รู้ไว้ใช่ว่า
ลีมูซีน/ที่จอดรถเป็นเหตุ
อาชีพที่เราน่าจะทำกันบ้าง เพื่อเพิ่มสีสัน นั่นคือ บริการ เช่ารถหรู โดยมีพนักงานขับรถให้พร้อม
โธ่ เขามีตั้งนานแล้วล่ะลุง
ไม่ใช่ยังงั้น ไม่ได้หมายถึง บริการเช่ารถทั่วๆ ไป ทั้งกิจการของไทยแท้ หรือต่างชาติ ซึ่งเป็นบริษัทดังๆ มาเปิดสาขา มีรถชนิดต่างๆให้เช่าระยะสั้น ระยะยาว แบบนี้เขามีแล้วล่ะ
ผมหมายถึงกิจการให้เช่ารถพิเศษ ที่เรียกว่ารถ ลีมูซีน" (LIMOUSINE) หรือ ลีโม" (LIMO) บวก รถโบราณ แต่หรูหน่อยเข้าไปด้วยก็ได้ ทำเป็นรายย่อย ไม่ต้องเป็นบริษัท กิจการพรรค์นี้ที่เมืองนอก เช่น สหรัฐอเมริกา ผมเห็นมีอยู่ตามเมืองต่างๆ
แต่ละแห่งมีรถไม่กี่คัน เน้นรถลีมูซีนขนานแท้ ไม่ใช่รถที่เอามาโฆษณาว่าเป็นลีมูซีนให้เช่าอย่างของเรา ซึ่งแท้ที่จริงเป็นรถเก๋ง 4 ประตู แต่ใช้รุ่นใหญ่หน่อย ใช้คำว่า ลีมูซีน เพราะมีการกั้นที่นั่งคนขับให้แยกจากผู้โดยสาร เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
ส่วนรถลีมูซีนที่ผมยุให้เอามาเช่า คือ รถยนต์นั่งที่มีมากกว่า 4 ประตู เช่น 6 หรือ 8 ประตู อย่างที่เห็นในหนังฝรั่ง คันยาวยืด นั่งได้ 8-10 คน อะไรประมาณนั้น ช่างบ้านเราเก่ง ตัดแล้วต่อรถเหล่านี้เองได้สบาย โดยใช้รถเก๋งรุ่นต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้านเรา จะเป็นรถฝรั่งหรือญี่ปุ่นก็ตามแต่ คงไม่ต้องนำเข้ารถลีมูซีนขนานแท้ของมะกัน จำพวก ลินคอล์นทาวน์คาร์ แคดิลแลค ฟอร์ด บางรุ่น หรือแม้กระทั่ง ฮัมเมอร์ ที่เขาเอามาทำเหมือนกัน ให้เปลืองทุน แล้วหารถโบราณที่ดูดีพอสมควร สีใหม่หน่อย แกล้มเข้าไปด้วยสักคัน ก็สามารถรับจ้างให้คนเช่า เพื่อกิจกรรมไฮโซ เช่น พิธีแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานรื่นเริง งานสังสรรค์ งานประชาสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวไทย หรือต่างชาติ ที่เขาอยากสบายอยากเท่ นั่งกินเหล้าเคล้า... ในรถได้สบายๆ โดยมีคนขับ ไม่ต้องห่วงความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวตำรวจซิว ดังเช่นที่ฝรั่งเขาทำกันอีแบบนั้น
แต่เราคงไม่ต้องเอารถลีมูซีนพ่นดำไปรับจ้างงานศพนะเอ้อ เพราะลูกค้าเห็นเข้าสยอง ไม่กล้าว่าจ้างหรือเช่าไปงานแต่งงานมงคลแน่นอน คนไทยถือ แม้ฝรั่งไม่ถือก็ตามแต่
พูดถึงรถลีมูซีนก็เอาประวัติมานิดหนึ่ง เขาถือว่ามีการริเริ่มตั้งแต่ปี 1908 โน่นแน่ะ มีคนผลิตรถยี่ห้อ สตัดเบเคอร์ จัดที่นั่งคนขับแยกต่างหาก ที่นั่งผู้โดยสารปิดกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ไม่ได้ยาวเฟื้อยเป็น 10 วา มีประตูเยอะๆ อย่างรถลีมูซีนทุกวันนี้
โดยทั่วไปรถลีมูซีนนิยมสีดำขลับ กับสีขาวจั๊วะ ไม่นิยมสีอื่น ทุกวันนี้มีการใช้รถชนิดต่างๆ รวมทั้งเจ้ารถกระบะจำพวกเฮวีของฝรั่ง ไม่ใช่กระบะขนาดย่อมอย่างบ้านเรา และรถอื่นๆ มาทำเป็นรถลีมูซีนด้วยเช่นกัน ไม่ผูกขาดเฉพาะรถ ลินคอล์น ทาวน์คาร์ ในสายตาผม ยี่ห้อเก่าเจ้าเก่า ดูขลังกว่า ถือว่าเป็นสายพันธุ์แท้ ถ้านำมาให้เช่าในบ้านเรา คงหาลูกค้าได้ง่ายกว่า ใครเห็นดีเห็นงาม มีทุนหน่อยจะลองดูก็ได้ รุ่งไม่รุ่งวัดดวงเอาเองนะครับ
อ้อ ลีมูซีนยาวที่สุดในโลกเห็นว่ามีเหมือนกัน ยาวกว่าใครทั้งหมดจริงไหม ก็ว่าไปตามที่เขาบอกในอินเตอร์เนท ยาวเหยียดยิ่งกว่าตู้รถไฟ มีล้อยั้วเยี้ย คงเอาเท่ เอาสถิติมากกว่า ขับไปไหนต้องหาตำรวจมากันทาง ถึงจะไปได้กระมัง ถ้าใช้ในบ้านเราคงดูไม่จืด แค่รถเมล์ รถบัส ยังเฉี่ยวชนชาวบ้านเป็นว่าเล่น
