ใส่สีใส่สัน
รูปแบบ 3 มิติ
หลังจากที่ผมมีโอกาสไปเที่ยวสหรัฐ ฯ และได้เข้าชมภาพยนตร์เรื่อง E.T.: THE EXTRA-TERRESTRIAL ที่โรงภาพยนตร์ไชนีสเธียเตอร์ ในย่านฮอลลีวูด ผมก็ชื่นชมความเป็นผู้กำกับของ สตีเวน สปีลเบิร์ก และเริ่มติดตามผลงานของเขาด้วยความนับถือ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบมากในความคิดริเริ่มในด้านของการสร้างสรรค์ สำหรับ สปีลเบิร์ก นั้นเริ่มทำหนังออกมาเรื่องหนึ่งเป็นหนังเล็กๆ ถ้าจำไม่ผิดก็เป็นหนังชื่อเรื่อง THE DUEL ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหนังออกมาได้ เรื่องราวว่าด้วยการดวลกันระหว่างรถเก๋งกับรถพ่วงบนทางหลวง หลับตามองเห็นภาพก็เหมือนมองเห็นหนูกับช้างดวลกัน รถเก๋งเป็นฝ่ายหนี รถพ่วงคันเท่าช้างเป็นฝ่ายรุกไล่อย่างไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายรถเก๋งก็ล่อช้างอยู่ริมหน้าผาสูงชัน และช้างก็ไล่ชนจนตัวเองตกลงไป-THE END
นั่นผมถือว่าเป็นอัจฉริยะของคนอย่าง สปีลเบิร์ก ซึ่งเขาก็สร้างความโดดเด่นให้กับวงการภาพยนตร์ของโลกได้อย่างเมามันบันเทิงที่ไม่ซ้ำรูปแบบใคร ถัดจาก สปีลเบิร์ก มาแล้ว ในวันนี้ผมก็ต้องยกย่อง เจมส์ คาเมรอน หลังจากให้ความนับถือและตามงานของเขามานานก่อน TITANIC อันที่จริงเพียงลำพัง TITANIC ถ้าผมเป็นอเมริกันชนอยู่ในแอลเอ ก็คงต้องควานหาตัว คาเมรอน แล้วไปคุยด้วย ถ้าสามารถเข้าถึงตัวได้
ไม่เป็นเรื่องแปลกใจแม้แต่นิดเดียวที่ คาเมรอน ได้เงินจากเรื่องนี้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ซ้ำยังได้รับรางวัลจากการสร้างงานศิลปะของเขาในทุกเวทีโลก และหลังจาก TITANIC มา โลกภาพยนตร์ก็เกิดอาการระลอกคลื่นลูกใหม่ด้วยหนังเรื่อง AVATAR ผลงานล่าสุดของ คาเมรอน
หนังอะไรก็ไม่รู้ สวยงามจนพรรณนาไม่ถูกในการถ่ายทำ
และที่ริเริ่มออกมาอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นของแท้ ก็คือ การที่ คาเมรอน สร้าง AVATAR ในรูปแบบ 3 มิติ เป็นรูปแบบที่สมบูรณ์ในความรู้สึกตอบกลับจากผู้ชมอย่างไร้ข้อตำหนิ หนัง 3 มิติ นั้นเป็นศิลปะธรรมดาที่เกิดในวงการภาพยนตร์มาช้านานแล้ว แต่ไม่ได้รับความนิยม มีก็มีไป และมันก็เท่านั้น วันนี้ในดิสนีย์ซี
ที่โตเกียว ผมเข้าไปชม SHREK เป็นหนัง 4 มิติ ภาพ 3 มิติ แต่ดันมีมิติที่ 4 กับคนดู คือ ถ้าในจอภาพยนตร์มีแมลงบินมา ขากางเกงของผมก็จะสั่นพึ่บพั่บเหมือนถูกแมลงรบกวน ถ้าน้ำกระเซ็นขึ้นมาบนจอ ก็จะรู้สึกว่าหน้าตาของเราถูกละอองน้ำมาตีแสกหน้าไปด้วย แต่กระนั้นก็เถอะผมก็ว่ามันแตกต่างจากรูปแบบ
3 มิติ ในหนังเรื่อง AVATAR ของ คาเมรอน ซึ่งเทคโนโลยีในเรื่องนี้ของเขาเริ่มมานานแล้วตั้งแต่ยุคสมัยที่เขายังถ่ายทำเรื่อง TITANIC ไม่แล้วเสร็จ
อย่างน้อยที่สุดนับตั้งแต่ความคิดของเขาปะทุขึ้นมาในสมอง ผมก็คิดว่าไม่ต่ำกว่า 10-12 ปี สำหรับโครงการ 3 มิติ ใน AVATAR ที่ คาเมรอน สร้างมันขึ้นมาอย่างประณีต และวิจิตรพิสดาร คาเมรอน ก้าวเร็วกว่าเทคโนโลยี แต่เขาคือมนุษย์ จำเป็นต้องซอยเท้าอยู่กับที่ รอให้เทคโนโลยีก้าวตามมาทันกับความคิดความอ่านของเขา...
