร์มูลา : รถแต่ละบแรนด์มีความแตกต่างกัน มีการบริหารอย่างไร ?
วิชชุดา : รถแต่ละบแรนด์มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่ตรงกัน ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาด และลูกค้าทุกกลุ่ม และถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในเชิงการลงทุน ส่วนการบริหารงานแต่ละบแรนด์ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญดูแล ตัวอย่าง เอมทีเอม รู้สึกว่าทำตลาดง่าย เพราะลูกค้าจะอยู่ในรุ่นเดียวกับตัวเรา เป็นเพื่อนของเพื่อน แต่ไม่เปิดเผยตัว ซีตรอง อยู่ในตลาดมานาน มีกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ ลูกค้าชอบการมีกิจกรรมร่วมกัน เป็นครอบครัว เป็นกลุ่มเพื่อน สโกดา และเซอัต อยู่ระหว่างที่จะนำกลับมาฟื้นฟูให้ลูกค้าทราบว่า ปัจจุบันยังมีการทำตลาดอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 นำรถมาแสดง ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีลูกค้าเริ่มจำได้ว่า ในอดีตเป็นรถที่มีสมรรถนะที่ดี ประหยัด เห็นได้ชัดว่าแสดงในงานเพียงไม่กี่วัน มียอดจองทุกบแรนด์กว่า 100 คัน ซึ่งยอดรวมปีที่แล้ว มียอดขายกว่า 200 คัน
ฟอร์มูลา : คุณมองว่าสถานการณ์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบันของไทย เป็นอย่างไร ?
วิชชุดา : ดูจากยอดขายโดยรวมของปีที่แล้ว ที่สูงถึงกว่า 800,000 คัน ถือว่าตลาดเติบโตอย่างมาก โดยรถยนต์นั่งเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50 % และส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ประหยัดพลังงาน ทำให้มองว่าในปีนี้ รถยนต์นั่งขนาดเล็กก็ยังคงจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในด้านราคา แคมเปญ แต่สุดท้ายผู้ได้รับผลประโยชน์ ก็จะเป็นผู้บริโภค
ฟอร์มูลา : ปีนี้ในแต่ละบแรนด์ จะมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?
วิชชุดา : ซีตรอง จะมีรุ่น เดแอส ตรัวส์/เอมทีเอม เอาดี เอ 1 และ เอ 7/สโกดา ซูเพิร์บ และ เยตี
ฟอร์มูลา : คุณวางแนวทางการตลาดไว้อย่างไรบ้าง ?
วิชชุดา : ในแต่ละบแรนด์จะมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดยบริษัท ฯ จะเริ่มดูจากจุดนี้เป็นหลัก เช่น ลูกค้าชอบรถแบบไหน ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร เพราะเหตุใดจึงชอบ เช่น ซีตรอง เดแอส ตรัวส์ คอนเซพท์เข้ากับแฟชัน โดยเริ่มตั้งแต่การดีไซจ์นจากต่างประเทศ ออกแนวทันสมัย ทเรนดี ทำตลาดทั่วโลก ดังนั้นในประเทศไทย การทำตลาด ซีตรอง เดแอส ตรัวส์ จึงสร้างให้ผู้บริโภคเห็นว่าเหมาะกับคนหนุ่มสาว วัยทำงาน ทันสมัย หรือแม้แต่เทคโนโลยีต่างๆ ที่มีในรถ
ฟอร์มูลา : คุณตั้งเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และอนาคตอย่างไร ?
วิชชุดา : หน้าที่รับผิดชอบด้านการตลาด และประชาสัมพันธ์จำเป็นต้องใช้งบอย่างมาก แต่เป้าหมายการทำงานเพื่อให้ธุรกิจก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่ต้องการใช้งบมาก เพราะมองว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องลงทุนใช้เงินมาก เพราะสินค้ามีคุณสมบัติที่ดี ที่จะสร้างความสำเร็จทั้งในด้านยอดขาย และการยอมรับจากลูกค้า เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ฟอร์มูลา : โชว์รูมและศูนย์บริการ มีที่ใดบ้าง ?
วิชชุดา : สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการ จะแบ่งโชว์รูม และศูนย์บริการบแรนด์เดียว หรือบางแห่งก็จะมีหลายบแรนด์ หรือมีแต่โชว์รูม และแยกเป็นศูนย์บริการเพียงอย่างเดียว เช่น สยามพารากอน จะเป็นโชว์รูมของ เอมทีเอม สไปเคอร์ ซึ่งช่วงหลังจะมี สโกดา ร่วมอยู่ด้วย ด้านหัวหมาก ถ. นราธิวาสราชนครินทร์ เธอะมอลล์ บางกะปิ จะเป็นของ ซีตรอง สุขุมวิท 101 สโกดา และ เอมทีเอม นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท ฯ
ฟอร์มูลา : ปีนี้คุณตั้งเป้ายอดขายโดยรวมเท่าไร ?
วิชชุดา : การจำหน่ายในแต่ละปี ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขาย แต่หวังว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าได้ยอดขายกว่า 200 คัน ก็พอใจแล้ว แต่ปีนี้สำหรับ ซีตรอง เดแอส ตรัวส์ ซึ่งจะเป็นหัวหอกในการสร้างยอดขายให้แก่บริษัท ฯ มีความพร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะการส่งมอบรถให้แก่ลูกค้า
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/82824