มาถึงตอนนี้หวังว่าชาวบ้านตาดำๆ อย่างเราๆ ท่านๆ คงเลิกตามแห่การปลุกปั่นของนักการเมืองไม่ว่าฝ่ายไหนเสียที เลิกชุมนุมเสียที บ้านเราจะได้สงบสุข เศรษฐกิจฟื้นตัว ผู้คนจะได้มาท่องเที่ยวบ้านเราเยอะๆ ได้สุขสบายถ้วนหน้า มัวแต่รบราฆ่าฟันกันเอง บ้านเมืองและตัวเรานั่นแหละจะล่มจมไปพร้อมๆ กัน ไม่มีใครเก่งไม่มีใครชนะหรอกครับ พังไปด้วยกันนั่นแหละ
คดีงวดนี้น่าสนใจ รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้ พูดดื้อๆ ยังงี้แหละ
นายโฮเทล แกเป็นคนบ้านเรา แถมยังทำกิจการโรงแรมเหมือนชื่อ สาเหตุที่มีเรื่องขึ้นศาล เพราะแกไปเช่าที่ดินของเทศบาล อยู่ติดโรงแรมเพื่อทำเป็นที่จอดรถลูกค้า แล้วมีปัญหา ไปยืนเหล่ดูตึกแถวซึ่งอยู่ติดกับที่เช่าอันเป็นที่จอดรถแล้วปวดหัวหนึบ เนื่องจากเจ้าของตึกแถว 3 คูหา สร้างหลังคากันสาด มีเสาซะด้วย ล้ำเข้าไปในที่จอดรถ ยาว 8 เมตร กว้าง 3 เมตร นายโฮเทล ใช้พื้นที่ไม่ได้ทั้งหมดตามที่เช่า ขณะที่เจ้าของตึก คือ นายเผื่อแผ่ ไม่เผื่อแผ่เหมือนชื่อ ไม่ยอมเจรจาด้วย เลยไปโต๋เต๋ที่ศาล ยื่นฟ้องบังคับให้ นายเผื่อแผ่ รื้อหลังคาที่รุกล้ำนั้นเสีย
นายเผื่อแผ่ ปรึกษาทนายแล้วบ่ยั่น เชื่อว่าชนะแน่ๆ เพราะหลังคาส่วนที่รุกล้ำสร้างไว้ก่อนที่ นายโฮเทล จะมาเช่าที่ดิน ทำเป็นที่จอดรถ อีกทั้งที่ดินเป็นของเทศบาล นายโฮเทล ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน จะมาใช้สิทธิ์อะไรฟ้องร้อง จึงตั้งการ์ดสู้ ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วตัดสินให้ นายโฮเทล ชนะคดี
จำเลย คือ นายเผื่อแผ่ ไม่ท้อ แก้เกมด้วยการยื่นอุทธรณ์ ยันไปอย่างเดิม แล้วมีเฮ เพราะศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องของ นายโฮเทล เสีย
โจทก์ คือ นายโฮเทล ต้องเดินหน้าด้วยการยื่นฎีกาเพื่อเอาชนะ
ศาลฎีกาเหล่ดูคดีนี้ด้วยความเมื่อยขบ แล้วชี้ขาดออกมาว่า
นายโฮเทล เช่าที่เทศบาลใช้เป็นที่จอดรถสำหรับกิจการโรงแรมของตน แล้วมีหลังคากันสาดที่ตึกของ นายเผื่อแผ่ รุกล้ำที่ดินที่เช่า นายโฮเทล ไม่สามารถใช้ หรือรับประโยชน์จากที่ดินโดยสะดวก ได้รับความเดือดร้อนเสียหายเกินควรหรือคาดหมาย แม้ นายโฮเทล เป็นเพียงผู้เช่า แต่เมื่อ นายโฮเทล เป็นเจ้าของโรงแรมอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษ จากการกระทำของ นายเผื่อแผ่ จึงมีอำนาจฟ้องเพื่อขจัดปัญหา ตามกฎหมายแพ่ง มาตรา 421 และ 1337 แม้ นายเผื่อแผ่ จะติดตั้งหลังคากันสาด ก่อนที่ นายโฮเทล มาเช่าที่ดินจากเทศบาลก็ตาม ไม่ทำให้ นายโฮเทล เสียสิทธิ์การใช้ที่ดิน จึงมีสิทธิ์ฟ้องอย่างเต็มที่
ศาลฎีกาจึงพิพากษากลับให้ นายโฮเทล ชนะคดีตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้นั่นแล
คดีนี้ถ้ามีการพนันขันต่อในตอนแรก ต้องมีคนถือหาง นายเผื่อแผ่ ว่าจะชนะแหงๆ เพราะมองว่า นายโฮเทล ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน และไม่ได้รับมอบอำนาจจากเทศบาลให้มาฟ้องร้อง แต่ผลออกมาอย่างที่เห็น ใครมีปัญหาอย่างนี้ คงรู้แล้วว่าใครเป็นต่อถ้าขึ้นโรงขึ้นศาล เห็นหรือยังว่ารู้ไว้ดีกว่าไม่รู้ชัวร์
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2546
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/82687