และนี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า ความคิดริเริ่มแห่งการสร้างสรรค์
ผมถือว่า คาเมรอน คือ ผู้จุดประกายให้กับโลกภาพยนตร์ ทุกวันนี้อิทธิพล 3 มิติของเขาครอบงำทุกภาคส่วนของความบันเทิง แม้แต่โทรทัศน์ก็ยัง HIGH DEFINITION TELEVISION บวกเครื่องส่งสัญญาณ 3 มิติ ดูแล้วลืมเมียในห้องนอนไปเลย ล่าสุดขณะผมบันทึกเรื่องอยู่นี้ นิตยสารสำหรับผู้ชาย "PENTHOUSE" ก็ริเริ่มเป็นนิตยสารฉบับแรกที่เตรียมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาสู่โลกที่เปื้อนหมึก ด้วยการประกาศ "PENTHOUSE THREE-D"
โครงการ "PENTHOUSE THREE-D" เป็นโครงการที่ลงสู่จอ PENTHOUSE คาดหมายว่าจะเริ่มออกอากาศกว่า 30 สถานี ใน 15 ประเทศ ประมาณไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ คาเมรอน ตอนนี้อายุ 56 ปี ไฟในตัวกำลังร้อนแรงเดือดพล่าน และยังไม่หยุดกับที่หลังจากปลุกระดมรูปแบบ 3 มิติ เขากำลังสร้างโครงการใหม่ ผลงานใหม่ และถ้าคาดไม่ผิดพลาด เขาก็กำลังลงไปใต้น้ำ ทำอะไรสักอย่างให้โลกภาพยนตร์ตะลึง
สุดยอดผู้กำกับคนนี้ เปิดเผยประวัติตัวเองว่า หลังจากได้ดูหนังเรื่อง STAR WARS ในปี 1977 ขณะที่เขาอายุ 23 ปี ก็ตัดสินใจเลิกอาชีพคนขับรถบรรทุก กระโจนเข้าหาโลกภาพยนตร์ สิ่งที่จุดประกายมากที่สุด ก็คือ เทคโนโลยีในการสร้างภาพยนตร์
เขาเริ่มต้นประถมศึกษาบทภาพยนตร์ เริ่มต้นประดิษฐ์เครื่องมือในการสร้างภาพเคลื่อนไหว เพื่อหาทางเป็นเจ้านาย สามารถควบคุมการทำงานของกล้องถ่ายภาพยนตร์ สั่งให้มันบันทึกภาพในจินตนาการของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ในไม่ช้าหนุ่มชาวแคนาดาคนนี้ ก็สามารถยึดตำแหน่ง SPECIAL EFFECTS DIRECTOR ก่อนก้าวขึ้นไปสู่ความเป็นนักเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง THE TERMINATOR เขียนบทเสร็จแล้วก็เอาไปขายเพราะต้องการจะกำกับการแสดงด้วยตนเองอีกต่างหาก หนังเรื่องนี้ลงทุน 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ แต่ทำรายได้ทะลุสถิติทั่วโลก ทำได้มากกว่า 78 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ THE TERMINATOR จากความคิดของ คาเมรอน ตีตะลุยถึงภาค 2 ทำรายได้ฉลุยกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ และโลกภาพยนตร์ก็จำเป็นต้องนำเขามาสู่ทำเนียบผู้กล้า ผมนับถือ คาเมรอน ครับ
ทั้งๆ ที่วงการภาพยนตร์เห็นว่า อย่างไรก็ดี เขาก็ยังเป็นรอง สตีเวน สปีลเบิร์ก ในข้อความที่ว่า
HE IS THE SECOND-HIGHEST GROSSING DIRECTOR OF ALL TIME, BEHIND STEVEN SPIELBERG.
เรื่องโดย : บรรเจิด ทวี
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/82544